เที่ยว โอคายาม่า เฮียวโงะ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี Okayama – Hyogo

Okayama – Hyogo เที่ยว โอคายาม่า เฮียวโงะ

Okayama – Hyogo เที่ยว โอคายาม่า และ เฮียวโงะ สองจังหวัดนี้อยู่ทางด้านตะวันตกของโอซาก้า เดินทางไม่ยากมีชินคันเซนวิ่งผ่านใกล้แหล่งท่องเที่ยวทั้งสองจังหวัด โอคายาม่า จะอยู่ในภูมิภาคชูโกกุ ส่วน เฮียวโงะ จะอยู่ในคันไซติดกับโอซาก้า บางคนอาจไม่คุ้นชื่อจังหวัดนี้ เพราะหลายคนรู้จักแต่ โกเบ นั้นเอง จริงๆ โกเบ เป็นแค่เมืองหลักในจังหวัด เฮียวโงะ นั้นเอง

โอคายาม่า และ เฮียวโงะ เป็นจังหวัดที่ถือว่าอยู่คู่กันมาตั้งแต่อดีต เป็นเมืองท่า เมืองการค้าสำคัญตั้งแต่สมัยเอโดะเลยก็ว่าได้ และมีการพัฒนายาวจนไปถึงยุคเมจิ จนถึงปัจจุบัน ด้วยเป็นเมืองท่าและมีต่างชาติเข้ามาเป็นแห่งแรกๆ สถาปัตยกรรมของสองจังหวัดนี้เลยมีสถาปัตย์ตะวันตกสร้างอยู่ไปทั่ว แล้วด้านเหนือของสองจังหวัดนี้เป็นพื้นที่ภูเขา เพราะงั้นไม่ต้องพูดถึงเลยว่าใบไม้เปลี่ยนสีที่นี้ก็สวยไม่แพ้ที่ไหนในญี่ปุ่นเลย แล้วก็ยังมีแหล่งออนเซนมากมายอีกด้วย ทำให้ทั้งสองจังหวัดนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมตะวันตก ออนเซน ธรรมชาติแสนสวยงาม และอาหารยังอร่อยมากๆ สองจังหวัดนี้น่ามาท่องเที่ยวมากๆ

การเดินทางไป เที่ยว Okayama และ Hyogo

ง่ายที่สุดในการ เที่ยว โอคายาม่า และ เฮียวโงะ คือมาจากสนามบินคันไซ โอซาก้า โดยรถไฟชินคันเซน ซึ่งมีพาสหลายตัวที่สามารถเดินทางได้ทั้ง 2 จังหวัดนี้ แต่ถ้าแนะนำจริงๆ คือ JR Kansai Wide Pass ประหยัดและคลอบคลุมทุกที่ที่เราจะไปในทริปนี้แล้ว ราคาก็แค่ 10,000 เยน ใช้ได้ 5 วันติดต่อกัน

  • คุณสามารถใช้ Kansai WIDE Area Pass ในการเดินทางได้อย่างไม่จำกัดครั้งในพื้นที่ที่ระบุบนแผนที่
  • รถไฟที่ใช้บริการได้มีดังต่อไปนี้
    • – รถไฟหัวกระสุน “SANYO SHINKANSEN” (Shin-Osaka ⇔ Okayama) เมื่อนั่งที่นั่งแบบจองล่วงหน้า
      ・ ท่านสามารถใช้ Pass ในการขึ้นรถไฟ Hello Kitty Shinkansen ได้
    • – รถไฟประเภท Express Train ที่ชื่อ “HARUKA” “KUROSHIO” “THUNDERBIRD” “KOUNOTORI” “SUPER HAKUTO” “SUPER INABA” และอื่น ๆ เมื่อนั่งที่นั่งแบบจองล่วงหน้า
    • – รถไฟประเภท Rapid Service หรือ Special Rapid Service หรือประเภท Local ในเส้นทางเดินรถไฟธรรมดาของ JR-WEST
  • WEST JAPAN JR BUS ใช้ได้เฉพาะกับรถบัสประจำทางภายในเขตพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น ไม่สามารถใช้บริการรสบัสด่วนได้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.westjr.co.jp/global/th/ticket/pass/kansai_wide/

JR Kansai Wide Pass

Okayama เที่ยว โอคายาม่า

เราออกเดินทางไป เที่ยว โอคายาม่า ก่อนเลย โดยชินคันเซน ถ้ามาจากสนามบินคันไซประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าจากโอซาก้าประมาณ 2 ชั่วโมง

Kibitsu Shrine

ศาลเจ้าที่เกี่ยวข้องกับตำนาน Momotaro ตามรอยตัวเอกในนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ตลอดเส้นทางเดินยาว 360 เมตร ที่สวยงาม ที่ศาลเจ้าคิบิตสึเป็นศาลเจ้าที่เกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับเทพเจ้าในตำนานอันเป็นที่มาของโมโมทาโร่ “Momotaro” เด็กชายผู้เกิดจากลูกท้อ มีอาคารหลักที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ ซึ่งได้รับการบูรณะใหม่ในปี 1425 ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของที่นี่ คือระเบียงทางเดินที่เก่าแก่ยาวถึง 360 เมตร ที่ทอดยาวเป็นแนวทางตรงซึ่งระหว่างทางจะมองเห็นดอกไม้ตามฤดูกาลที่สวยงามเบ่งบานอยู่ทั้งสองด้าน

ทางเดินระเบียงไม้ยาวที่สุดในญี่ปุ่น ยาว 360 เมตร

Ikiya

ร้าน Ikiya เป็นร้านอิซากานะ ที่เน้นเป็นอาหารท้องถิ่นสไตล์โอคายาม่า มีเมนูที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเยอะแยะไปหมด ร้านอยู่ไม่ไกลจากสถานี Okayama รับรองไม่ผิดหวัง อร่อยมากๆ

พิกัด : https://goo.gl/maps/6oML6Jr4QKcHmWa66

La Malle De Bois

La Malle de Bois รถไฟท่องเที่ยวสำหรับคนชอบปั่นจักรยาน จะพาคุณพร้อมจักรยานไปถึงเส้นทางปั่นจักรยานต่างๆ ตรงชานชาลามีจุดครวจเช็คจักรยาน ภายในมีที่จอดเฉพาะ มีร้านค้าเล็กๆ ขายของที่ระลึกและอาหาร เบนโตะสายนี้ทำได้น่ารักมาก เป็นขบวน Joyful Train ที่ทำออกมาได้ดีมาก

โดยจะวิ่งต้นทางจากสถานี Okayama Station ไปยังปลายสถานี 4 เส้นทาง ที่จุดหมายปลายทางเป็นเส้นทางปั่นจักรยานทั้งสิ้น

  • Hinase Station
  • Uno Station
  • Onomichi Station (เราขึ้นอันนี้แล้วลงระหว่างทางที่สถานี Kurashiki )
  • Kotohira Station
  • Website : https://www.jr-odekake.net/railroad/kankoutrain/area_okayama/lamalledebois/

มีที่จอดจักรยานในขบวน

ที่นั่งแบบบาร์ชมวิว

เบนโตะทำได้น่ารักมาก

Kurashiki

มาเที่ยว โอคายาม่า ได้ยินคำว่าย่านประวัติศาสตร์อาจจะคิดว่าน่าเบื่อ แต่ไม่ใช่กับ คุราชิคิ ที่เราขอเรียกว่าที่นี่ว่าย่านประวัติศาสตร์สุดชิค เดินเที่ยวได้ไม่เบื่อ ทั้งสตอรี่กับสถานที่เก่าแก่สมัยยุคเอโดะ เป็นพื้นที่ปกครองของซามูไรเลยทำเมืองนี้เจริญและผังเมืองสวยงาม เป็นเส้นทางการค้าสำคัญ จะมีโกดังเก็บของสมัยก่อนอยู่ พร้อมกับภาพเรือที่ล่องใสแม่น้ำคุราชิคิ ไหลผ่านมาในย่านประวัติศาสตร์ เป็นภาพที่สวยงามมาก

ส่วนเรื่องของความชิคอย่างที่บอกไปตอนแรก คาเฟ่ฮิป ร้านแบรนด์ดีไซน์ญี่ปุ่น งานคราฟท์ โซนนี้มีเพียบเลย เดินได้ทั้งวันจริง ถ้านั่งรถไฟมาไล่ตั้งแต่สถานีคุราชิคิ เดินข้ามมาฝั่งตรงข้าม ตรงมาย่านเก่า มีให้เห็นเรื่อยๆ

The Bikan Historical Area ย่านบิคัง ย่านที่ทุกคนต้องมาเยือนที่คุราชิกิ จะพบกับสถาปัตยกรรมตะวันตกผสมเอโดะ

บรรยากาศภายในเมือง

Masking Tape TANE

หลายคนคงรู้จักเทปกาว MT หรือ Masking Tape กันซึ่งต้นกำเนิดก็อยู่ที่เมือง Kurashiki เนี่ยแหละ มีโรงงานผลิตอยู่ที่เมืองนี้เลย (โรงงานไม่ได้อยู่ในแถวเขตเมืองเก่านะ แต่มีทัวร์ชมโรงงานด้วย ) ซึ่งที่ร้าน TANE เป็นร้านขาย Masking Tape ที่เปิดมากกว่า 10 ปีแล้ว มี Masking Tape หลากลายลาย หลายพันแบบ และมีลายเฉพาะที่ขายในคุราชิกิแห่งนี้เท่านั้นด้วย

พิกัด : https://goo.gl/maps/y5413Sz8bQxsGfYDA

Chiyagyu

ร้านขายเนื้อชิยะ มีหลากหลายเมนูทำจากเนื้อชิยะ (Chiya) คือเนื้อวัวท้องถิ่นของโอคายาม่า ต้นกำเนิดวัววากิว ที่เมือง Chiya ในโอคายาม่า ที่นี้ถือว่าเป็นที่คนญี่ปุ่นเริ่มทานเนื้อวัวกันเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ โดยปกติคนญี่ปุ่นจะไม่กินวัวกันจนตั้งแต่สมัยที่ โดนนายพล แม็ททิว เพอรี่ มาปิดล้อมอ่าว แล้วชาวอเมริกันล้มวัวกินกันที่ท่าเรือโกเบ คนญี่ปุ่นถึงเริ่มกินแบบแพร่หลายกัน

แต่ที่เมือง Chiya นั้นทาน กินมาเป็นพันปีแล้วตั้งแต่สมัยเฮอัน โดยมีตำนานว่าได้รับอนุญาตจากเทพพระเจ้าผู้ปกครองเมืองแห่งนี้ บอกว่า วัวคือของขวัญจากเทพเจ้า จงล้มไปกินซะ ชาวเมือง Chiya เลยกินเนื้อวัวกันมากว่าพันปีเลย

จุดเด่นของเนื้อชิยะ คือ ความมันมากกว่า เนื้อวากิว เสียอีก มีไขมันแทรกอยู่ทั่วไปทั้งเนื้อ เลยทำให้เนื้อชิยะนุ่มละลาย และรสเข้มข้นมาก จะย่าง หรือสุกี้ก็ได้ แต่ก็กินมากไม่ได้เพราะเลี่ยนนั้นเอง ก็มาลองเนื้อชิยะของดีโอคายาม่ากันนะ

Denim Kimono

ร้านเช่ายูกาตะสวยๆจากผ้ายีนส์ ที่คุราชิกิทำยูกาตะจากผ้ายีนส์เพราะต้นกำเนิดผ้ายีนส์ในญี่ปุ่นอยู่ที่โอคายาม่านั้นเอง ใส่สวยๆ เดินเล่นได้รอบคุราชิกิเลย ทางร้านมีบริการแต่งชุด ทำผมพร้อม

Yakatabune

บรรยาศล่องเรือในแม่น้ำคุราชิกิ กลางเมือง ระยะทางประมาณ 30 นาที ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 250 เยน

Kudamono Kumachi

ร้านขนมหวานที่อยากแนะนำมาก เป็นร้านพาร์เฟ่ต์ที่เต็มไปด้วยผลไม้ตามฤดูกาลของโอคายาม่า โอคายาม่าขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งผลไม้อยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงความอร่อย มันดีมาก ผลไม้ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละฤดู

Yubara Onsen

Yubara Onsen ตั้งอยู่ในเมือง Maniwa ตั้งอยู่ด้านหลังเขื่อน Yubara ที่นี้มีออนเซนกลางแจ้ง ที่รายล้อมด้วยโขดหินและธรรมชาติ แล้วช่วยใบไม้เปลี่ยนสี ยิ่งสวยมากๆ ออนเซนกลางแจ้งที่นี้ เป็นน้ำแร่ตามธรรมชาติ 100% แต่เป็นแบบบ่อรวม และกลางแจ้งจริงๆ แบบคนทั่วไปเดินผ่านมาเห็นมอง แต่ที่นี้ยังอนุญาตให้ผู้หญิงใส่ชุดว่ายน้ำลงไปแช่ออนเซนได้นะ

Komeya

เรียวกังในบริเวณ Yubara Onsen ตัวเรียวกังลักษณะอาคารจะเหมือนในเมืองคุราชิกิเลย มีออนเซนแบบส่วนตัวด้วย สามารถจองเลือกเวลาได้ อาหารที่เสิร์ฟก็แน่นอน เนื้อชิยะ และอาหารท้องถิ่นของโอคายาม่า

Okutsu Gorge

เป็นหุบเขาที่มีชื่อเสียงในการชมใบไม้เปลี่ยนสีของจังหวัดโอคายาม่า เราสามารถเดินไปตามถนนได้เลย เพราะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะปิดไม่ให้รถผ่าน ให้คนเดินชมใบไม้เปลี่ยนสีได้สะดวก จุดชมสวยๆจะอยู่ตรงสะพานก็สามารถมองเห็นแม่น้ำไหลผ่าน สองฝากฝั่งก็จะเห็นใบไม้เปลี่ยนสีทั้งหุบเขา

  • การเดินทาง:ใช้เวลาประมาณ 60 นาทีโดยรถประจำทางจากสถานี JR Tsuyama
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/DNrKi9ioUT9X5MDM9

Hyogo

เราย้ายจังหวัดบ้างนั่งรถไฟก็ต่อมาถึงจังหวัด Hyugo ไปที่แรกคือสถานี Himeji

Himeji

จากสถานี Himeji เราก็จะเดินไปตามถนนหน้าสถานีเพื่อไปเที่ยวปราสาทฮิเมจิ ซึ่งระยะทางประมาณ 15 นาทีก็เดินถึง แต่เอาเข้าจริงเป็นชั่วโมงเพราะของกินเยอะมาก มีทั้งถนนสายช้อปปิ้ง Miyuki Dori ร้านอาหารระหว่างก็เยอะ เอาเข้าจริงหลายชั่วโมงกว่าจะถึงปราสาทฮิเมจิ

Oden Nadagiku Kappatei

อาหารขึ้นชื่อของเมืองฮิเมจิ (Himeji) คือโอเด้งฮิเมจิ ความพิเศษคือซอสโชยุผสมขิง ด้วยที่ฮิเมจิเป็นแหล่งผลิตโชยุ และเมืองข้างเคียง Shirahama เป็นแหล่งปลูกขิง ก็เลยเกินเป็นซอสแบบเฉพาะของฮิเมจิ ก็จะเป็นโอเด้งราดด้วยซอสโชยุขิง นั้นเอง ส่วนโอเด้งอีกแบบคือ โอเด้งราดด้วยกากสาเกเป็นเฉพาะของร้าน Oden Nadagiku Kappatei ที่เจ้าของเป็นเจ้าของโรงงานผลิตสาเกด้วยนั้นเอง ก็จะเป็นรสชาติแปลกใหม่โอเด้งกลิ่นหอมสาเก นั้นเอง ในร้านยังมีอาหารแบบอื่นๆด้วยนะ

พิกัด : https://goo.gl/maps/HXkFbnFtR2fmTbK89

Yamasa Kamaboko Otemae

ร้านผลิตลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น Kamaboko อยู่ระหว่างทางเดินไปปราสาท ร้านก็จะขาย Kamaboko แบบต่างๆ แต่คนมาจะซื้อคอร์นดอก ซึ่งปกติข้างในจะเป็นไส้กรอก แต่ที่นี้เป็น Kamaboko แทน มีชีสด้วย อร่อยๆ

พิกัด : https://goo.gl/maps/ZhBJNYJ8ydpokbN56

Jyujiro

เป็นอีกร้านที่น่าแวะระหว่างทาง เป็นร้านขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรแบบออร์แกนิค และยังมีขายเจลาโต้จากวัตถุออร์แกนิคด้วย ผัก ผลไม้ ตามธรรมชาติ และข้าวพองที่ผลิตในร้านเอง

พิกัด : https://goo.gl/maps/YXZrmP41Xb2NbeWg8

Himeji Castle

ปราสาทฮิเมจิ ภาพของปราสาทสีขาวที่มาฉายาว่า ปราสาทนกกระยางขาว ตัดกับท้องฟ้า ตั้งเด่นตระหง่ามองเห็นได้แต่ไกล จนได้ยกย่องเป็นปราสาทสวยที่สุด 1 ใน 3 ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว ปราสาทฮิเมจิ มีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี ได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลกจาก Unesco และเป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น เส้นทางการเดินชมปราสาท จะไล่ตั้งแต่ด้านล่าง เดินตามทางค่อยๆ ชันขึ้นไปยังด้านบน จนถึงบนสุดของปราสาท ที่เป็นจุดชมวิวมองกลับมาในเมือง

มุมที่ทุกคนต้องถ่าย ปราสาทฮิเมจิขึ้นชื่อว่าเป็นปราสาทที่บุกยากมาก เพราะมีหลายขั้น เดินวนไปมา และฝั่งป้องกันยังมีรูปที่ไว้ส่องธนูยิงลงมาได้ด้วย

Arima Onsen

Arima Onsen เป็นเมืองออนเซนเก่าแก่ที่สวยงามมาก แล้วออนเซนก็ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งเพราะมีน้ำแร่ถึง 2 แบบด้วยกัน แบบ น้ำแร่ทอง(Kinsen) น้ำจะออกสีน้ำตาลทอง ดีต่อผิวพันธุ์และช่วยรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ ส่วนน้ำเงิน (Ginsen) จะออกสีเทา ช่วยในเรื่องรักษาข้อต้อ และกล้ามเนื้อ มาถึงอาริมะออนเซนแล้วก็ห้ามพลาดแช่ทั้งสองบ่อนะ แล้วรอบๆตัวเมืองยังมีบ่อแช่เท้าด้วย เดินชมเมืองไป เมื่อยก็นั่งพักแช่เท้า รับรองฟินมาก!

การเดินทาง : นั่งรถบัส Hankyu จากสถานี Sannomiya 710 เยน (1 ชม. 20 นาที) หรือ JR Busจากสถานี Shin-Kobe 780 เยน ( 50นาที

ขนมเซมเบ้ กับไซเดอร์จากน้ำออนเซน ไม่ควรพลาด

Hanamusubi Ryokan

เรียวกังในอาริมะออนเซน มีห้องหลากหลายรูปแบบ มีแบบออนเซนในตัวก็มี และแน่นอนว่าต้องมีออนเซนแบบ Kinsen กับ Ginsen ทางเรียวกังมีเตรียมหมอนให้ลูกค้าด้วยว่าชอบนอนแบบไหนให้เลือก เป็นตัวเลือกเรียวกังที่น่ามาพักที่อาริมะออนเซน

website : https://www.hanamusubi.co.jp/en/

Rokko San

เขา Rokko เป็นเขาสูงที่สุดในโกเบ ด้านบนมีที่เที่ยวหลายแห่ง ลานสกี พิพิธภัณฑ์ สวนพฤกษศาสตร์ ร้านอาหาร จุดชมวิวระดับประเทศ คือมาเที่ยวได้ทั้งวันอ่ะ ที่เขารกโกะ การเดินทางมาเขารกโกะ มีทางขึ้น 2 ฝั่ง ขึ้นกระเช้า จาก Arima Onsen หรือนั่ง Cable Car จากฝั่งเมือง Kobe โดยพอถึงด้านบนภายในเขารกโกะเดินทางด้วยรถบัสไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งจะมีพาสสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย Rokkosan Tourist Pass ใช้รถบัสไม่จำกัดเที่ยว และลดค่าเข้าต่างๆบนเขารกโกะอีกด้วย

Rokkosan Tourist Pass จะรวมค่าเดินทาง

  • Kobe City Bus สาย 16 ไป-กลับจากสถานี Hankyu Rokko / Hanshin Mikage /JR Rokkomichi
  • Rokko Cable Car ไป-กลับ
  • Rokko Sanjo Bus ไม่จำกัดเที่ยว

สถานที่จำหน่าย *ไม่มีจำหน่ายที่เขา Rokko

  • KANSAI TOURIST INFORMATION CENTER Terminal 1
  • BIC CAMERA Namba Store 1F
  • EDION NAMBA TOURIST INFORMATION CENTER
  • Hankyu Tourist Center OSAKA-UMEDA

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.rokkosan.com/th/pass/

แผนที่บนเขา Rokko

เราข้ามกระเช้าจากฝั่ง Arima Onsen ราคา 1,080 เยน ถ้ามีพาสลด 20%

Website : http://koberope.jp/en/rokko

Rokko-Shidare Observatory

จุดชมวิวสูงสุดบนเขา Rokko เป็นสถาปัตยากรรมที่โดดเด่นมากๆ จุดนี้เหมาะมาตอนพระอาทิตย์ตกมาก ถ่ายรูปสวย เราไปช่วงที่มีงาน Rokko Art พอดี เลยมีหุ่นต่างดาวน่ารักๆ มาตั้งอยู่ด้วย

ภายในจะเหมือนเป็นห้องโถงใหญ่ๆ มีลูกเล่นคือภายในถ้าช่วงหน้าร้อนจะเย็น แต่ฤดูร้อนกลับอบอุ่น คือห้องนี้สร้างให้คงอุณหภูมให้พอดีได้ และมีน้ำไหลเวียนอยู่ด้วยตลอดเวลา เป็นการปรับอากาศแบบธรรมชาติ

  • ค่าเข้า 300 เยน

Granite Cafe

คาเฟ่ที่เห็นวิวงามๆ มีอาหารยุโรปและซอฟครีม อร่อย

Rokko Music Box Museum

พิพิธภัณฑ์หีบเพลง ภายในมีหีบเพลงหลายชนิด รวบรวบมาจากหลายประเทศ จะมีการแสดงโชว์หีบเพลงแบบต่างๆด้วย ด้านนอกจะเป็นสวน มีคาเฟ่ มุมถ่ายรูป และกิจกรรมลองเล่นตามจุดต่างๆ

  • ค่าเข้า : 1050 เยน มีพาสลด 200 เยน

สุดท้ายจุดชมวิวเมืองโกเบ ที่ห้ามพลาดถ้าได้ขึ้นเขารกโกะแล้ว วิวหลักล้านสวยมาก!! ได้รับการยกย่องว่าเป็นวิวกลางคืนสวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น เหมือนกับที่ ฮาโกดาเตะ และ นางาซากิ เลย

จบแล้วสำหรับทริป 2 จังหวัด เที่ยว โอคายาม่า และ เฮียวโงะ เป็นจังหวัดที่เที่ยวไม่ยากเลยเดินทางงานมีพาสไปได้ทุกที่ ขอแนะนำถ้าได้มาคันไซ

อ่านรีวิวญี่ปุ่นที่อื่นๆได้ที่ https://go-graph.com/category/japan/

Tags Cloud

แชร์เนื้อหา
Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest