สมิติเวช – ทริคใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ชอบออกทริปต่างประเทศ แต่ดันเจ็บป่วย ไม่สบายสะอย่างงั้น เรามีตัวช่วย ทำให้การคุยกับคุณหมอระหว่างออกทริปเป็นเรื่องง่ายด้วย Samitivej Virtual Hospital ปรึกษาคุณหมอ สมิติเวช แบบ Real-Time Video Call ได้ตลอด 24 ชั่วโมง อุ่นใจเหมือนมีคุณหมออยู่ข้างๆ จะเจ๋งแค่ไหน ตามมาดูเลยจ้า
ญี่ปุ่นทริปนี้ปลายเดือนพฤศจิกายน คือเป็นช่วงอากาศกำลังดีมาก ว่าง่ายๆ คือเราไปญี่ปุ่นมาหลายรอบ ช่วงที่ชอบในใจมากที่สุดก็ประมาณช่วงปลายปีนี่แหละ ความมีเสน่ห์อย่างนึงคือต้องคอยลุ้นว่าเมืองที่กำลังไปพยากรณ์ใบไม้เป็นยังไงบ้าง
แต่บอกเลยว่าอากาศเย็นๆ ค่อนไปทางหนาวแบบนี้ สายคาเฟ่ฮอปปิ้งอย่างเรา มีหรือจะพลาดจิบกาแฟรัวๆ เผลอๆ ได้ทำคอนเทนท์คาเฟ่ที่นี่ด้วย เพราะคาเฟ่ที่ญี่ปุ่นเขาขึ้นชื่ออยู่แล้ว ไม่เชื่อลองแวะเข้าไปดูรีวิว Tokyo Cafe 2019 — เที่ยวโตเกียวขั้นไม่แมส รวมมหากาพย์คาเฟ่ล่าสุดทีเด็ดและดี ของพวกเราได้เลย
แต่ครั้งก่อนนั้นที่โตเกียวไม่เป็นอะไรเลย ชิลล์มาก ก็แอบตกใจอยู่เหมือนทำไมทริปที่มา Okayama รอบนี้ พอแวะหลายร้านเข้าเริ่มมีอาการแปลกๆ เหมือนแบบง่วงหนักมาก ทั้งๆ ที่ยังกลางวันอยู่ เหมือนกาแฟไม่ช่วยอะไร จะฝืนเที่ยวต่อไปหรือกลับโรงแรมไปพักก่อนดี รอบนี้เลยมาแชร์เทคนิคง่ายๆ เป็น How to Survival เบื้องต้นเวลาเจ็บป่วยขณะเดินทางกันจ้า
ไปจ้ากินกาแฟวนไป เข้าร้านนี้ ออกร้านนั้น ต่อร้านถัดไป ได้รูปชิคๆ เพียบ แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนไม่ค่อยสบายตัว ความเพลียเริ่มถามหา คิดถึงเตียงนอนสะงั้น อุตส่าห์มาเที่ยวแล้วจะมาป่วยแบบนี้ก็รูสึกเฟลนิดๆ ใจก็อยากไปต่อ ทำไงดีละทีนี้
ช้าก่อนทุกคน !! ไม่ต้องกังวลไปนะ เพราะตอนนี้เรามีตัวช่วยดีๆ มาแนะนำกัน เป็นแอปพลิเคชั่นจากทางโรงพยาบาล สมิติเวช นั่นเอง มีชื่อว่า Samitivej Virtual Hospital เป็นการแนะนำและบริการให้คำปรึกษาทางการแพทย์แบบ Real-Time Video Call ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง เรียกได้ว่าใกล้ชิดยิ่งกว่า เพียงแค่เพื่อนๆ อินเทอร์เน็ตเท่านั้นเอง
เพียงแอดไลน์ @samitivej กรอกข้อมูลเสร็จ VDO Call ปรึกษาอาการกับคุณหมอได้เลย ไม่จำเป็นว่าต้องเคยรักษาที่สมิติเวชนะ แค่แอดไลน์ก็ใช้งานได้เลยจ้า
สิ่งที่น่ากลัวสำหรับนักเดินทางบ่อยๆ อย่างเราคือการที่ต้องไปป่วยต่างประเทศนี่แหละ คือยอมตกเครื่องบิน ไฟลท์ดีเลย์ดีกว่า ลองนึกภาพตามง่ายๆ สมมติว่าทริปนี้ที่เราไปญี่ปุ่น เราเกิดไป Backpack คนเดียว อาการที่ป่วยดันไม่ใช่ Caffeine Crash แต่กลายเป็นอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกบางอย่าง จนตัวเองไม่สามาถอธิบายเป็นคำพูด
แล้วถ้าสมมติต้องไปอธิบายให้คุณหมอที่โรงพยาบาลญี่ปุ่นฟังอีก คือแน่นอนว่า Language Barrier แน่นอน สื่อสารกันพอเข้าใจกันก็รอดตัวไป แต่ในกรณีที่พูดคุยกันไม่รู้เรื่องอันนี้คือไปต่อไม่ถูกเลยนะ
ขอย้ำอีกทีว่าการไปหาหมอในต่างประเทศเป็นอะไรที่ค่อนข้างลำบาก ไหนจะเรื่องการสื่อสาร อธิบายอาการเจ็บป่วย การได้วีดีโอคอลกับคุณหมอ คุยกันเป็นภาษาไทย หมดกังวลว่าจะคุยกับคุณหมอในต่างประเทศไม่รู้เรื่อง
สำหรับอาการของเราที่เป็นอยู่คือภาวะ Caffeine Crash หรืออธิบายกันง่ายๆ คือเรากินกาแฟมากเกินไปและนอนไม่เพียงพอนั่นเอง คุณหมอจึงมอบคำแนะนำง่ายๆ ให้ลดการกินกาแฟ พักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งบางทีเราเอนจอยกับการเที่ยวมากเกินไป จนมองข้ามการพักผ่อน และบางทีคือออกทริปติดกัน ร่างกายเราก็เลยส่งสัญญาณเตือน
สรุปเลยคือไปนอนจ่ะเท่านี้ก็สามารถช่วยให้เรามีแรงเที่ยวต่อ ไม่คอตกง่วงหาวนอน ตอนกลางวันอีกแล้ว
ทำตามคำแนะนำคุณหมอเรียบร้อย พักเต็มอิ่มเที่ยวต่อได้ ปรึกษาแพทย์ ผ่าน Samitivej Virtual Hospital ทุก 15 นาที คิดค่าบริการ 500 บาท เราจะได้รับส่วนลดค่ายา 20% หรือสามารถนำคำแนะนำยาจากคุณหมอ เพื่อไปซื้อยาเองก็ได้
สุดท้ายนี้เราขอฝากทริคใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ชอบออกทริปต่างประเทศ แต่ดันเจ็บป่วย ไม่สบายกลางทาง เรามีตัวช่วย ทำให้การคุยกับคุณหมอระหว่างออกทริปเป็นเรื่องง่ายด้วย Samitivej Virtual Hospital ปรึกษาคุณหมอ สมิติเวช แบบ Real-Time Video Call ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ชอบเที่ยวต่างประเทศบ่อย อย่าลืมแอดไลน์ @samitivej ใช้งานง่ายมากๆ กรอกข้อมูลเสร็จ วีดีโอคอลกับคุณหมอได้เลย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องโหลดแอป ใช้งานผ่าน Line ได้เลย สะดวกมากๆ
ดูรายละเอียด Samitivej Vertual Hospital อ่านได้ที่นี่เลย: https://www.samitivejhospitals.com/…/samitivej-virtual-hos…/
ยังไงเราจะแวะมาเขียนทริคสำหรับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเดินทางอยู่ตลอดๆ อยู่แล้ว ก็ขอฝากโกกราฟไว้ในใจกันด้วยจ้า : https://go-graph.com/