Odakyu Romancecar เป็นรถไฟด่วนพิเศษของบริษัทรถไฟฟ้า โอดะคิว ซึ่งจะเชื่อมต่อจากใจกลางเมืองโตเกียว คือสถานี ชินจูกุ ถึงสถานที่ท่องเที่ยว ฮาโกเน่ และ เอโนชิมะ
รถไฟ Romancecar ที่ให้บริการเดินรถในปัจจุบันจะมีอยู่ 5 รุ่น นับตั้งแต่รุ่น EXE (30000 series) ที่เปิดตัวเมื่อปี 1996 จนถึงรุ่น GSE (70000 series) ที่เปิดตัวเมื่อปี 2018
ค่าโดยสาร
รถไฟด่วนพิเศษจะมีเพิ่มค่าบริการจากค่ารถไฟตามปกติ ซึ่งถ้าใครถือพาสต่างๆ ของโอดะคิวที่ออกจากสถานีชินจูกุ จะเสียเพิ่มเติมแค่ค่าส่วนต่างของรถไฟด่วนพิเศษเท่านั้น
Shinjuku Station – Hakone Yumoto Station
ค่ารถไฟด่วนพิเศษ 1,110 yen + ค่าโดยสารปกติ 1,220 yen ราคาเต็ม 2,330 yen
Shinjuku Station – Katase-Enoshima Station
ค่ารถไฟด่วนพิเศษ 630 yen + ค่าโดยสารปกติ 640 yen ราคาเต็ม 1,270 yen
ราคาข้างต้น คือราคาจากต้นสถานีถึงปลายสถานี แต่ถ้าลงระหว่างสถานี ราคาก็จะปรับเปลี่ยนไปตามระยะทาง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.odakyu.jp/english/romancecar/surcharges/
จุดจำหน่ายตั๋วจะมีเว็บไซต์ e-Romancecar, Odakyu Sightseeing Service Center (Shinjuku West, Odawara), เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติในสถานี, และเคาน์เตอร์ทัวร์ของ Odakyu Travel
จองตั๋วออนไลน์ได้ทาง https://www.web-odakyu.com/e-romancecar/?language=en&country=
รถไฟที่วิ่งในแต่ละรอบเวลา จะเป็นรุ่นรถไฟที่แตกต่างกัน ดูตารางเวลาและรุ่นรถไฟที่วิ่งได้ในลิ้งค์ด้านล่าง https://www.odakyu.jp/english/romancecar/timetable/
หรือถ้าหากใครไม่สะดวกจองทางออนไลน์ ก็ไปถามและจองที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วก็ได้ จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการทุกวัน
70000 series GSE
รุ่นล่าสุดที่เปิดตัวในปี 2018 เป็นรุ่นที่สร้างมาเพื่อให้ผู้โดยสารได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพตลอดเส้นทาง ด้วยหน้าต่างที่สามารถมองเห็นวิวได้และมีการออกแบบให้มีพื้นที่กว้างมากขึ้นเหมาะสำหรับกระเป๋าเดินทางและสัมภาระขนาดใหญ่ มี Wifi ในตัว เป็นดีไซน์ที่คำนึงถึงผู้โดยสารทุกคนเพื่อให้สามารถใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย
และลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่ง คือ มีที่นั่งชมวิวด้านหน้าสุดสำหรับผู้โดยสาร โดยห้องของคนขับรถไฟจะอยู่ด้านบนของรถไฟแทน ถ้าใครอยากนั่งตรงนี้ ต้องรีบจองล่วงหน้าเท่านั้นเลย
60000 series MSE
เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2008 เป็นรถไฟด่วนพิเศษแบบจองที่นั่งคันแรกที่วิ่งบนทางรถไฟใต้ดิน โดยวันธรรมดาจะวิ่งให้บริการสำหรับผู้โดยสารคนทำงานที่อยากนั่งเบาะหรูหราแบบสบายๆและเดินทางผ่านใจกลางเมือง เช่น ย่าน Otemachi และ Kasumigaseki ส่วนในวันหยุดจะวิ่งเชื่อมต่อระหว่างสถานี Kita-Senju ไปจนถึงสถานี Hakone-Yumoto
ตัวรถไฟเพ้นท์เป็นสีฟ้า ซึ่งเป็นสีที่สว่างเห็นได้ชัดแม้วิ่งอยู่ในใต้ดิน ภายในรถไฟออกแบบอย่างหรูหราด้วยไฟ LED และพรมสีแดง มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆซึ่งคำนึงถึงผู้โดยสารและสิ่งแวดล้อมรวมถึงห้องน้ำอเนกประสงค์เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และติดตั้งมอเตอร์เพื่อช่วยลดเสียงรบกวน ทำให้รถไฟมีเสียงเบาขณะวิ่ง จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
50000 series VSE
เปิดตัวในปี 2005 VSE (ย่อมาจาก Vault Super Express) เป็นรุ่นที่ 7 ของ Romancecar ผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย เพดานรูปโดมสูง 2.55 เมตร ด้านหน้ารถไฟมีที่นั่งชมวิว โดยติดตั้งกระจกขนาดกว้างพิเศษเพื่อให้เห็นวิวได้อย่างสบายตา
30000 series EXEα
เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2017 เป็นรุ่นพัฒนาของ ROMANCECAR EXE โดยเพิ่มองค์ประกอบต่างๆเข้าไป เพื่อทำให้รถไฟดูสวยงามและสะดวกสบายต่อผู้โดยสารมากขึ้น ภายนอกดูเรียบง่ายโดยมีเพียงสองสีเท่านั้น พร้อมด้วยเส้นสีส้มแดงของ Romancecar แบบดั้งเดิม มีพื้นที่สำหรับการจัดเก็บกระเป๋าเดินทางไว้โดยเฉพาะ ห้องน้ำมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน รวมทั้งโถชำระล้างด้วยน้ำอุ่น เพื่อความสะดวกในการเที่ยวชมสถานที่หรือการเดินทาง ผู้โดยสารที่มีเด็กหรือใช้เก้าอี้รถเข็น ก็ใช้ขบวนนี้ได้สะดวก
30000 series EXE
EXE ชื่อของรุ่นที่ 6 ในซีรีส์ ย่อมาจาก Excellent Express รถไฟมีจำนวน 10 ตู้ เพิ่มความสามารถในการจุผู้โดยสารได้มากยิ่งขึ้น ดีไซน์ภายในสะดวกสบายและเรียบง่าย โดยรถไฟรุ่นนี้ได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจเป็นจำนวนมากสำหรับการเดินทางในทุกๆวัน
รุ่นรถไฟทั้งหมดในบทความนี้เป็นซีรี่ส์รุ่นรถไฟในปัจจุบัน ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2022 ในอนาคตรุ่นรถไฟที่วิ่งให้บริการอาจมีการเปลี่ยนแปลง
มาตราการป้องกัน Covid-19
ภายในขบวนรถไฟด่วนพิเศษ Romancecar จะไม่สามารถเปิดหน้าต่างได้ แต่ภายในรถไฟมีระบบปรับอากาศที่หมุนเวียนอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกเข้ามา และมีระบบระบายอากาศไล่อากาศเก่าออกจากตัวขบวนได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดฆ่าเชื้อบริเวณจุดที่ได้รับการสัมผัสบ่อยๆอย่างเคร่งครัดอีกด้วย
ช่วงการแพร่ระบาดของ Covid-19 รถไฟจะหยุดให้บริการรถเข็นจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม
Romancecar Museum
พิพิธภัณฑ์ Romancecar Museum ถือเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการถาวรในร่มแห่งแรก นับตั้งแต่เปิดให้บริการรถไฟสายโอดะคิวเมื่อปี ค.ศ.1927 ซึ่งด้านในพิพิธภัณฑ์จะจัดแสดงมุมต่างๆมากมายในคอนเซ็ปต์ “พิพิธภัณฑ์รถไฟที่สนุกได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่” ที่จะมอบช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม ควบคู่ไปกับการถ่ายทอดประวัติศาสตร์ของรถไฟโอดะคิวไปยังคนรุ่นหลัง อย่างการจัดแสดงรถไฟด่วนพิเศษโรแมนซ์คาร์รุ่นต่างๆตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและยังมีโซนแสดงภาพสามมิติเสมือนจริงจำลองพื้นที่และทิวทัศน์ตามเส้นรถไฟสายโอดะคิวให้ชมด้วย นอกจากนั้นทุกคนยังสามารถสนุกไปกับการจำลองขับรถไฟได้ด้วยนะ โดยอาคารพิพิธภัณฑ์จะตั้งอยู่ติดกับสถานี เอบินะ (Ebina Station)
เวลาทำการ : 10:00 น. – 18:00 น. (รอบเข้าชมสุดท้าย 17:30 น.)
วันหยุด : ทุกวันอังคาร ของสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน
*อาจมีวันหยุดอื่นๆ โปรดเช็คที่เว็บไซต์หลักอีกครั้งก่อนเดินทาง
*เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในขณะนี้กำหนดให้จองรอบเข้าชมล่วงหน้าเท่านั้น สามารถจองคิวเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป) 900 เยน เด็ก (นักเรียนประถม) 400 เยน และเด็กเล็ก (อายุ 3 ปีขึ้นไป) 100 เยน
*สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ฟรี
*เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 อาจจำกัดการเข้าชมพื้นที่มุมจัดแสดงบางส่วน
พิกัด : https://goo.gl/maps/hdAMmXnhw4Gu1jZp8
การเดินทาง : โดยสารรถไฟสายโอดะคิว จากสถานีชินจูกุมายังสถานีเอบินะ ประมาณ 50 นาที พิพิธภัณฑ์อยู่ด้านข้างติดกับสถานีเอบินะ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.odakyu.jp/romancecarmuseum/
ดูข้อมูลรถไฟ โอดะคิว Odakyu เพิ่มได้ที่ https://www.odakyu.jp/english/romancecar/
ติดตามอ่านข้อมูลท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นอื่นๆได้ที่ https://go-graph.com/category/japan/
