TOKAI BUS “Ito and IzuKogen” 2-Days Pass พาสรถบัสเมืองอิโต

อิโต Ito

เมืองอิโต (Ito) เป็นเมืองที่อยู่ในคาบสมุทรอิซุ (Izu) ในจ.ชิสุโอกะ (Shizuoka) อยู่ทางตะวันตกของโตเกียว ห่างจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมงโดยรถยนต์ เมืองอิโต เป็นเมืองออนเซ็นเก่าแก่ตั้งแต่อดีต เต็มไปด้วยธรรมชาติและทิวทัศน์สวยงามมากมาย อาหารทะเลสดอร่อย คนญี่ปุ่นนิยมมาเที่ยวมากๆ โดยเฉพาะคนโตเกียวเพราะอยู่ไม่ไกล สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู เป็นเมืองที่น่าเดินทางมาเที่ยว

การเดินทางไปเมืองอิโต สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟ Odakyu Romancecar จากสถานี Shinjuku 80  นาที ลงสถานี Odawara แล้วต่อรถไฟธรรมดาอีกประมาณ 60 นาที ลงสถานี Ito

การเดินทางในบริเวณเมืองอิโต แนะนำให้ใช้รถบัส จะสามารถเที่ยวได้ทั่วถึงมากกว่า จะมีตั๋ว TOKAI BUS “Ito and IzuKogen” 2-Days Pass สามารถใช้นั่งรถบัสได้กี่รอบก็ได้ไม่จำกัดภายใน 2 วัน และยังสามารถใช้เป็นส่วนลดของที่เที่ยวต่างๆในเมืองอิโต ได้ถึง 20 แห่ง เช่น ที่เที่ยวสำคัญ อย่าง ภูเขาโอมูโระ และสวนสัตว์ Izu shaboten ก็มีส่วนลดด้วยเช่นกัน

ราคาตั๋ว ผู้ใหญ่ 1,500 เยน และเด็ก 750 เยน

สามารถซื้อได้ที่ เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของ Tokai Bus Information Center ที่สถานีอิโต (Ito station) หรือซื้อผ่านออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ EMot (อ่านว่า เอะ-โม๊ต-โตะ) https://www-emot-jp.translate.goog/service/detail/tokaibus_ito-kankou.html?_x_tr_sl=auto&_x_tr_tl=en&_x_tr_hl=en-US

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่

https://www-tokaibus-jp.translate.goog/rosen/ito_kanko_freepass.html?_x_tr_sl=auto&_x_tr_tl=en&_x_tr_hl=ja

แผนที่เส้นทางรถบัสของตั๋ว TOKAI BUS “Ito and IzuKogen” 2-Days Pass

แผนการเดินทางเมือง อิโต

การเดินทางในเมืองอิโต สามารถเดินทางได้ง่ายด้วยรถบัส Tokai เดินทางได้ทั่วถึงสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่ง พาสตัวนี้สามารถใช้ได้ 2 วันโดยไม่จำกัดเที่ยว เราเลือกที่จะเที่ยวในเมืองอิโตแบบสบายๆ ออกสายๆหน่อย และช่วงบ่ายค่อยกลับมาที่พักเพื่อเเช่ออนเซ็น เป็นทริปเที่ยวสบายๆ ไม่ต้องรีบร้อนอะไร

Day 1 อิโต

ภูเขาโอมุระ (Omuroyama)

ภูเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นภาพของคาบสมุทรอิซุเลยก็ว่าได้ เราจะเห็นภาพนี้เสมอเมื่อพูดถึงคาบสมุทรอิซุ

ภูเขาโอมูโระ เป็นภูเขาที่เกิดจากการระเบิดเมื่อประมาณ 4,000 ปีก่อน และได้กลายมาเป็น Landmark แหล่งท่องเที่ยวของเมืองอิโต มีความสูง 580 เมตร รูปทรงคล้ายกับชามคว่ำ

การขึ้นไปด้านบนภูเขาจะต้องนั่งกระเช้าขึ้นไปเท่านั้น ใช้เวลานั่งกระเช้าประมาณ 6 นาที ก็จะถึงยอดเขา และจะเห็นวิวปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า ด้านบนสามารถเดินเล่นรอบปากปล่องภูเขาได้ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที

จากยอดภูเขาจะมองเห็นวิวเมืองอิโต เกาะโอชิมะ คาบสมุทรอิซุแบบ 360 องศา และในวันที่อากาศแจ่มใสจะเห็นวิว ภูเขาไฟฟูจิ ตึก Tokyo Sky Tree และตึก Yokohama Landmark Tower

ด้านล่างตรงลานปล่องภูเขาก็สามารถเดินลงไปได้ มีลานธนูให้เล่น และศาลเจ้าที่สามารถขอพรเกี่ยวกับความรัก

  • ค่าขึ้นกระเช้า : ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 250 เยน
  • แสดงพาส ลด 50 เยน สำหรับค่าขึ้นกระเช้าไป-กลับของผู้ใหญ่
  • เวลาทำการ : (6-15 มี.ค.) 9:00-16:45, (16 มี.ค.-30 ก.ย.) 9:00-17:15, (1 ต.ค.-5 มี.ค.) 9:00-16:15
  • การเดินทาง : ลงป้าย Shaboten Koen
  • Website : www.omuroyama.com

สวนสัตว์อิซุชาโบเต็น (Izu Shaboten Zoo)

ไม่ไกลจากเขาโอมุโระ อยู่ตรงข้ามกันคือสวนสัตว์ Izu Shaboten เปิดให้เข้าชมเมื่อปี พ.ศ. 2502 ตั้งอยู่ที่ตีนเขาโอมูโระ มีขนาดกว้างประมาณ 2 แสนตารางเมตร ในสวนสัตว์ปลูกต้นกระบองเพชรและไม้อวบน้ำหลากหลายพันธุ์จากทั่วโลกประมาณ 1,500 ชนิด มีสัตว์ประมาณ 140 ชนิด สนุกสนานไปกับการชมสัตว์ต่างๆอย่างนกยูงและลิงกระรอกที่ทางสวนสัตว์ปล่อยให้เดินเล่นไปมาอย่างอิสระ หรือจะให้อาหารเจ้าหนูยักษ์คาปิบาระและจิงโจ้ก็ได้ เป็นสวนสัตว์ที่สามารถสัมผัสกับเหล่าสัตว์ทั้งหลายได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีเรือนกระจกทรงปิรามิดที่จัดแสดงต้นกระบองเพชร “ถังทอง” อายุประมาณ 170 ปี และสามารถชมสัตว์ เช่น ตัวกินมดจากอเมริกาใต้ที่โด่งดังในโลกออนไลน์อีกด้วย

และดาราเด่นของสวนสัตว์แห่งนี้เลยคือ “หนูยักษ์คาปิบาระแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง” ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำฤดูหนาวของเกาะอิซุที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ โดยกิจกรรมนี้มีต้นกำเนิดมาจากสวนสัตว์ Izu Shaboten ในช่วงกลางเดือน พ.ย. – ต้นเดือน เม.ษ.ของทุกปี เหล่าครอบครัวหนูยักษ์คาปิบาระจะออกมาแช่ออนเซ็นให้นักท่องเที่ยวที่มาชมได้เพลิดเพลินไปกับอิริยาบถของพวกมัน

  • ค่าเข้าชม   : ผู้ใหญ่ (เด็กม.ต้นขึ้นไป) 2,400 เยน / เด็กประถม 1,200 เยน / เด็กเล็ก (4 ขวบขึ้นไป) 400 เยน
  • แสดงพาส ลดค่าเข้า 10%
  • เวลาทำการ : (มี.ค.-ต.ค.) 9:00-17:00, (พ.ย.-ก.พ.) 9:00-16:00 *Last admission 30 นาทีก่อนสวนสัตว์ปิด
  • การเดินทาง : ลงป้าย Shaboten Koen
  • Website : https://izushaboten.com/
หนูยักษ์คาปิบาระแช่ออนเซ็น น่ารักกกกก
คาเฟ่ก็น่ารักเช่นกัน

ทะเลสาบอิปเปกิ (Lake Ippeki)

ทะเลสาบอิปเปกิ (Ippeki) เป็นทะเลสาบแห่งเดียวในคาบสมุทรอิซุ เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 100,000 ปีก่อน ผิวน้ำของทะเลสาบมีภาพสะท้อนของภูเขา ต้นไม้โดยรอบ และก้อนเมฆบนท้องฟ้าเป็นเสน่ห์ที่เชิญชวนให้ผู้คนแวะมาที่นี่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้โดยรอบจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสดงดงามมาก ริมน้ำมีพืชพันธุ์หาดูได้ยากคือพุ่มดอก Blue Star ซึ่งว่ากันว่าทั่วทั้งจังหวัดดอกนี้จะขึ้นเฉพาะแค่ที่ริมทะเลสาบแห่งนี้เท่านั้น วิวทิวทัศน์ที่นี่จะแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล สวยงามตลอดปีจึงมีผู้คนมากมายแวะเวียนมาที่แห่งนี้

การเดินทาง : ลงป้าย Ippekiko

ช่วงเวลาชมใบไม้แดง : ตั้งแต่กลางเดือน พ.ย. จนถึงกลางเดือน ธ.ค.

เมืองอิโต

เมืองอิโต นอกจากที่เที่ยวจะเยอะแล้ว ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นและอาหารทะเลด้วย ช่วงบ่ายๆกลับเข้าตัวเมืองเพื่อไปแช่ออนเซ็น หรือหาอาหารทะเลสดๆทานกันดีกว่า ในเมืองอิโตมีที่พักมากมาย ทั้งแบบเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์นไปจนถึงโรงแรมสไตล์รีสอร์ท เราเลยลิสต์โรงแรมที่น่าไปพักมาให้ดูกัน

ดันโคเอ็น (HOTEL DANKOEN)

เรียวกังออนเซ็นที่ตั้งอยู่ในใจกลางแหล่งออนเซ็นธรรมชาติและสามารถสวมชุดยูกาตะเดินเล่นในเมืองได้ ดื่มด่ำไปกับการแช่ออนเซ็นทั้งบ่อรวมและบ่อกลางแจ้ง หรือจะเพลิดเพลินไปกับเล่นโบว์ลิ่งของทางโรงแรมก็ได้

Website: https://www.dankoen.com/

Southern Cross Resort

รีสอร์ทเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาเมืองอิโต และดวงดาวเต็มท้องฟ้าในเวลากลางคืน บริการอาหารญี่ปุ่นและตะวันตกเลิศรสทั้งแบบคอร์สและแบบทานร่วมกัน รีสอร์ทติดกับสนามกอล์ฟ สามารถเพลิดเพลินไปกับการเล่นกอล์ฟในวันที่อากาศดี

Website: https://www.southerncross.co.jp/

โยคิคัง (Yokikan)

เรียวกังออนเซ็นแบบญี่ปุ่นแท้ถือเป็นตัวแทนออนเซ็นของเมืองอิโตที่เปิดกิจการมายาวนานกว่า 100 ปี ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องการนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปบนเขาเพื่อแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง มีบริการอาหารทะเลเลิศรสจากวัตถุดิบท้องถิ่นอันอุดมสมบูรณ์ของเมืองอิโต

Website: https://www.yokikan.co.jp

Day 2 อิโต

เราเลือกเดินทางไปจุดไกลสุดเลยคือ Jogasaki Coast แล้วค่อยๆย้อนกลับมาตามที่เที่ยวจนถึงเมืองอิโต

ชายฝั่งโจกาซากิ (Jogasaki Coast)

ชายฝั่งโจกาซากิเกิดจากลาวาที่ไหลออกมาจากการระเบิดของภูเขาโอมุโระเมื่อประมาณ 4,000 ปีก่อน เราสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจากหน้าผาที่มีแหลมน้อยใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน กิจกรรมที่อยากแนะนำ คือ เส้นทางเดินเล่น 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง Picnical Course ความยาวประมาณ 9 กิโลเมตร และเส้นทางเดินสำรวจธรรมชาติ ที่นี่มีสะพานแขวนคาโดวากิ ยาว 48 x สูง 23 เมตร ถือเป็นอีกจุดชมวิวที่น่าตื่นเต้น และจากหอประภาคารคาโดวากิสามารถชมวิวแบบพาโนราม่าได้ 360 องศา โดยมองเห็นหมู่เกาะอิซุและภูเขาอามางิ นอกจากนี้ใกล้กับสะพานแขวนคาโดวากิยังมีน้ำตกทาจิมะ ซึ่งน้ำตกจะไหลลงสู่ทะเลโดยตรงเป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม น้ำตกนี้ถูกเรียกว่าน้ำตกลวงตา เนื่องจากสามารถเห็นน้ำตกนี้ได้แค่ตอนที่มีปริมาณน้ำฝนมากเท่านั้น นอกจากวิวธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่แล้วยังสามารถชมดอกไม้น่ารักๆได้ เช่น ดอกไฮเดรนเยียในเดือน มิ.ย. ดอกเดย์ลิลลี่และดอกลิลลี่สายพันธุ์สึคาชิยูริในเดือน ก.ค. ดอกเบญจมาศและดอกสึวาบูกิในฤดูใบไม้ร่วง เป็นต้น

การเดินทาง : ลงป้าย Izu Kaiyo Koen แล้วเดินต่ออีก 20 นาที

ภูเขาโคมุโระ (Komuroyama)

ชมดอกไม้นานาพันธุ์ในแต่ละฤดูตลอดปีที่สวนสาธารณะโคมุโระยามะ ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดคือ “สวนดอกสึสึจิ” (ดอกอาซาเลีย) บานสะพรั่งจำนวน 100,000 ต้น ทั้งหมด 40 ชนิด ซึ่งในเดือนเมษายนจะบานสวยงามมากดูคล้ายกับพรมสีแดงที่ปูไว้ จุดถ่ายรูปยอดนิยมของที่นี่คือ “อุโมงค์ดอกสึสึจิ” จากต้นสึสึจิที่สูงใหญ่ตั้งเรียงรายสองฝั่งข้างทาง โดยทุกๆปีจะมีเทศกาลชมดอกสึสึจิ เป็นงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศมาเยี่ยมชม และยังมี “สวนดอกสึบากิ” (ดอกคาเมเลีย) ซึ่งรวมเอาทั้งดอกสึบากิจำนวน 4,000 ต้น ทั้งหมด 1,000 ชนิด และดอกไม้หลากหลายพันธุ์หาดูได้ยาก ในเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคมจะมีการจัดงานประกวดดอกสึบากิ ซึ่งจะนำไม้ดอกในแจกันและการจัดดอกไม้แบบอิเคบานะมาจัดแสดงให้ชมกันด้วย

ยอดเขาโคะมุโระสูงจากระดับน้ำทะเล 321 เมตร การขึ้นไปยังยอดเขาจะต้องนั่งลิฟต์ขึ้นไป ด้านบนมีจุดชมวิวแบบพาราโน 360 องศา มองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซากามิ คาบสมุทรโบโซ หมู่เกาะอิซุ และภูเขาอามางิ

ใกล้ๆยอดเขายังมีลานรูปปั้นไดโนเสาร์ทั้งหมด 13 ตัว และลานเด็กเล่นด้วย

  • ค่าขึ้นลิฟต์ : ผู้ใหญ่ (ไป-กลับ) 500 เยน, (เที่ยวเดียว 300 เยน) : เด็ก (ไป-กลับ) 250 เยน, (เที่ยวเดียว 150 เยน)
  • แสดงพาส ลดราคากระเช้าไป-กลับ ผู้ใหญ่ 60 เยน เด็ก 30 เยน / ลดราคาซอฟท์ครีม 50 เยน (ร้านอยู่ตรงตีนเขา)
  • เวลาให้บริการลิฟต์ : 9:30 – 16:00
  • การเดินทาง : ลงป้าย Komuroyama Lift

Komuroyama Ridge Walk MISORA & Cafe・321

จุดเช็คอินแห่งใหม่บนยอดเขาโคมุโระ มีที่ชมวิวด้านบนเห็นวิวได้แบบ 360 องศา สามารถเดินเล่นบน Komuroyama Ridge Walk MISORA ซึ่งเป็นทางเดินไม้ชมวิวทะเลบนแนวสันเขายาวประมาณ 166 เมตร และแวะดื่มกาแฟที่ Cafe・321 (คาเฟ่ ซัง-นิ-อิจิ) ซึ่งที่มาของชื่อคาเฟ่มาจากความสูงของภูเขาโคมุโระนั่นเอง ร้านคาเฟ่มีที่นั่งด้านในและด้านนอก โดยด้านนอกจะเป็นที่นั่งแบบระเบียงชมวิว และยังมีทางเดินกระจกยื่นออกไปกลางอากาศให้ได้ชมวิวและถ่ายรูปชิคๆกันอีกด้วย

ในคาเฟ่ จะมีพวกกาแฟ คราฟต์เบียร์ และเครื่องดื่มต่างๆให้บริการ

  • แสดงพาส ลดค่ากาแฟ 50 เยน
  • เวลาให้บริการ 9:30 – 16:00

ซากุระเมืองอิโต

และอยากแนะนำเพิ่มเติมคือ ช่วงซากุระของเมืองอิโต นั้นสวยมากๆ มีหลายจุดให้ชม เรามาขอแนะนำกัน สามารถชมได้ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.พ. และ ก.ย.-พ.ค. เลยทีเดียว แล้วแต่สายพันธุ์ว่าจะบานเดือนไหน

พิพิธภัณฑ์ New York Lamp Museum & Flower Garden

ซากุระสีชมพูอ่อนพันธุ์คังซากุระ (Kanzakura) จำนวน 100 ต้น ทั้งด้านในและด้านนอกสวนของพิพิธภัณฑ์ หากเข้าชมดอกซากุระจะต้องเสียค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ด้วย

  • ช่วงเวลาซากุระบาน : กลางเดือนมกราคม – ต้นเดือนกุมภาพันธ์
  • ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ : ผู้ใหญ่ 1,200 เยน / นักเรียนประถม 600 เยน / เด็กอ่อน ฟรี
  • การเดินทาง : นั่งรถบัสมาลงป้าย Izu Kaiyo Koen
  • Website พิพิธภัณฑ์ : https://nylfmuseum.com/en/

ภูเขาโคมุโระ (Komuroyama)

ซากุระสีชมพูอ่อนพันธุ์โคมุโระซากุระ (Komuro sakura) ประมาณ 100 ต้น บานไปทั่วรอบๆร้านอาหาร Komuroyama Rest House ซึ่งร้านตั้งอยู่ใกล้กับจุดขึ้นกระเช้าภูเขาโคมุโระ

  • ช่วงเวลาซากุระบาน : ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
  • การเดินทาง : นั่งรถบัสมาลงป้าย Komuroyama Lift

แนวถนนต้นซากุระที่อิซุโคเก็ง (Izu Kogen Cherry Blossom)

ซากุระสีชมพูและสีชมพูอ่อนพันธุ์โอคังซากุระ (Oh-Kanzakura) จะเริ่มบานรอบสถานี Izu Kogen ในช่วงต้นเดือนจนถึงกลางเดือนมีนาคม ที่นี่จะเป็นอุโมงค์ซากุระยาว 3 กม. จำนวนกว่า 600 ต้น ถ้านับรวมโดยรอบจริงๆคือประมาณ 3,000 ต้นเลยทีเดียว เป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปซากุระกัน

  • ช่วงเวลาซากุระบาน : ต้นเดือนมีนาคม – กลางเดือนมีนาคม
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
  • การเดินทาง : นั่งรถบัสมาลงป้าย Izu Kogen station

Sakura No Sato

จุดชมซากุระที่ตีนเขาโอมุโระ เต็มไปด้วยซากุระกว่า 1,500 ต้น มากกว่า 40 สายพันธุ์ ที่นี่สามารถชมซากุระได้ยาวๆตั้งแต่เดือนกันยายนไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ซากุระพันธุ์ที่เด่นๆเลยคือ คังซากุระและคาวาซุซากุระ (บานเดือนกุมภาพันธ์) โอชิมะซากุระชนิดที่บานเร็ว โจกะซากิซากุระ และอิโตซากุระ (บานเดือนมีนาคม) แต่ช่วงที่ดีที่สุด คือ เดือนเมษายน ซากุระพันธุ์โซเมอิโยชิโนะจะบานสะพรั่งไปทั่วทั้งสวน

  • ช่วงเวลาซากุระบาน : เดือนกันยายน จนถึง เดือนพฤษภาคม
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
  • การเดินทาง : นั่งรถบัสมาลงป้าย Shaboten Koen

Izu Kyuko Line – Kawazu Sakura

แล้วถ้าใครเดินทางมาช่วงต้นเดือน ก.พ. ยังจะสามารถไปชมซากุระที่เมือง Kawazu ได้อีกด้วย ที่นี้เป็นซากุระพันธุ์คาวาซุที่จะบานไวประมาณต้น ก.พ. ก็บานแล้ว เราสามารถเดินทางจากเมืองอิโต ได้ง่ายๆด้วยรถไฟสาย Izu Kyuko เป็นรถไฟสายเลียบทะเลวิวสุดสวย จนไปถึงเมือง Kawazu

สำหรับสาย Izu Kyuko มีพาสด้วยนะ ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.izukyu.co.jp/global_site/pdf/panf2021_09_1.pdf

ไทยากิซากุระ ถ่ายคู่กับซากุระคาวาซุ

จริงๆเมืองอิโตยังมีที่เที่ยวอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Izu Teddy Bear Museum ที่นี่รวมรวมตุ๊กตาหมีเท็ดดี้หาชมได้ยากและลองทำตุ๊กตาหมีเองได้ด้วย หรือใครชอบดูไฟกลางคืนสวยๆต้องไป Gran Illumi งานประดับไฟขนาดใหญ่พร้อมโชว์ต่างๆ และสายกินห้ามพลาดไปชิมอาหารทะเลสดๆที่จุดแวะพักรถ Ito Marine Town ที่นี่ยังมีออนเซ็นวิวทะเลให้แช่ด้วยนะ

Izu Teddy Bear Museum
Gran Illumi
ito
Ito Marine Town

เมืองอิโต อีกเมืองที่น่าเที่ยวใกล้โตเกียว เดินทางไม่ยาก มีที่เที่ยวหลายแห่ง ออนเซ็น และอาหาร ครบทุกอย่าง มีโอกาส แนะนำมาลองเที่ยวกัน

อ่านรีวิวญี่ปุ่นอื่นๆได้ที่ https://go-graph.com/category/japan/

Tags Cloud

แชร์เนื้อหา
Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest