ขับรถเที่ยว นีงาตะ นากาโน่
ขับรถเที่ยว นีงาตะ นากาโน่ (Niigata – Nagano) ทริปนี้เราไปเที่ยวกันยาวๆสองจังหวัดที่สามารถเดินทางถึงกันได้ ไปลุยเมืองหิมะ เรียนสกีสำหรับมือใหม่ กิจกรรมใส่รองเท้า Snowshoes เดินบนหิมะ ไปจนถึงเที่ยวสถานที่มีชื่อต่างๆของจังหวัดนีงาตะและนากาโนะ
เป็นโมเดลคอร์สไว้ให้สำหรับคนอยากตามไปเที่ยว ซึ่งเหมาะสำหรับการขับรถเช่าจะสะดวกมากกว่า ซึ่งแต่ละสถานที่ ถ้าสามารถเดินทางด้วยรถไฟได้ เราจะเขียนรายละเอียดวิธีการเดินทางด้วยรถไฟให้เช่นกัน ทริป 6 วัน นี้ เราจะเน้นไปเล่นหิมะ เรียนสกี กิจกรรมต่างๆ ซึ่งใช้เวลานานหลายชั่วโมงเกือบทั้งวันถ้าใครอยากแค่แวะมาถ่ายรูป ตามสถานที่ต่างๆ อาจจะกระชับหรือย่นเวลาให้ทริปสั้นลงได้
รูทเส้นทาง ขับรถเที่ยว นีงาตะ นากาโน่ 6 วัน 5 คืน
Ep. 1
- วันแรก ออกจากโตเกียว – เล่นหิมะที่ลานสกี GALA Yuzawa – แวะเที่ยวเทศกาลคามากุระ (กระท่อมหิมะ) – พักที่เมืองชิบุอนเซ็น
- วันสอง ไปดูลิงแช่อนเซ็น Snow Monkey Park – ไปไหว้พระ Zenkoji – กินขนมอร่อยๆที่ Nakamise – อาหารพื้นเมือง Seiro mushi – พักที่โรงแรม Hakuba Tokyu Hotel
- วันสาม เล่นสกีที่ Hakuba iwatake snow field – กินขนม ร้าน Apple & Roses
Ep. 2
- วันสี่ เที่ยวเมืองมัตสึโมโตะ – แต่งชุดกิโมโนเดินเล่นปราสาทมัตสึโมโตะ – ถนนนาวาเตะ (Nawate Street) – ถนนคนเดินนากามะจิ Nakamachi – เก็บสตรอว์เบอร์รี่ -ไปพักเมืองอนเซ็น Hayataro Onsen
- วันห้า กิจกรรมเดินบนหิมะ สโนว์ชู ที่ Senjojiki – ทานอาหารขึ้นชื่อของเมืองโคมากะเนะ “ซอสคัตสึด้ง”- แวะกินซอฟครีม Komagane Farm – พักที่เมืองอนเซ็น Kamisuwa Onsen
- วันหก กิจกรรมเดินบนหิมะ สโนว์ชู ที่ Kita Yatsugatake Ropeway – ทานเจลาโต้ – กลับโตเกียว
Googlemap รวมสถานที่ทั้งหมดของเส้นทางนี้เอาไปใช้ได้เลย : https://www.google.com/maps/d/u/0/edit?mid=1QKNoYWgC67QKDPQwPMGUOob6S9fcSPMB&usp=sharing
Day 1 ออกจากโตเกียว – เล่นหิมะที่ลานสกี GALA Yuzawa – แวะเที่ยวเทศกาลคามากุระ (กระท่อมหิมะ) – พักที่เมืองชิบุอนเซ็น
GALA Yuzawa
เริ่มต้นทริปด้วย GALA Yuzawa เป็นลานสกีที่อยู่ใกล้ๆโตเกียว และได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ขับรถออกจากโตเกียวใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งโดยขึ้นทางด่วน หรือ สำหรับคนมาด้วยรถไฟสามารถเดินทางไป-กลับ ระหว่างโตเกียวได้ใน 1 วัน สบายๆ อีกทั้งยังสามารถใช้ “Tokyo Wide Pass” ได้อีกด้วย ซึ่งสำหรับชาวต่างชาติ ประหยัดค่ารถไฟไปได้เยอะเลย และบางทีก็มีส่วนลดเอาไปใช้ในลานสกี GALA Yuzawa ได้ด้วย
- พิกัด : https://goo.gl/maps/AxrS2HX4xRMdEvqV8
- ช่วงเวลาให้บริการ : กรุณาตรวจสอบจากเวบไซด์ของลานสกี
- วิธีเดินทาง : จากสถานี Tokyo นั่ง Jōetsu Shinkansen มาลงสถานี Gala Yuzawa ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ลานสกี Gala Yuzawa ตั้งอยู่ที่เมืองยูซาวะ (Echigo-Yuzawa) จังหวัดนีงาตะ (Niigata) ลานสกีแห่งนี้เหมาะกับผู้เล่นทุกระดับ มือใหม่ยังไม่เคยเล่น ที่นี่มีคอร์สสอนเล่นสกี ที่สำคัญเลยที่นี่มีเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาไทยได้ จะคอยช่วยสอนเราด้วย นอกจากสกีและสโนว์บอร์ดแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกไม่ว่าจะเป็น ถาดเลื่อน สโนว์โมบิล หรือส่วนของ Kids Zone สำหรับเด็กๆ
สำหรับใครที่จะมาเล่นสกี สโนว์บอร์ดหรือกิจกรรมอื่นๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องอุปกรณ์เลย เพราะที่นี่มีบริการให้เช่าอุปกรณ์ครบทุกอย่างเลยค่ะ หรือถ้าอยากซื้อเป็นของตัวเอง มีร้านค้าที่ขายของอุปกรณ์เล่นสกีพร้อมเลย
ที่นี่ยังมีบริการสปา ซาวน่าอีกด้วยซึ่งจะอยู่บริเวณชั้น 3 ของสถานี Gala Yuzawa เลย หลังจากเล่นสกีเสร็จก็สามารถไปผ่อนคลายกันได้
นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารวิวดี ติดลานสกี มีเมนูอาหารอร่อยๆหลายอย่าง ร้านเครปที่เพิ่งมาเปิดใหม่ก็แนะนำอยากให้ลอง เป็นเครปที่มีซะซะดังโหงะของชึ้นชื่อจังหวัดนีงาตะใส่ไว้ด้วย และตัวแป้งเครปนั้นทำจากข้าวของจังหวัดนีงาตะด้วยค่ะ
Sengoku
ออกจากลานสกี GALA Yuzawa สถานที่ต่อจากนี้ไป เราแวะทานข้าวระหว่างทางกันก่อนเดินทางต่อที่เมืองมินามิอุโอนุมะ (Minamiuonuma) เป็นร้านอาหารสไตล์อิซากายะ แต่มีมื้อกลางวันขายด้วย ที่เมืองนี้เป็นแหล่งปลูกข้าวคุณภาพที่ดีและอร่อยที่สุดของญี่ปุ่นเลย “พันธุ์โคชิฮิคาริ” นั่นเองร้านอาหารชื่อ “Sengoku” สำหรับคนมาโดยรถไฟก็เดินทางมาง่ายๆ เดินทางโดยรถไฟจากสถานีเอจิโกะยุซาว่าใช้เวลา 20 นาที (รถไฟ Rapid ใช้เวลา 16นาที) ลงที่สถานี Muikamachi เดินมาแค่ 2 นาทีก็จะถึงร้านอาหาร
อาหารทะเลอร่อย สดใหม่และราคาไม่แพง ใครที่ทานปลาดิบไม่ได้ มีปลาอย่าง มีผักมีเทมปุระต่างๆให้เลือก
พิกัด : https://goo.gl/maps/UBvpqU8cMVSCSjE27
Kamakura no sato
หลังจากมื้อกลางวัน เราจะเดินทางข้ามจังหวัดกันเพื่อไปพักที่เมืองออนเซ็นอันขึ้นชื่อของจังหวัดนากาโน่กันค่ะ “ชิบุออนเซ็น” ซึ่งระหว่างทางนั้นช่วงฤดูหนาวจะมีเทศกาลกระท่อมหิมะหรือคามากุระด้วย ที่ Kamakura no sato เมือง Iiyama, Nagano
Kamakura no Sato จะมีเทศกาลที่จัดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ จัดขึ้นที่เมืองอียามะ จังหวัดนากาโนะ คามาคุระหรือกระท่อมหิมะ ที่นี่ตั้งอยู่เรียงรายประมาณ 20 หลังด้วยกัน เราสามารถไปชมความสวยงามพร้อมกับใช้เวลาพักผ่อนและดื่มด่ำบรรยากาศในกระท่อมหิมะของที่นี่ได้ค่ะ แต่ควรจองไปล่วงหน้า
ในช่วงเวลากลางคืนที่นี่ยังมีไลท์อัพให้ได้ชมกัน แสงไฟสว่างไสวในตอนกลางคืนสร้างบรรยากาศให้บริเวณกระท่อมดูสวยโรแมนติกมากๆเลยค่ะ
ข้อมูลทั่วไปของ Kamakura no Sato
- พิกัด : https://goo.gl/maps/5e7jtz4Ah4WVH65N7
- ช่วงเวลาจัด : ปลายเดือนมกราคม ถึง ปลายเดือนกุมภาพันธ์
- วิธีเดินทาง : จากสถานี Iiyama นั่งบัส (急行戸狩温泉スキー場線) ลงป้าย Shinanodaira ประมาณ 12 นาที
นอกจากนี้เรายังสามารถเพลิดเพลินกับมื้ออาหารของที่นี่ได้ เช่น โนโรชินาเบะ (คือหม้อไฟซึ่งเป็นอาหารของคนท้องถิ่น) นั่งทานนาเบะอุ่นๆในกระท่อม ซึ่งวัตถุดิบที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบที่หาได้จากเมือง มีศาลเจ้าเล็กๆอยู่ในกระท่อมหิมะหลังสุดท้าย ไปไหว้พระขอพรได้ด้วย
Shibu Onsen
หลังจากนั้นไม่นานเราก็ขับรถมาถึงเมืองอนเซ็นขึ้นชื่อของจังหวัดนากาโนะ ชิบุอนเซ็น (Shibu Onsen)
ชิบุอนเซ็น (Shibu Onsen)เป็นเมืองอนเซ็นเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,300 ปี ตั้งอยู่เมืองยามาโนอุจิ (Yamanouchi) จังหวัดนากาโนะ (Nagano) เมืองอนเซ็นในบรรยากาศอันเงียบสงบสัมผัสถึงบรรยากาศญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ที่นี่เหมาะแก่การมาพักผ่อนจริงๆ รายล้อมไปด้วยเหล่าที่พักเรียวกังมากมาย
จุดเด่นของเมืองอนเซ็นที่นี่คือมีบ่อนเซ็นสาธารณะให้เราได้เดินแช่มากถึง 9 บ่อ ซึ่งแต่ละบ่อมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เช่น ช่วยเรื่องอาการปวดข้อ ช่วยรักษาโรคผิวหนัง ช่วยปรับสมดุลร่างกายของผู้หญิง เป็นต้น
ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นของอนเซ็นที่ไม่เหมือนใครทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมมากในหมู่คนญี่ปุ่นที่นิยมมาพักผ่อนและบางคนก็ต้องการมาแช่อนเซ็นเพื่อการรักษานั่นเอง
การแช่อนเซ็นทั้ง 9 บ่อนี้ หากเราพักที่เรียวกังหรือโรงแรมของที่นี่ ที่โรงแรมจะมีกุญแจให้สำหรับเข้าแช่ทั้ง 9 บ่อ ซึ่งเราสามารถเดินแช่ได้เลย
Kokuya Ryokan Shiba Onsen
แนะนำที่พัก Kokuya Ryokan Shiba Onsen เป็นโรงแรมที่เราเข้าพักกันสำหรับคืนแรกของทริปนี้
“Kokuya Ryokan Shiba Onsen” ที่พักสไตล์ญี่ปุ่นใจกลางเมืองชิบุอนเซ็น โรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งบัสรับส่งฟรีระหว่างสถานีกับโรงแรม แต่เรามาจากที่จอดรถทางโรงแรมมีรถตุ๊กตุ๊กๆไปรับถึงที่จอดรถเลย
- ข้อมูลทั่วไปของโรงแรม Kokuya Ryokan Shiba Onsen
- พิกัด : https://goo.gl/maps/AreAzvt2aDvgUwaX9
- วิธีเดินทาง : จากสถานี Nagano นั่งรถไฟสาย Nagano-Dentetsu ไปลงสถานี Yudanaka (ประมาณ 1 ชั่วโมง) รถโรงแรมมีบริการไปรับที่สถานีรถไฟเลยค่ะ
ภายในห้องพักมีห้องอาบน้ำและห้องน้ำให้ทุกห้อง และห้องพักเกือบทุกห้องมีบ่อแช่อนเซ็นส่วนตัว! ถ้าห้องไหนไม่มีบ่อแช่ส่วนตัว สามารถใช้บริการ Private Onsen อนเซ็นที่เป็นห้องส่วนตัวได้เลยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มด้วย แค่จองเวลาก่อนที่จะเข้าใช้ก่อนเท่านั้
ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาไทยได้ด้วย แล้วทางโรงแรมก็ชอบคนไทยมากๆ มีธงไทย มีรถตุ๊กตุ๊ก …. และที่ต้องพูดถึงเลยคือ อาหารที่นี่อร่อยมาก! รสชาติดีทั้งมื้อเย็นแบบไคเซกิ และ มื้อเช้าแบบญี่ปุ่น ที่สำคัญอาหารจานต่อจานจะใส่ใจทุกรายละเอียดและแขกผู้เข้าพักทุกคน ใครแพ้อะไร ทานอะไรไม่ได้ ทางโรงแรมจะจำรายละเอียดได้หมดเลย
Day 2 ไปดูลิงแช่อนเซ็น Snow Monkey Park – ไปไหว้พระ Zenkoji – กินขนมอร่อยๆที่ Nakamise – อาหารพื้นเมือง Seiro mushi – พักที่โรงแรม Hakuba Tokyu Hotel
จากเมืองชิบุอนเซ็นที่เราพักเมื่อคืน เดินทางไป Snow monkey park ไม่ไกลขับรถไปประมาณ 10 นาที นักท่องเที่ยวส่วนมากเลยไม่พลาด เวลามาพักที่ชิบุอนเซ็นก็ต้องไปดูลิงหรือไปดูลิงแล้วกลับมาพักที่ชิบุอนเซ็น
คนญี่ปุ่นจะเรียกที่นี่ว่า Jigokudani Monkey Park ที่นี่ตั้งอยู่ในหุบเขาแม่น้ำ Yokoyu ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Joshinetsu Kogen
Jigokudani มีความหมายว่า “หุบเขานรก”
Snow Monkey Park สามารถมาดูลิงได้ตลอดทั้งปี ในช่วงเดือนเมษา – พฤษภาคม ซึ่งจะเป็นช่วงที่ลิงจะคลอดลูก มาแล้วจะได้เจอลูกลิงเพิ่งเกิดน่ารักๆ แต่ต้องบอกว่าเดินไกลมากนะคะ ถ้าเป็นฤดูหนาวหิมะตก ระวังลื่นและใช้เวลาเดินขึ้นเขาไปนานเหมือนกันค่ะ ราวๆครึ่งชั่วโมงเลย ระหว่างทางมีวิวที่สวยงาม สามารถแวะถ่ายรูปพักเหนื่อยกันเป็นระยะๆได้
- พิกัด : https://goo.gl/maps/xEfuLKjXmZ6dSNCw8
- เวลาทำการ : ฤดูร้อน 8.30 – 17.00, ฤดูหนาว 9.00 – 16.00
- ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็ก 400 เยน
- วิธีเดินทาง : จากสถานี Yudanaka นั่งบัสสาย Kanbayashi ไปลงป้าย Kutsunomimyo เดินต่อประมาณ 3.1 กม. หรือ จากสถานี Nagano นั่งบัสสาย Express Shiga Kogen ลงป้าย Snow Monkey Park เดินต่อประมาณ 3.8 กม.
Zenkoji
เดินทางกันต่อ เราจะไปไหว้พระกันที่วัดเซ็นโคจิ เมื่อมาถึงนากาโนะอยากให้แวะมากันจริงๆ กล่าวกันว่าทีนี่เป็นวัดพุทธแห่งแรกและเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ และเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวเมืองนากาโนะ
อาคารหลักด้านในห้ามถ่ายรูป แต่ครั้งนี้เราได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ ด้านในจะเป็นปรัมพิธีสวดวัด ทุกเช้าจะมีพระจากทั้งหมด 39 แห่งมารวมตัวสวดมนต์ทุกเช้า ที่วัดเซ็นโคจิไม่แบ่งแยกชนชั้น ไม่แบ่งแยกนิกายและไม่จำกัดความศรัทธาของสตรีในพุทธศาสนา ทำให้องค์ประธานสวดมีพระที่เป็นสตรีด้วยทำให้คนจากหลากหลายทั่วสารทิศต่างศรัทธาและมาเคารพไหว้พระขอพรกันที่นี่
จนมีคำกล่าวโบราณของญี่ปุ่นที่ว่า “เป็นวัดที่ต้องไปให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต”
ตัวอักษรที่เขียนด้วยคันจินั้นซุกซ่อนรูป “นกพิราบ” อยู่ 5 ตัว ให้ลองสังเกตกันดีๆนกพิราบที่วัดนี่มีเยอะมาก ซึ่งนกพิราบนั้นเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ ดังนั้นที่ประตูซันมงที่เราขึ้นไปด้านบนได้นั้น จะติดกรงไว้กันนกพิราบเข้ามาด้านในซึ่งบนนี้จะมีองค์พระแม่กวนอิมอยู่อีก 100 องค์
ก่อนถึงอาคารหลัก ด้านขวามือจะมีรูปพระโพธิสัตว์ที่คอยช่วยเหลือมนุษย์ในภพภูมิต่างๆทั้ง 6 ภพ ได้แก่ นรก เปรต สัตว์ อสูร มนุษย์และสวรรค์
ด้านในปรับพิธีหรือที่ทำพิธีสวด เป็นเขตด้านใน “ห้ามถ่ายรูป” จะมีองค์พระโพธิสัตว์ 25 องค์ เป็นเรื่องราวของเหล่าองค์พระโพธิสัตว์ที่ขี่เมฆมารับผู้มีจิตศรัทธาไปสู่สรวงสวรรค์
นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปที่ได้รับมาจากราชวงศ์ไทย เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สวยงามมาก ตั้งอยู่ด้านหน้าทางลงไปใต้ดิน
ซึ่งเป็นสถานที่มืดมาก ข้างล่างนี้อยากให้เดินไปเอามือสัมผัสกำแพงไปด้วย
เพราะเราจะผ่านสลักประตูที่ได้พูดกันว่านี้คือ “Key to paradise” กุญแจสู่สวรรค์ จับแล้วเขย่าเบาๆจะทำให้บุญบารมี สิ่งมงคลตกลงมาใส่ตัวเรา เพราะด้านบนเป็นที่สถิตย์ขององค์พระพุทธรูปองค์แรกของประเทศญี่ปุ่นตำแหน่งพอดีๆกันเลย
สุดท้ายนี้อย่าลืมลูบองค์พระบินซุรุ เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
บริเวณหน้าวัดระหว่างประตู Niomon และประตู Sanmon จะมีถนนคนเดินชื่อว่า Zenkoji Nakamise Street เต็มไปด้วยร้านค้าที่ขายของฝากของที่ระลึก รวมถึงร้านของกินอีกมากมาย
Monzensaryo Yayoiza
แนะนำร้านอาหารพื้นเมือง Monzensaryo Yayoiza อยู่ใกล้วัดเซ็นโคจิ เป็นร้านอาหารที่ปรับปรุงจากร้านค้าเสื้อทาทามิ ให้เป็นบ้านคนอยู่อาศัยซึ่งบรรยากาศภายในยังคงบรรยากาศบ้านเก่า ตกแต่งด้วยของใช้แบบเดิมคลาสสิคมาก
- พิกัด : https://goo.gl/maps/yJxbWPuXHCVSDs4SA
- เวลาทำการ: 11.30 – 20.00 น. (หยุดวันอังคาร, วันพุธที่ 2 และวันจันทร์ที่ 3 ของเดือน)
- วิธีเดินทาง :
- – นั่งสายใต้ดินจากสถานี Nagano ไปลงสถานี Zenkojishita 3 ป้าย ประมาณ 4 นาที (170 เยน) และเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที
- – หรือเดินจากสถานี Nagano ประมาณ 30 นาที
มีเมนูชื่อว่า Seiro-mushi นำผักต่างๆของท้องถิ่นมาใส่ถาดนึ่ง ซึ่งถาดนึ่งนั้นเป็นถาดไม้ที่ทำจากไม้สนซาวาระ มีเนื้อวากิว เนื้อหมูคุโรบุตะและเนื้อไก่ให้เลือก หรือจะเลือกเป็นผักล้วนก็ได้ นำไปนึ่งแล้วทานกับน้ำจิ้มพอนสุหรือน้ำจิ้มงา อร่อยมากและเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพมาก
แนะนำว่ามาเดินถนนคนเดินนากามิเสะหน้าวัดเซ็นโคจิ ต้องลองของกินขึ้นชื่อของจังหวัดนากาโนะนะคะ คือโอยะกิ ขนมคล้ายมันจูนึ่งค่ะ เป็นแป้งหนาหน่อยด้านในมีไส้ต่างๆ กับร้านพายแอปเปิ้ลชื่อดัง BENI-BENI คัสตาดแอปเปิ้ลพาย หอมและอร่อยมาก มีเมนูตามฤดูกาลด้วยตอนนี้เป็นคาราเมลพายแอปเปิ้ล
Hakuba Tokyu Hotel
เย็นวันนี้เราไปนอนที่เมืองฮาคุบะ (Hakuba Village) เพราะเช้าพรุ่งนี้เราจะไปลานสกีกัน โรงแรมชื่อ Hakuba Tokyu Hotel
ห้องพักกว้างขวาง มีระเบียงที่สามารถออกไปชมวิวเทือกเขาแอลป์ได้ ก่อนจะมีโควิดตอนค่ำจะมีบาร์และบริเวณพักผ่อนส่วนกลาง ต้องหยุดให้บริการไปก่อน นอกจากนี้ยังมีอนเซ็นให้แช่ด้วย น้ำอนเซ็นจะช่วยให้ผ่อนคลายจากอาการเหนื่อยหลังจากไปเล่นสกีและยังทำให้ผิวพรรณดีด้วย
พิกัด : https://goo.gl/maps/cdacQwg1UwcCxRvP6
มื้อเย็นที่โรงแรมเป็นอาหารฟิวชั่น อาหารญี่ปุ่นแต่จัดเสิร์ฟใส่จานสวยงาม มาเป็นคอร์สเลย อร่อยทุกอย่างจริงๆ
Day 3 เล่นสกีที่ Hakuba iwatake snow field – กินขนม ร้าน Apple & Roses
Hakuba iwatake snow field
เช้าวันนี้เราไปลานสกี Hakuba iwatake snow field ไม่ไกลจากโรงแรมที่พัก ที่นี่เป็นลานสกีที่อยู่ห่างจากตัวเมืองนากาโนะประมาณ 40 กม.และเป็น 1 ในลานสกีที่ Hakuba ที่มีวิวสวยสุดยอด! มีระดับความสูง 1289 เมตร สถานที่เล่นสกีที่สามารถสัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาแอลป์ได้แบบ 360 องศา ที่นี่เหมาะกับผู้เล่นทุกระดับ ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงระดับแอดวานซ์เลย มีคอร์สให้เลือกเล่นหลากหลายถึง 26 คอร์ส เลือกเล่นได้ตามความถนัด
วันนี้เรามาฝึกเล่นสกีด้วย อยากแนะนำอีกอย่างสำหรับมือใหม่ คนไม่เคยเล่น และคนที่เล่นไม่เป็นกันเลย ให้หาอาจารย์ที่สอนสกีได้มาดูแลสอนให้ เพราะการดูแลคนเล่นไม่เป็นเลยต้องใช้ทักษะพิเศษมาก เพราะ instructor หรืออาจารย์เค้าจะรู้ว่า ต้องรับมือหรือต้องป้องกันตอนเราตอนล้มยังไง และวิธีการสอนนับหนึ่งเลยควรเริ่มตรงไหน
เราเองเรียนมา 3-4 ครั้งก็จริงแต่ก็เล่นไม่เป็นเลย มาเรียนอีกก็เหมือนคนหัดใหม่ อาจารย์ต้องใจเย็นมากๆ เริ่มตั้งแต่สอนเบรกก่อนเป็นอย่างแรก ตั้งท่าเป็นเลขแปดในภาษาญี่ปุ่น หรือรูปร่างเหมือนพิซซาชิ้นสามเหลื่ยม แล้วคนสอนก็จะค่อยๆให้เราทรงตัวแล้วไหลๆไปในระยะที่ค่อยๆยาวขึ้น
เราว่าการเรียนสกีสำหรับมือใหม่ ควรให้เวลามากๆ อย่างน้อยต้อง 4-5 ชั่วโมง ถึงจะเริ่มเล่นเองแบบคอร์สได้ง่ายๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นร่างกายต้องพร้อมด้วยนะคะ เพราะการเล่นสกีต้องใช้พลังมากเลยค่ะ กล้ามขาต้องแข็งแรงไม่งั้นจะมีอาการปวดกล้ามเนื้อ
พิกัด : https://g.page/hakuba-iwatake-snow-field?share
เว็บไซต์ : https://iwatake-mountain-resort.com/winter
ที่ด้านล่างก่อนขึ้นกระเช้าไฟฟ้า จะมีร้านเช่าชุดสกีมีครบทุกอย่าง อันไหนที่เราไม่มีจะซื้อเป็นของตัวเองเลยก็ได้ เช่น หมวก ถุงมือ ผ้าพันคอต่างๆ
ด้านบนหลังจากที่เรานั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นมาแล้วนั้น กิจกรรมแรกที่เป็นไฮไลท์เลยอย่างนึงคือ นั่งชิงช้า ที่วิวข้างหน้าคือเทือกเขาแอลป์ Yoo-Hoo! SWING ตั้งอยู่ตรงหน้าผาที่ด้านหน้าเป็นวิวที่สุดยอดมากๆ ชิงช้าสองตัว ระหว่างเราเล่นชิงช้าจะมีเปิดเพลงเพิ่มความสนุกสนานไปด้วย
จุดนี้แนะนำให้ถ่ายรูปกันไว้เยอะๆเลย ไม่เหมือนใครแน่นอน
ใกล้ๆกันมี City Bakery (Hakuba Mountain Harbor) มีถิ่นกำเนิดในนิวยอร์ก เป็นคาเฟ่ขายเครื่องดื่มและขนมปังเบเกอรี่ที่อร่อยมาก ด้านหลังเป็นที่นั่งด้านนอกที่วิวเป็นเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น เป็นจุดถ่ายรูปสวยๆได้เลยเช่นกัน
นั่งลิฟท์ลงมาอีกชั้นของลานสกี จะมี Chavaty Café ที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
สามารถเล่นสกีลงมาที่ร้านนี้ได้เลย หรือคนที่ไม่เล่นสกีก็สามารถนั่งลิฟต์จากด้านบน (Mountain Harbor) ลงมาก็ได้เช่นกันค่ะ
จะนั่งในร้านก็ได้ แต่คนส่วนมากนั่งด้านนอก เพราะวิวสวยมาก เมนูเป็นเครื่องดื่มชาตามชื่อร้านเลย Hot tea Latte, Ice tea Latte,Softcream,และ Scone
Apple & Roses
เราฝึกเล่นสกีกันถึงตอนเย็นก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมออกไปหาอะไรทานกัน
เป็นร้านขนม High tea ที่หรูหราแต่ราคาไม่แพงเลย แล้วอร่อยด้วยร้าน Apple & Roses เป็นร้านขนมที่อยู่ระหว่างทาง ตั้งอยู่ที่เมือง Azumino
- พิกัด : https://goo.gl/maps/gWb5r8WHA4gXTp3R6
- เวลาทำการ:
- – ฤดูร้อน (เมษายน-ตุลาคม) 10.00 – 18.00 น. เดือนสิงหาคม (เปิดทุกวัน)
- – ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-มีนาคม) 10.00-17.00
- *ร้านหยุดทุกวันอังคาร ในช่วงฤดูร้อน และหยุดทุกวันอังคารและวันพุธในช่วงฤดูหนาว*
- วิธีเดินทาง : จากสถานี Hotaka นั่งแท็กซี่ประมาณ 10 นาที หรือ นั่งบัสที่วิ่งในเมือง Azumino มาลงที่ป้าย Apple & Roses ได้เลย หรือจะนั่งบัส West Loop – Chihiro / Alps Park Line ลงป้าย Vif Hotaka เดินต่อประมาณ 900 เมตร
- เว็ปไซต์ : http://apple-roses.com/
เจ้าของร้านมีแนวคิดอยากเผยแพร่ความอร่อยของแอปเปิ้ลให้ผู้คนได้มากที่สุด โดยผ่านของหวานบนจานข้างหน้า ทางร้านได้คัดสรรเอาวัตถุดิบที่มีคุณภาพของท้องถิ่นบวกกับนำเอาวัฒนธรรมอาหารของจังหวัดนากาโนะมาใช้ในการปรุงแต่ง
อยากแนะนำให้ลองเมนูแอปเปิ้ลโรส เป็นทาร์ตที่ทำจากแอปเปิ้ลขึ้นชื่อที่ปลูกในจังหวัดนากาโนะเอง รูปแบบสวยงาม เป็นใช้แอปเปิ้ลฝานบางๆมาทำเป็นดอกกุหลาบวางบนลูกแอปเปิ้ลอีกทีค่ะ
หรือจะเลือกเป็นเซ็ตน้ำชายามบ่ายสุดหรูที่เคาน์เตอร์ส่วนตัว ซึ่งราคาเซตนี้อยู่ที่ 7000 เยน ต่อ 2 คน ที่ร้านยังมีชาให้เลือกหลายรสชาติเลยค่ะ นอกจากสาขาที่นากาโนะแล้วยังมีสาขาที่สาขาชิบูย่าและเซี่ยงไฮ้อีกด้วย
Buena Vista Hotel
คืนนี้เรามาพักกันที่เมืองมัตสึโมโตะ ชื่อโรงแรม Buena Vista Hotel โรงแรมใจกลางเมืองมัตสึโมโตะ อยู่ห่างจากสถานที่สำคัญปราสาทมัตสึโมโตะประมาณ 1 กม.
- พิกัด : https://goo.gl/maps/P7vr43jpPt9JSvJT6
- วิธีเดินทาง : จากสถานี Matsumoto นั่ง shuttle bus ของโรงแรม 2 นาที หรือเดิน 7 นาที
- เว็ปไซต์ : https://www.buena-vista.co.jp/
ที่ชั้นบนสุดของโรงแรมนี้สามารถมองเห็นวิวได้ทั่วๆเมืองมัตสึโมโตะเลย เพราะที่นี่เป็นตึกที่สูงที่สุดในเมืองมัตสึโมโตะ หลายคนนิยมมาจัดงานแต่งงานและถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกันที่นี่ มีห้องจัดเลี้ยงกว้างเลย และชั้น 14 ของโรงแรมมีห้องอาหารแบบเทปปังยากิ บาร์ ที่มีวิวสวยมากค่ะ โดยเฉพาะตอนกลางคืน
ห้องอาหารที่เราไปทานกันอยู่ในโรงแรมเป็นห้องอาหารจีน ที่นี่ยังมีอาหารอื่นๆอีกหลายอย่างให้เลือกนะคะ ห้องพักที่นี่มีหลายแบบค่ะ และสำหรับห้องพักที่เป็น Executive สามารถเข้าใช้ Executive lounge ได้ สามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่ม ของว่างเบาๆ น้ำชา กาแฟ และเครื่องดื่มคอกเทลได้
รีวิว 3 วันแรกของทริป ขับรถเที่ยว นีงาตะ นากาโน่ จบแล้วมาต่อตอนหน้าในวันที่ 4 กันจ้า
อ่านรีวิวตอนที่สองได้ที่ https://go-graph.com/niigata-nagano-roadtrip-ep2/
อ่านรีวิวญี่ปุ่นที่อื่นๆ ได้ที่ https://go-graph.com/category/japan/