ขับรถคิวชู 5 วันทั่ว 4 จังหวัดคิวชูตอนเหนือ

ขับรถคิวชู Kyushu Roadtrip

การเดินทาง ขับรถคิวชู ครั้งนี้ เราจะเดินทางเป็นเวลา 5 วันโดยจะเริ่มต้นจากฟุกุโอกะ – ซากะ – นางาซากิ – คุมาโมโต้ – โออิตะ เป็นเส้นทางที่น่าขับรถเที่ยวมาก เก็บครบหมด แหล่งวัฒนธรรม ทะเล ธรรมชาติ ภูเขา ออนเซน เรียกว่าครบในทริปเดียว

สรุปแผนคราวๆ โดยเราจะเริ่มวนไปทางตะวันตกก่อน วันแรกเข้า Saga เที่ยวเมือง Arita แหล่งเซรามิกชื่อดังของญี่ปุ่น แล้วไปต่อที่เมือง Ureshino แหล่งชาชื่อดังของคิวชู จากนั้นวันที่สองลงไป Nagasaki เที่ยวออนเซน โฮมสเตย์ วันที่สาม ดูโลมา แล้วก็ขับรถขึ้นเฟอรี่มาที่ Kumamoto วันที่สี่วันนี้เน้นแอดเวนเจอร์ ไปแถวเขา Aso ขี่ม้า ขี่จักรยาน แล้วไปเมือง Hita ใน Oita เล่นโหนต้นไม้ จากนั้นวันที่ห้า เราก็มานั่งไปเมือง Yufuin และจบทริปที่เมือง Beppu เที่ยวบ่อน้ำพุร้อนและวนกลับมาฟุกุโอกะ

ทริปนี้เป็นทริป ขับรถคิวชู คราวๆ ตามเส้นทางหลัก ถ้าอยากเที่ยวครบจริงๆ น่าจะใช้เวลา 7- 10 วันขึ้นไปเลย แต่ก็ยังคงมาได้อีกหลายรอบนะ

เส้นทางขับรถ ของทริปนี้ จนวนเป็นวงกลม

โหลดแผนที่ Google map ไว้ดูได้ที่ https://www.google.com/maps/d/u/0/edit?mid=1nuInc6x9eKzJsMToPJEAo9pEg2zTDCk2&usp=sharing

Day 1

วันแรกเราเริ่มจากสถานีฮากาตะ รอบสถานีมีบริษัทเช่ารถหลายยี่ห้อเลย ก็ถูกใจเจ้าไหนก็ใช้บริการเจ้านั้นนะ พร้อมเดินทาง ขับรถคิวชู ตอนบน!

ทริปนี้เดินทาง 4 คน แนะนำใช้รถรุ่น 5 ประตูที่ใหญ่กว่า Eco car เพราะเรายังมีสัมภาระอีกด้วย
พร้อมเดินทาง

Saga

Hizen Nao Washi

Naowashi คือการทำกระดาษสาแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น อายุกว่า 300 ปี ในอดีตเมื่อก่อนที่หมู่บ้านแห่งนี้ ผลิตกระดาษ Naowashi ก็ทั้งหมู่บ้าน แต่ปัจจุบันเหลือโรงงานแห่งนี้ที่เดียวเท่านั้น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ที่สำคัญของจังหวัดซากะ

ภายในโรงงานก็จะสามารถขบวนการผลิตกระดาษได้ คล้ายการทำกระดาษสา แบบบ้านเรานั้นแหละ ที่นี้สามารถซื้อผลิตภัณฑ์จากกระดาษ Naowashi หรือจะทำกิจกรรมตกแต่งพัดก็ได้

  • กิจกรรมการทำพัดด้วยกระดาษ Naowashi (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) ราคา 1,500 เยน
  • เวลาทำการ: 10.30 – 16.00 น.
  • วันหยุด: กิจกรรมปิดทำการในวันเสาร์-อาทิตย์และ วันหยุดราชการ
  • พิกัด https://goo.gl/maps/qT7JkweR6j4x1h387

เว็บไซต์ : https://naowashi.com/

เหลือการทำกระดาษ Naowashi แห่งเดียวในญี่ปุ่น

Arita Sera

Arita Sera คือคอมูนิตี้รวบรวมผลิตภัณฑ์เซรามิก เครื่องปั่นดินเผาจากทั่วภูมิภาคคิวชู โดยเฉพาะของเมือง Arita จ.Saga ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งที่มีชื่อเสียงที่สุด เรียกว่า Arita-Yaki เป็นแหล่งกำเนิดเครื่องเคลือบดินเผาของญี่ปุ่น ทำกันหลายรุ่นยาวนานถึง 400 ปีเลยทีเดียว

ภายใน Arita Sera มีทั้งร้านเซรามิก พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร คาเฟ่ และโรงแรมอีกด้วย

พิกัด https://goo.gl/maps/UvXPyiCh3Mg5Ld4H9

20 16/ Cafe

เป็นคาเฟ่ใน Arita Sera ที่รวมผลงานเซรามิกจากศิลปิน 16 คนทั่วโลก ภายในสามารถไปจิบกาแฟจากแก้วของศิลปินที่จัดแสดงในคาเฟ่ได้ ถ้าถูกใจแก้วไหนก็มีให้เลือกซื้อกลับบ้านอีกด้วย

Arita Huis

ร้านอาหารที่อยู่ใน Arita Sera ร้านจะใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของจ.ซากะ เป็นหลัก จะเปิดตั้งเช้า ถึง เย็น ในแต่ละเวลาก็ขายอาหารแตกต่างกันไป ช่วงเช้า เป็นสไตล์อาหารเช้าอเมริกัน ขายเฉพาะลูกค้าโรงแรมเท่านั้น ช่วงกลางวันเป็นอาหารอิตาเลี่ยน พาสต้าและขนมหวาน ช่วงเย็นจะเป็นเมนูคอร์สโดยเป็นอาหารฟิวชั่นกับวัตถุดิบท้องถิ่น

Kouraku Kiln

โรงงานเซรามิก อายุกว่า 150 ปี ผลิตเครื่องเคลือบดินเผา Arita Yaki ถือว่าเป็นงานเซรามิกคุณภาพดีอันดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยทีเดียว ที่นี้เราสามารถมาทำเวิร์คช็อปเรียนรู้ขบวนการผลิตได้ แต่ที่น่าสนใจเลย ที่นี้มีบุฟเฟ่ต์เครื่องปั้นดินเผา เท่าไรก็ได้จนเต็มตะกร้าในเวลา 90 นาที

จะแบ่งเป็น 2 แบบ คือราคา 5,500 เยน กับ 11,000 เยน แบบ 5,500 เยนจะเลือกถ้วยชามแบบง่ายๆ สีธรรมดา แต่ถ้าแบบ 11,000 เยนจะเลือกชิ้นไหนก็ได้ในโกดังเลย สามารถเลือกหยิบจนเต็มตระกร้าภายใน 90 นาที ใครรักงานเซรามิกไม่ควรพลาด

พิกัด : https://g.page/kourakukiln?share

เว็บไซต์: https://kouraku.jp.net/en/

Ureshino Tea Tourism

Ureshino เป็นเมืองที่ดังเรื่องชา ตั้งแต่สมัยเอโดะ เมื่อพูดถึงแหล่งปลูกชาในคิวชูก็จะคิดถึงที่นี้เป็นแห่งแรกๆ ที่นี้มีกิจกรรมเกี่ยวกับชาเยอะแยะ ปั่นจักรยานตามไร่ชา จิบชา สัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรมชงชา ยิ่งถ้าอยากเข้าพิธีชงชาแบบสมัยใหม่ ชมวิวไร่ชา ของเมือง Ureshino ที่ ไร่ Ikeda Farm เราจะได้นั่งอยู่ในพิธีชงชา บนพื้นที่เห็นวิวไรชาสุดลูกหูลูกตา เห็นไกลไปจนถึงทะเล Omura ยิ่งช่วงเย็นก็เห็นวิวพระอาทิตย์ตกสวยสวยงาม

ใครสนใจเรียนรู้เรื่องชา ต้องจองมาก่อนนะ มีหลายแบบ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.tea-tourism.com/en/

พิกัด : https://goo.gl/maps/KiQMM8DndV16ukGL9

Warakuen

เรียวกัง Warakuen ตั้งอยู่ในเมือง Ureshino เมื่อตั้งอยู่ในเมืองแห่งชา ที่นี้เลยมีออนเซนที่ผสมใบชาของดีของเมืองไว้ด้วย แช่ออนเซนพร้อมกลิ่นชาหอมๆไปเลย ขึ้นชื่อว่าดีต่อผิวพรรณ และยังมี Teppanyaki En ห้องอาหารเทปันยากิของเรียวกัง ที่จะเสิร์ฟเนื้อวัวซากะ ของขึ้นชื่อของจังหวัด และวัตถุดิบท้องถิ่นให้ได้ลิ้มลอง ต้องจองก่อนเท่านั้นนะ ถ้าอยากทานเนื้อที่นี้

Website : https://www.warakuen.co.jp/en/

พิกัด : https://goo.gl/maps/APJzCUPB468nrMSp7

Teppanyaki En

ห้องอาหารเทปันยากิของเรียวกัง ที่จะเสิร์ฟเนื้อวัวซากะ ของขึ้นชื่อของจังหวัด และวัตถุดิบท้องถิ่นให้ได้ลิ้มลอง ต้องจองก่อนเท่านั้นนะ ถ้าอยากทานเนื้อที่นี้

Day 2

Yutoku Inari Shrine

ศาลเจ้า Yutoku Inari Shrine ตั้งอยู่ในเมือง คะชิมะ (Kashima) จ.ซากะ (Saga) ศาลเจ้าชินโตขนาดใหญ่อันดับต้นๆของญี่ปุ่น ถือว่าเป็นศาลเจ้าอินาริที่มีความสำคัญเป็นอันดันสามรองลงมาจากที่เกียวโต และอิบารากิ ศาลเจ้าอินาริ จะเป็นศาลเจ้าเกี่ยวกับการเกษตรและธุกิจ คนญี่ปุ่นเลยนิยมมาสักการะกันมากมายหลักล้านคนต่อปี มาถึงซากะยังไงก็แต่แวะชมศาลเจ้าแห่งนี้

พิกัด : https://goo.gl/maps/qehiN7L8MJXcm8516


Nagasaki

OMURA YUME Shushu Farm

เราเริ่มต้นเข้าจังหวัดนางาซากิ OMURA YUME Shushu Farm เป็นจุดแวะพัก ที่มีร้านขายผลผลิตการเกษตร ขายอาหาร ขนม และเจลาโต้ และยังสามารถทดลองทำขนมแบบต่างๆได้ด้วย อย่างไดฟุกุส้ม ในแต่ละฤดูกาลก็จะมีกิจกรรมแตกต่างกันไป เหมาะเป็นจุดแวะพักขับรถระหว่างทางในนางาซากิ

พิกัด : https://goo.gl/maps/SD5h8dx6nPdfgVY56

Obama Onsen Hot foot 105

Obama Onsen ออนเซนเก่าแก่ของคิวชเป็นที่รู้จักกว่า 1,300 ปี เป็นออนเซนที่มีปริมาณน้ำพุมากที่สุดในญี่ปุ่น และจุดท่องเที่ยวที่ทุกคนต้องมาคือ Hot foot 105 บ่อออนเซนแช่เท้า ยาวถึง 105 เมตร เป็นบ่อออนเซนแช่เท้ายาวที่สุดในญี่ปุ่นเลย และอุณหภูมิสูงถึง 105 องศา!! แต่ไม่ต้องตกใจเขาลดให้เหลือประมาณ 40 องศาในบ่อแช่เท้า งั้นสุกแน่ๆฮาๆ และยังมีบ่อออนเซนสำหรับสัตว์เลี้ยงอีกด้วยนะ แล้วก็มีจุดสำหรับลวกอาหารทานได้อีกด้วย ซื้อไข่ หอย มัน จากร้านค้าใกล้ๆ

พิกัด : https://goo.gl/maps/75FTCt9k8Rz7MnKW6

Mushigama

ร้านอาหารที่นึ่งและลวกด้วยออนเซน จากวัตถุดิบสดๆ ทั้งผัก เนื้อสัตว์และอาหารทะเล เราก็เลือกๆหยิบเลยว่าจะทานอะไร ทางร้านก็จะนำไปนึ่งในหม้อนึ่งให้ แล้วก็นำมาเสิร์ฟให้เราทานกัน

พิกัด : https://goo.gl/maps/ZXzt7XU88ob7Hnf2A

Nouchi Somen

โรงงานผลิตเส้นโซเมง ในเมือง Shimabara มีชื่อเสียงในการผลิตเส้นโซเมงแบบ Tenobe-Somen หรือแบบยืดเส้นด้วยมือ จะทำการดึงเส้นไปมาเรื่อยๆ จนเป็นเส้นเล็กๆ อย่างที่เห็นกัน

ซึ่งที่โรงงาน Nouchi Somen ผลิตมานานมาถึง 3 รุ่นแล้วเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตเส้นโซเมงที่มีชื่อเสียงมากในเมืองนี้ เราสามารถมาเรียนรู้วิธีทำเส้นโซเมง และทดลองชิมเส้นโซเมงที่เราทำเองได้อีกด้วย หรือถ้าใครไม่ทำก็สามารถซื้อเส้นกลับไปได้ มีน้ำซุปพร้อมทานเลย

  • กิจกรรมเข้าชมโรงงาน ระยะเวลาที่ใช้: 40 – 50 นาที คนละ 1,500 เยน
  • เปิดตลอดทั้งปี หยุดวันอาทิตย์ 09.00 – 18.00 น.
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/VfmU8QgcDAAmTg9Y7

Website http://nouchi-seimen.jp/

Homestay Ichigoichie

โฮมเสตย์ของคุณตาคุณยาย ที่ปลูกผลผลิตทางการเกษตรสรรพัด แล้วแต่ว่าฤดูไหนจะปลูกอะไรได้ ฤดูนี้ก็จะปลูกมัน และให้เราไปช่วยกันเก็บไปทำอาหารทานกินกัน บรรยากาศเหมือนไปเยี่ยมตายายที่ต่างจังหวัดเลย ทำจัมปังแบบเส้นกรอบ อาหารขึ้นชื่อของนางาซากิให้ทานด้วย และจริงๆแกทำเหล้าขายด้วย ขายส่งออกทั่วญี่ปุ่น มีชื่อเสียงมากๆ

Day 3

Dolphin Watching

กิจกรรมที่มาเมืองนางาซากิแล้วไม่ควรพลาดคือนั่งเรือออกไปชมฝูงโลมา ที่เมือง Kujinotsu คาบสมุทร Shimabara ทางตอนใต้สุดของนางาซากิ

เราจะล่องเรือออกไปในอ่าว Hayasaki Seto พอออกไปไม่นาน ก็จะมีฝูงโลมากระโดดออกมาโชว์ตัวเล่นไปพร้อมกับเรือ ซึ่งถ้าโชคดีอาจเจอฝูงใหญ่ถึง 300 ตัวเลยทีเดียว

  • ใช้เวลา ประมาณ 1-1.20 ชั่วโมง สามารถชมโลมาได้ทั้งปี เพราะโลมาอยู่ที่นี้ตลอดทั้งปี
  • เวลาทำการ เดือน พค. – พย. 8 เที่ยว/วัน , ธค. – เม.ย. 4 เที่ยว/วัน
  • ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ 3,000 เยน , เด็ก 2,000 เยน , เด็กเล็ก 1,000 เยน
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/d7eMLxvosaSCjRnk9

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://dolwatch.jp/

ออกไปไม่ไกลน้องโลมาก็โผล่มาโชว์ตัวแล้ว

ถ้าโชคดีอาจเจอเป็นร้อยตัวเลยก็ได้

Shimabara

อยู่ทางตอนใต้ของนางาซากิ เมืองน้ำแห่งนางาซากิ เป็นเมืองดังเก่าแก่ตั้งแต่อดีต  มีน้ำธรรมชาติผุดจากใต้ดินที่ใสสะอาดมากจนดื่มได้ มีบริเวณที่เรียกว่า Koi-no-oyogu-machi เมืองแห่งปลาคาร์ฟ เพราะน้ำที่นี้คุณภาพดีมากมีแร่ธาตุเยอะเหมาะเป็นแหล่งอาศัยของปลาคาร์ฟ ตามทางเดินของเมืองมีคูน้ำ เห็นปลาคราฟว่ายในน้ำใสจนทะลุพื้นเลย

鯉の泳ぐまち
https://maps.app.goo.gl/zAp7AYED3ahkZiKC7

Shimeiso

บริเวณนั้นจะมีบ้านเก่าแก่ Shimeiso Spring Garden เป็นบ้านเก่ามีสวนญี่ปุ่นและบ่อขนาดใหญ่ มีปลาคาร์ฟหลายสิบตัว สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้

พิกัด : https://goo.gl/maps/qttCR8p8UvH5bvEC7

Koi cafe

ในบริเวณจะมีคาเฟ่อยู่หลายแห่ง อย่าง Koi Cafe (ที่ในร้านไม่มีปลาคาร์ฟ อ๊าว?) เป็นคาเฟ่บรรยากาศสบายๆให้บ้านเก่าแก่ดั้งเดิม ตัวบานหน้าต่างและประตู เป็นกระจกเก่าบานใหญ่อายุเกือบร้อยปี ซึ่งถือว่าเป็นของแพงมากในสมัยนั้น ถ้าร้านเลยเก็บรักษาไว้อย่างดี

พิกัด : https://goo.gl/maps/dTdBaHHjg3Q1ifez7

Kumamoto Ferry

จากนั้นเราขับรถมาขึ้นเรือเฟอรี่ข้ามไปจ.คุมาโมโต้ ที่ท่าเรือ Shimabara ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น ค่าโดยสารแบบเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 1,100 เยน เด็ก 550 เยน ค่ารถ 3,350 เยน บนเรือก็จะมีคาเฟ่เล็กๆ ให้นั่งรอชิลๆ แค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงคุมาโมโต้ แล้ว

website : https://www.kumamotoferry.co.jp/lang/

พิกัด : https://goo.gl/maps/Pxnh9S4w9bAxfDDk8

Kumamoto

Suizenji Park

สวนขนาดใหญ่ใจกลางเมือง คุมาโมโต้ เดิมเชื่อว่าสวนแห่งนี้เป็นพื้นที่ของวัด Suizenji มาก่อน ขึ้นชื่อในเรื่องสวนแบบญี่ปุ่น มีสระน้ำขนาดใหญ่ที่ได้น้ำจากน้ำพุใต้ดินจากเทือกเขาอะโซะ ใสสะอาดและเต็มไปด้วยแร่ธาตุ เลยเป็นที่อาศัยของสัตว์มากมาย สวนของที่นี้ เหมือนจำลอง ที่เที่ยวต่างๆของเส้นทางโทไคโด เส้นทางจากเอโดะถึงเกียวโตในอดีจ เช่น มีเนินเขาฟูจิขนาดเล็ก ทะเลสาบบิวะ

ภายในสวนยังมีร้านเช่าชุดกิโมโน แต่งผมพร้อมเดินไปถ่ายรูปในสวน หรือศาลเจ้า Izumi ภายในสวนได้อีกด้วย

พิกัด : https://goo.gl/maps/TYfEJcFrUP1MqcEM8

Kumamoto Castle

ปราสาทคุมาโมโต้ หรือปราสาทอีกาดำ ตอนนี้ได้บูรณะซ่อมแซมเกือบครบแล้วเหลือบางส่วนเท่านั้น แต่ตัวปราสาทเรียบร้อยแล้ว สามารถขึ้นไปด้านบนเป็นจุดชมวิวเมืองคุมาโมโต้

  • เวลาเปิดให้บริการ : 8.30 น. – 17.00 น. (เวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
  • การเดินทางสำหรับผู้ไม่มีรถยนต์ : จากสถานี JR Kumamoto นั่งรถรางประมาณ 17 นาที หรือ จากสถานี JR Kumamoto นั่งรถบัสประมาณ 10 นาที
  • โลเคชั่น Kumamoto Castle : https://goo.gl/maps/BDFqTGMs3bMcnQNf7

ทางเดินใหม่ สามารถชมรอบๆปราสาทได้

Higo Zogan Mitsusuke

เป็นงานฝีมือดั้งเดิมของเมืองคุมาโมโตะ นานกว่า 400 ปี การลงเลี่ยมทองหรือเงินลงไปในเหล็ก สมัยก่อนนิยมลงบนกระบังดาบ หรือปืน แต่ปัจจุบันก็จะเป็นจี้ เครื่องประดับ ต่างหูแทน สามารถมาลองหัดทำได้ด้วยนะ

พิกัด : https://goo.gl/maps/qN6obUJKaHB7qBwE8

Sakuraan

ร้าน Sakuraan เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นท้องถิ่นของคุมาโมโต้ ถ้าขายอยากลองอาหารท้องถิ่นที่หาทานจากที่อื่นไม่ได้ อย่างเนื้อม้าดิบ ชูชิเนื้อม้าดิบ และรากบัวยัดไส้มาสตาร์ดทอด อยากลองอาหารคุมาโมโต้ว่าเป็นยังไงมาร้านนี้เลย มีให้ลองครบทุกอย่าง

พิกัด : https://goo.gl/maps/dpeF1mcJP67KFJdf7

Sakuramachi

ห้างที่เพิ่งเปิดไม่นานเมื่อปี 2019 ความพิเศษของห้างนี้คือจะเจอคุมามง เจ้าหมีดำมาสคอตของเมืองคุมาโมโต้ได้หลายจุด (จริงๆก็เจอทั้งเมืองคุมาโมโต้อยู่แล้ว ฮาๆ) ห้างนี้อยู่ติดสถานี JR Kumamoto ฝั่งตะวันออก

พิกัด : https://goo.gl/maps/KxXBr6eYfUv7ce4S6

Day 4

Elpatio Ranch

El Patio Ranch ขี่ผ่านภูเขาและทุ่งหญ้า ที่เขาอะโซ จ.คุมาโมโตะ ที่คอกม้าแห่งนี้สามารถมาลงคอร์สขี่ม้า ได้แม้แต่คนไม่เคยขี่ จะมีเส้นทางระยะสั้น ระยะยาว เริ่มต้นที่ 5,500 เยน 25 นาที ก็จะได้ขี่ม้าผ่านทุ่งหญ้าวิวเขาอะโซ แล้ว

El Patio Ranch
+81 967-22-3861
https://maps.app.goo.gl/vCc2cXoEa9WZbs6L9

Tabekogi

Tabekogi เป็นกิจกรรมปั่นจักรยาน พร้อมชื่นชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของ Aso ด้วยการปั่นจักรยาน กิจกรรมTabekogi ราคา 3,500 เยน ให้คุณเช่าปั่นจักรยาน 4 ชั่วโมง ไปบริเวณหน้าศาลเจ้าอาโซะ และย่านอุชิโนะมากิ (Uchinomaki) พร้อมมีตั๋วแลกสินค้า 7 แผ่นใช้ซื้ออาหาร ที่ร้านร่วมรายการ แบบปั่นไปกินไปฟิน

ซื้อตั๋วและรับจักรยานได้ที่ Aso Tourist Information Center ในสถานี JR Aso

พิกัด : https://goo.gl/maps/oSXC1bi6jibXpkPL8

website : https://kst.kyusanko.co.jp/DJWEB2/TourDetail.aspx…

โครอคเกะเนื้อม้า

ข้าวหน้าเนื้อวัวแดงอะโซะ ห้ามพลาดจริงๆ

Oita

Forest Adventure

เราขับรถเข้า จ.โออิตะ มาที่เที่ยวแบบกิจกรรมผาดโผนบ้าง ที่ Forest Adventure ห้อยโหนไปตามต้นไม้สูง หรือเดินบนสะพานเชือก ยิ่งมาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีด้วยแล้ว บรรยากาศจะสวยมากๆ เหมาะสำหรับคนชอบเล่นกิจกรรมแบบนี้

Website : https://fa-beppu.foret-aventure.jp/eng/

พิกัด : https://g.page/fabeppu?share

Umeshu Gura OOYAMA

เมือง Ooyama เป็นเมืองขึ้นชื่อชื่อในการผลิตเหล้าบ๊วย ผลิตเหล้าบ๊วยคุณภาพเยี่ยม ได้รับรางวัลมากมาย มีเอาเสิร์ฟในรถไฟสุดหรู Seven Star หรือบนชั้นธุรกิจของ ANA เลยทีเดียว ภายในโรงงานสามารถเยี่ยมชมได้ และมีกิจกรรมเวิร์คช็อปให้ทำเหล้าบ๊วยและบ๊วยไซรัปด้วยตัวเอง แล้วยังมีร้านค้าผลิตภัณฑ์บ๊วยอีกด้วย

website : https://www.umehibiki.jp/umesyugura/#Making

พิกัด : https://g.page/umesyugura?share

Caffel Hina no Sato Hotel

โรงแรมในเมืองฮิตะ อยู่ริมแม่น้ำ Mikuma ช่วงเย็นสามารถนั่งเรือ Yakatabune ชมบรรยากาศของแม่น้ำที่เคยเป็นเส้นทางค้าขายหลักในยุคเอโดะ

Yufuin

เมืองออนเซนสุดฮิต ที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีเมื่อมาเที่ยวคิวชู เมือง Yufuin ที่ตลอดถนนจากสถานีจนถึงทะเลสาบ Kilin เต็มไปด้วยร้านอาหาร จุดแวะมากเที่ยวมากมาย เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ตลอดที่มาเลย

พิกัด : https://g.page/YUFUiNFO?share

Kinrin Lake ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สีแดงสวยทั่วรอบทะเลสาบ ความพิเศษของทะเลสาบแห่งนี้คือมีบ่อน้ำพุร้อนผุดออกมาหลายแห่ง เลยทำให้น้ำอุ่นตลอดทั้งปี มักจะเห็นปลาไปรวมตัวแถวๆจุดที่มีน้ำพุร้อนนั้นเอง รอบๆทะเลสาบเลยจะมีออนเซนอยู่หลายแห่ง

Telato ร้านเจลาโต้ชาเขียวหลายระดับ ใช้ชาชั้นดีของคิวชูมาทำเจลาโต้ มีชาเขียวถึง 7 ระดับเลยทีเดียว

Tokinoiro ร้านเค้กช็อกโกแลค ที่แนะนำอยากให้ลองเพราะความเข้มข้น และนุ่ม แบบไม่เหมือนใคร มีทั้งหมด 4 รสชาติให้ทานกัน

Cafe Le Ruche ร้านคาเฟ่ศิลปินชาวเยอรมัน อยู่ติดกับทะเลสาบคิริน มีอาหาร และเค้กอร่อยมาก

Hachiman Kamado Shrine

ศาลเจ้า Hachiman Kamado Shrine เมือง เบบปุ จ.โออิตะ ที่แฟนคลับเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับมังงะเรื่อง Kimetsu no Yaiba หรือ ดาบพิฆาตอสูร นั้นเอง! คือแค่ชื่อศาลเจ้าก็ตรงกับนามสกุลของตัวเอก ทันจิโร่ แล้ว และมีตำนานเกี่ยวกับปิศาจ อสูร เยอะ

ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างมาเกือบ 1,300 ปี ตำนานเชื่อว่าทางขึ้นสร้างโดยอสูร ที่มาทำลายหมู่บ้านของชาวบ้านในอดีต แล้วโดนเทพ Kamado ปราบ แล้วอสูรโดนสั่งให้บันได้ขึ้นศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นมา 100 ขั้น แต่สุดท้ายสร้างได้แค่ 99 ขั้นพร้อมทิ้งรอยเท้าเอาไว้ ด้วย

พิกัด : https://goo.gl/maps/AfcKm2x25VusJMpEA

มีคนมาเที่ยวศาลเจ้าแห่งนี้กันเยอะ โดนเฉพาะแฟนมังงะดาบพิฆาตอสูร ก็จะเขียนป้ายอวยพร พร้อมวาดรูปตัวละครในเรื่องไปด้วย

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อายุกว่า 500 ปี ด้านหน้าศาลเจ้ามีกิ่งไม้ที่งอกออกมาคล้ายหัวมังกร ด้วย

Beppu

Jigoku Meguri หรือ นรก 8 บ่อ ที่เที่ยว บ่อน้ำพุร้อนทั้งแปดของเบบปุ จ.โออิตะ แต่ละบ่อก็จะมีความเฉพาะแตกต่างกันไป

  • Umi Jigoku บ่อทะเลเดือด เป็นบ่อที่ออกมามีสีฟ้าสวยงามมาก เหมือนยังกับอยู่ในทะเลใส ที่เป็นสีฟ้านี้เพราะมีแร่โคบอลต์ออกมา บ่อนี้ร้อนเกินกว่าจะลงอาบได้ เพราะสูงถึง 98 องศาเลย แต่ใครอยากอายเขาก็มีผงน้ำแร่สีฟ้าขายด้วยนะ
  • Yama Jigoku บ่อหุบเขานรก อยู่ใกล้ๆกับบ่อทะเลเดือด แต่กับเป็นสีแดง และมีควันพุ่งออกมาตลอดเวลา และเสียงดังฟู่ๆๆ ตลอดจนว่าเป็นเสียงมาจากนรกกัน
  • Oniishibozu Jigoku บ่อโคลนเดือด เป็นบ่อน้ำร้อนที่เป็นโคลนปุดๆขึ้นมา
  • Kamodo Jigoku นรกกะทะทองแดง เป็นบ่อที่อุณหภูมิสูงมากจนชาวบ้านเอามาใช้ทำอาหารกันเลย
  • Oniyama Jigoku บ่อหุบเขาปิศาจ บ่อนี้น้ำไม่ร้อนมาก เป็นน้ำอุ่นๆ เลยเลี้ยงจระเข้ไว้เลย เลี้ยงไว้เต็มบ่อ มาดูทั้งบ่อน้ำร้อน แถมได้ดูจระเข้อีก
  • Shiraike Jigoku บ่อนรกขาว บ่อนี้น้ำจะเป็นสีขาว รอบจะแต่งเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่น
  • Tatsumaki Jigoku บ่อน้ำวน มีน้ำพุร้อนพุ่งออกมาทุก 30-40 นาที เวลามาถึงต้องนั่งรอไปกว่าจะพุ่งขึ้นมาเอง น้ำพุจะพุ่งออกมาเป็นเวลาประมาณ 6-10 นาที ความแรงก็ต่างกัน
  • Chinoike Jigoku บ่อสุดท้ายแล้ว บ่อสีเลือด บ่อนี้เป็นบ่อสีแดงขนาดใหญ่ สีนี้เพราะมีธาตุเหล็กอยู่มาก เลยเกิดสีสนิมขึ้นมา บางครั้งแดงจนคล้ายสีเลือดเลยทีเดียว

เป็นอีกเมืองที่น่าแวะมาพักแช่ออนเซน เมื่อ ขับรถคิวชู หรือจะเที่ยวรอบก็ได้ๆ กับเบ็บปุ

พิกัด : https://goo.gl/maps/pZYouTG7qvScMmW46

แล้วก็ขับรถกลับไปฟุคุโอกะ ทริปนี้เป็นแผนขับรถคราวๆ 5 วัน 5 จังหวัดซึ่งถ้าเที่ยวจริงๆ ควรจะ 7-10 วันขึ้นไป รับรองว่าเต็มอิ่มเป็นทาง ขับรถคิวชู ที่ดีมาก ครบทุกแบบ

อ่านรีวิวญี่ปุ่นอื่นๆได้ที่ https://go-graph.com/category/japan/

Tags Cloud

แชร์เนื้อหา
Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest