Mie Ume Season เที่ยว มิเอะ ในฤดูดอกบ๊วยบาน

มิเอะ (Mie) จังหวัดที่อยู่ในภูมิภาคชูบุ (Chubu) ตอนล่างของนาโกย่า เป็นอีกจังหวัดที่นักท่องเที่ยวต่างชาติค่อนข้างน้อย แต่คนญี่ปุ่นไปเที่ยวค่อนข้างเยอะ เพราะที่นี้มีศาลเจ้าอิเสะ ศาลเจ้าหลวงที่ถือว่าสำคัญที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ รีวิวนี้เราพาทุกคนมาเที่ยว Mie Ume Season เที่ยวมิเอะในฤดูดอกบ๊วยบาน

นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งธรรมชาติ อาหารทะเลที่ขึ้นชื่อ และแหล่งชมบ๊วยที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยทีเดียว มิเอะ จังหวัดนี้มีของดีเยอะกว่าที่คิด

การมาเที่ยวจังหวัดมิเอะ การเดินทางสะดวกที่สุดคือลงที่สนามบินชูบุ ที่นาโกย่า โดยเราเดินทางด้วยสายการบิน ThaiAirAsiaX บินตรงทุกวันจากกรุงเทพดอนเมือง

เมื่อมาถึงนาโกย่าแล้ว การเดินทางเพื่อไปมิเอะ หลักคือการเดินทางด้วยรถไฟและรถบัส เราเลยของแนะนำพาสสุดคุ้มที่สุดในการเดินทางเที่ยวในมิเอะเลยคือ Kintetsu Rail Pass 

ตั๋ว Kintentsu Rail Pass 

จะมีทั้งหมด 4 แบบ 1 Day , 2 Days, Kintetsu Rail Pass และ Kintetsu Rail Pass Plus

ซึ่งการเดินทางไปเที่ยวมิเอะ เหมาะสมที่สุดคือ Kintetsu Rail Pass Plus เพราะสามารถใช้รถบัสเที่ยวในบริเวณมิเอะ ได้ด้วยนั้นเอง

Kintetsu Rail Pass Plus  5 Days

ราคา ผู้ใหญ่: 3,600 เยน เด็ก: 1,800 เยน ถ้าซื้อจากตัวแทนนอกประเทศ

ระยะเวลาการใช้งาน 5 วันติดต่อกัน

สามารถใช้เดินทางได้ โอซาก้า เกียวโต นารา มิเอะ นาโกย่า ตามเส้นทางของรถไฟ Kintetsu แต่ถ้าจะนั่งขบวน Express จำเป็นต้องจ่ายค่านั่งพิเศษเพิ่มเติมอีก ซึ่งแนะนำก็แค่ช่วงโอซาก้า นาโกย่า ที่จำเป็น แต่ถ้าเราเที่ยวในมิเอะ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มแล้ว นั่งขบวนปกติก็พอ

ซื้อ Kintentsu Rail Pass ผ่าน Klook ราคาถูกกว่า ได้ที่ http://bit.ly/2kRG4E1

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.kintetsu.co.jp/foreign/thai/ticket/index.html

ซื้อ Kintentsu Rail Pass ผ่าน Klook ราคาถูกกว่า ได้ที่ http://bit.ly/2kRG4E1

Ise Jingu Shrine

ศาลเจ้าอิเสะ ศาลเจ้าของศาสนามชินโตที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น สร้างมาแล้วถึง 2,000 ปี ทำให้คนญี่ปุ่นต้องมาสังการะ ขอพร ณ ศาลเจ้าแห่งนี้ให้ได้ ว่ากันว่าคนญี่ปุ่นมาถึง 8 ล้านคนต่อปีเลย 

ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อนคริสตกาลหรือตรงกับ พ.ศ. 539 เพื่อถวายความศรัทธาแด่เทพีอามาเตราซุหรือเทพีแห่งพระอาทิตย์ โดยตั้งแต่ยุคอาซูกะทางราชสำนักจะส่งเจ้าหญิงหรือเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงที่ยังไม่ผ่านการเสกสมรสมาเป็นหัวหน้านักบวชหญิงหรือไซโอประจำศาลเจ้าอิเซะ กระทั่งถึงยุคราชสำนักเหนือ-ใต้ระบบไซโอจึงสิ้นสุดลง แต่ปัจจุบันทางราชสำนักก็ยังคงส่งเจ้าหญิงหรือเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงมาเป็นหัวหน้านักบวชหญิงโดยหัวหน้านักบวชหญิงคนปัจจุบันคือ ซายาโกะ คูโรดะ หรืออดีตเจ้าหญิงซายาโกะพระราชธิดาพระองค์เดียวในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ซึ่งขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้านักบวชหญิงสูงสุดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ศาลเจ้าอิเสะ จะแบ่งหลักๆ คือส่วนใน และส่วนนอก ศาลเจ้าตั้งอยู่ในป่าที่ขนาดใหญ่มาก ใหญ่ๆพอกับเมืองหลวงแห่งหนึ่งเลย ภายในมีศาลเจ้าทั้งหมด 125 หลัง ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถชมได้แค่ถึงส่วนในด้านหน้าเท่านั้น หรือประมาณแค่ 10% ของทั้งหมด ภายในถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีไว้สำหรับราชวงศ์ในการเข้ามาทำพิธีนั้นเอง 

ศาลเจ้าอิเซะยังเป็นที่เก็บรักษากระจกศักดิ์สิทธิ์หนึ่งในสามสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับองค์จักรพรรดิญี่ปุ่นที่ใช้ในพระราชพิธีราชาภิเษก ด้วยซึ่งนำมาใช้ในงานล่าสุดนั้นเอง

ศาลเจ้าอิเสะส่วนใน

ศาลเจ้าอิเสะ ถ้าเข้ามาหลายคน คงคิดว่าจะประดับ ตกแต่งอลังการแน่ๆ แต่พอเข้าไปจริงๆ ศาลเจ้าอิเสะเต็มไปด้วยความเรียบง่ายแบบญี่ปุ่น แต่มีความขลังมาก เป็นศาลเจ้าที่เราบอกเลยว่าเมื่อได้เดินผ่านศาลเจ้า ผ่านป่าสน รู้สึกเต็มไปด้วยพลังงานความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าอิเสะแห่งนี้

 

ส่วนในสุดที่ประชาชนทั่วไปจะเข้าได้ และถ่ายรูปได้แค่หน้าประตูเท่านั้น ภายในไม่สามารถถ่ายได้ มีรปภ ค่อยเฝ้าเวรตลอดเวลา

ความสูงใหญ่ของต้นไม้ในศาลเจ้าอายุ 2000 ปี ในบริเวณศาลเจ้าต้นไม้ห้ามตัดเด็ดขาด คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าทุกต้นเป็นแห่งสถิตของเทพเจ้า เพราะงั้นต้นไม้เหล่านี้ก็มีอายุพอๆกับศาลเจ้าเลย

Oharai-machi and Okage-yokocho

ถนนหน้าศาลเจ้าอิเสะ ทุกศาลเจ้าในญี่ปุ่นจะมีถนนสายของกินเสมอ เพราะคนจะเดินทางมาศาลเจ้าเยอะแยะ และด้วยศาลเจ้าอิเสะเป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุด ถนนของกินแห่งนี้เลยของกินเยอะมากกกกกก ถนนยาวประมาณ 1 กิโล แต่เต็มไปด้วยผู้คนและอาหาร

ชูชิหน้าเนื้อมัตซึซากะ เนื้อมัตซึซากะชื่อดังเป็นเนื้อที่เลี้ยงในจังหวัดมิเอะ นั้นเอง!

ไปแล้วห้ามพลาด Akafuku mochiโมจิถั่วแดงอย่างดี บอกเลยว่าอร่อยมากๆ คนญี่ปุ่นนิยมซื้อกลับบ้านเป็นของฝากจากอิเสะกัน เราสามารถซื้อทานพร้อมน้ำชา แล้วนั่งทานที่ร้านได้

ร้านชาสนู๊ปปี้ ที่ตอนนี้มีทุกถนนชื่อดังทั่วญี่ปุ่น แต่แต่ละสาขาจะมีของขายเฉพาะที่นั่นๆ

หอยนางรม ทีเด็ด เหมือนกันถ้ามาถึงมิเอะ

Isuzugawa Cafe 

ร้าน Isuzugawa Cafe เป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ในบ้านโบราณสมัยเอโดะ บนถนนสายโบราณ ตัวคาเฟ่เราสามารถนั่งชมแม่น้ำ Isuzugawa พร้อมจิบกาแฟคัดสรรอย่างดี และดริปโดยคุณลุง ค่อยๆทำทีละแก้ว และขนมหวานของร้านก็ห้ามพลาดเด็ดขาด ทำเพียงไม่กี่ชิ้นต่อวัน ทานพร้อมกาแฟ ชิมวิวชิลๆ ฟินมากกก

 

 

Okage-yokocho จะเรียกว่าย่านแมวกวักก็ได้ อยู่ติดกับถนน Oharai-machi นั้นแหละ เป็นย่านรวามร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ตั้งแต่อดีต

มาตรงนี้ห้าม Ise Udon อุด้งเส้นหนาๆ ในน้ำซุปโชยุเข้มข้นรสหวานเข้ม เส้นหนึบเด้งมากๆ

ร้านโครอเกะหมูที่ขายมากว่า 100 ปีแล้ว

นอกจากนั้นยะงมีของกินอีกเต็มไปหมด ข้าวหน้ามากุโระ กุ้งอิเซะ ดังโงะ เยอะ ถนนเส้นนี้ของกินเยอะมากมายจริงๆ

Toba

เมืองโทบะ (Toba) เมืองที่ตั้งอยู่ติดกับเมือง Ise เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ติดชายทะเล เลยจะมีตลาดปลา แหล่งประมง และขึ้นชื่อที่สุดคือ ไข่มุก 

MIKIMOTO PEARL ISLAND

เกาะไข่มุกมิคิโมโตะ เป็นสถานที่เริ่มคิดค้นวิธีเลี้ยงหอยมุกครั้งแรกในโลกในปี 1893 จากนั้นก็มีการพัฒนาเรื่อยๆ จนสามารถสร้างไข่มุกทรงกลม เรียบไม่ทั้งก้อนได้ จนมีชื่อเสียงดังไปทั่วโลก

ภายในมีพิพิธภํัณฑ์การเลี้ยงหอยมุก อธิบายตั้งแต่เริ่มต้น จนถึง เป็นเครื่องประดับ มีโชว์ไข่มุกแบบต่างๆ นอกจากเครื่องประดับแล้วยังทำเป็นเครื่องสำอางอีกด้วย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.mikimoto-pearl-museum.co.jp/eng/

มาที่นี้สามารถชมอามะจังดำน้ำเก็บของทะเลด้วย อามะจังคืออาชีพประมงตั้งแต่โบราณ มักจะเป็นผู้หญิงเกือบทั้งหมด จะดำน้ำลึกลงไปเก็บของทะเลต่างๆ ไม่ว่าหอย หรือกุ้ง 

Toba Aquarium

เดินมาไม่ไกลจากเกาะไข่มุก จะเจอกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ที่มีสัตว์หลากหลายมากที่สุด มีตู้ปลาใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นที่แห่งเดียวที่มีการอนุรักษ์พะยูนไว้ด้วยในญี่ปุ่น

แนะนำว่าห้ามพลาดชมโชว์สิงโตทะเล เพราะน่ารักมากๆๆๆๆๆ

บริเวณตลาดปลาโทบะ มีร้าน Toba Marche ที่จะขายอาหารทะเลสดๆ พร้อมบริการทำเป็นซาซิมิให้นั่งทานตรงนั้นได้เลย

Ise Paradise

อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในแถว Meoto Iwa หินคู่รักแห่งมิเอะ เรามาเที่ยวที่ Ise Paradise กันก่อน ที่นี้เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเล็กๆ และอาจแปลกหน่อยฮาๆ แต่ความพิเศษคือมีกิจกรรมที่ทำร่วมกับสัตว์ได้ ไม่ว่าแมวน้ำ โลมา ตัวนาก

ถ่ายรูปกับน้องแมวน้ำ 

จับมือกับนาก

และอันนี้ชอบที่สุดคือเล่นโยนบอลกับโลมา พลังเยอะมากๆ เล่นกับเราไม่ยอมหยุดเลย

ต่อไปมาเราเดินตามป้ายไปจนถึง Meoto Iwa หรือหินแต่งงานนั้นเอง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของศาสนาชินโต มีประตูโทริอิเล็กๆบนหินก้อนใหญ่ที่ถือว่าเป็นสามี และก้อนเล็กเป็นภรรยา ทุกปีจะมีพิธีเปลี่ยนเชือกให้กับ Meoto Iwa ด้วย คนญี่ปุ่นมักจะมาขอพรเกี่ยวกับความรักนั้นเอง

Ise Town

ตัวเมือง Ise เป็นที่นอนหลักสำหรับทริปนี้ของเรา ตั้งติดอยู่กับศาลเจ้า Ise บรรยากาศมีน่ารักมากๆ เต็มไปด้วบร้านอาหารและคาเฟ่ ที่ตกแต่งอย่างมินิมอล มียาวตั้งแต่จากสถานีจนถึงศาลเจ้าอิเซะ

ศาลเจ้าอิเซะชั้นนอก สามารถเดินได้จากตัวเมืองเลย แต่ถ้าชั้นในแนะนำให้นั่งบัสไปเพราะมันไกลหลายกิโลเลย

Yuki Shrine ,Tsu 

ศาลเจ้าบ๊วย เมือง Tsu เป็นศาลเจ้าที่ปลูกบ๊วยมากกว่าหลายร้อยต้น และตกแต่งอย่างสวยงาม มีหลากหลายพันธุ์ให้ชม 

ลงสถานี Tsu สาย Kintentsu แล้วต่อรถบัสสาย 52 หรือ 31 ลงสถานี YukiJinja ประมาณ 15 นาที

Suzuka Ume Park

สวนบ๊วยที่สวยที่สุดในมิเอะ ซึ่งเป็นพันธุ์โบราณ คือพันธุ์ Kureha Shidare Ume หรือ Weeping Plum Blossoms ต้นบ๊วยพันธุ์ย้อย ถือว่าเป็นบ๊วยพันธุ์เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่สวนเมือง Suzuka มีมากถึง 200 ต้น และเลี้ยงดูอย่างดีทุกต้น มีการตัดแต่ง ที่ทำให้ตกใจมากที่สุด คือมีการขุดต้นแล้วหมุนต้นเพื่อให้ได้รับแดดเท่ากัน ทำให้ลำต้นสมมาตรสวยงาม ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ต้องดูแลถึง 200 ต้นขนาดนี้

ดอกบ๊วยจะบานประมาณต้นเดือนมีนาถึงปลายมีนา สามารถชมได้เกือบ 1 เดือนเต็มๆเลยเพราะดอกบ๊วยมีความทนมากๆ และเราได้มาชมที่จังหวัด มิเอะ อยู่ตอนกลางของญี่ปุ่นด้านใต้ของนาโกย่า ที่มิเอะถือว่าเป็นแหล่งปลูกต้นบ๊วยขึ้นชื่ออันดับต้นๆของประเทศ นั้นเอง

การเดินทางตอนนี้นั่งรถแท็กซี่จากสถานี Suzuka ประมาณ 20 นาที หรือขับรถมาเองจะสะดวกกว่า แต่ในอนาคตจะมีรถรับส่งจากสถานี

Aqua ignis

ออนเซนสาธารณะที่ดีไซน์โมเดิร์นที่สุด! ตั้งแต่เคยเจอมา สวยมากๆ แล้วยังมาร้านเบเกอรี่ที่อร่อยมากๆ สวนสตรเบอรี่ และโรงแรมสไตล์มินิมอล ที่สวยงามสุดๆ

การเดินทางมาด้วยการขับรถ เท่านั้น

สวนสตรอเบอรี่ท่ามกลางบรรยากาศดีๆ สามารถเก็บที่แปลงไหนก็ได้ มีให้ทานถึง 4 พันธุ์ มีพันธุ์ที่รสเหมือนพีซด้วย แถมยังเปิดเพลงแนวบอซซ่าๆ หรือคันทรีฝรั่งเบาๆ เก็บไป เพลิน หมดชั่วโมงไม่รู้ตัว

Inabe Bairin Park 

บรรยากาศดอกบ๊วยบานที่สวนอินาเบะ มีต้นบ๊วยกว่า 400 สายพันธุ์ เกือบ 5,000 ต้น ที่เมืองอินาเบะ (Inabe) จ.มิเอะ (Mie) ทำให้เกิดภาพดอกไม้ที่สีสลับไปมา เป็นภาพที่อยากให้ทุกคนได้มาเห็นกัน

ดอกบ๊วย หรือ อุเมะ จะบานประมานต้นมีนา ของทุกปี

วิธีไป ต้องขับรถเท่านั้น

Google Map : https://goo.gl/maps/dfRZV5tcNCtVbigHA

จังหวัดมิเอะ เป็นจังหวัดที่น่ามามากๆ แทบไม่มีต่างชาติเลยจริงๆ ส่วนมากจากเป็นคนญี่ปุ่นมาเที่ยวกัน เราอยากบอกจริงๆ ว่าที่มีขุมทรัพย์มากมายให้มาเยือน ไว้จะมาอีกรอบแบบเต็มๆกว่านี้

ส่วนการรีวิว Mie Ume Season เที่ยวมิเอะในฤดูดอกบ๊วยบาน ขอฝากไว้เพียงเท่านี้ ทริปหน้า GoGraph จะไปผจญภัยที่ไหน อย่าลืมติดตามพวกเราด้วยนะ

Tags Cloud

แชร์เนื้อหา
Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest