Myanmar 101

Myanmar 101

มิงกะลาบา! สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่ รีวิวเที่ยวพม่า ครั้งแรก เหมือนเดิมคือ อ่านแล้วทำตามได้เลย

เราไปช่วงหยุดยาว 3 วัน (ลางานเพิ่มอีก 2 วัน) = 5 วัน ก็ถือว่าไปพม่าเท่าที่เวลาอำนวยแล้วค่ะ ดังนั้นถ้าใครสนใจประเทศน่ารักแบบนี้ เรารวบมาให้แล้วจ้า

ที่มาที่ไป

คืออยากพม่ามานานแล้ว เนื่องจากเปิดประเทศ กลัวราคาจะแพงขึ้นไปอีก แถมวิวสวยๆที่พุกามก็แบบล่อใจตลอด จนถึงขั้นว่า เฮ้ยไม่ได้ว่ะ ชาตินี้หนึ่งในสิ่งที่ต้องทำก่อนตายคือไปเห็นบอลลูนที่พุกาม ดังนั้นโอกาสมี วันลาได้ จัดไปเลย ได้ รีวิวเที่ยวพม่า ที่ทุกคนจะได้อ่านนี่แหละ

0 เตรียมตัวก่อนออกเดินทาง

  • วีซ่าต้องทำไหม

ของเราไม่ต้องทำ — พม่าปัจจุบันถ้าเดินทางผ่านสนามบิน ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์

เนปิดอว์ ไม่ต้องทำวีซ่าแล้วนะคะ อยู่ได้ 14 วัน ถ้ามากกว่านั้นก็ต้องทำวีซ่าค่ะ

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/jMhvMk

  • แผนการเดินทาง

แผนการเดินทางเรา 5 วัน และแผนที่ เห็นว่าก็ครอบคลุมเมืองใหญ่ๆ ที่เน้นคือพุกามเลย

Day 1 – กรุงเทพ – มัณฑะเลย์ – สะพานไม้อูเบ็ง – พระราชวังมัณฑะเลย์ – รถตู้ไปพุกาม – พุกาม

Day 2 – พุกามทั้งวัน พระอาทิตย์ขึ้น ตลาด ว่าไป

Day 3 – พุกามทั้งวัน – รถบัสไปย่างกุ้ง

Day 4 – ถึงย่างกุ้งเช้า – เที่ยววัดทั้งวัน – ตาหวาน ทันใจ เจดีย์ชเวดากอง

Day 5 – กลับกรุงเทพ นอนตาย จบ

** Mandalay คือ เมืองมัณฑะเลย์ ใหญ่อันดับต้นๆ ของพม่า ทางเหนือ

** Bagan คือ พุกาม เมืองมีเจดีย์เยอะๆ

** Yangon คือ ย่างกุ้ง เมืองดังสุดของพม่านั่นเอง

[แนบแผนที่ + ตารางเดินทาง]

  • ค่าใช้จ่าย

ทริปนี้ สรุปเลย 15,000 บาท แยกออกมาเป็นค่าอะไรบ้าง

> เครื่องบิน กรุงเทพ – มัณฑะเลย์ + ย่างกุ้ง – กรุงเทพ  5047 บาท (แบบไม่มีโปรอีก)

> ค่ารถบัส เดินทางระหว่างเมือง 1315 บาท (จ่ายผ่านบัตรที่ไทย)

> ที่พัก + จิปาถะ กินขนม คนขับรถ 8000 บาท (เอาไปจ่ายที่นู่น)

เราแลกเงินไปเผื่อ 10,000 เพื่อไปพม่า สรุปเหลือเงินมา 2000 บาท สวยๆ

  • จองรถบัส เครื่องบิน

> เครื่องบิน : เราจองผ่านเว็บจองตั๋วปกติ Traveloka, Airasia, Skyscanner ก็มาดูกันว่าที่ไหนถูกสุด ราคาออกมาก็ 5047 บาท ไปกลับ (แน่นอนว่ามีถูกกว่านี้ แต่แบบเวลานี้ดีสุด หนูก็จองไปเถอะค่ะ)

> รถบัส : การเดินทางระหว่างเมือง ถ้ารวยก็นั่งเครื่องบินค่ะ แต่ถ้าจนๆ แบบเราก็แนะนำรถบัสเลย รถคือไม่ได้แย่นะ โอเคเลย (ดีกว่านครชัยไปอีก)

  • วิธีการจองรถบัส

เราจองผ่าน http://myanmarbusticket.com/home/ticket/ ราคาถูกสุด

จองแล้วหักบัตรเครดิต เค้าจะให้ E-Ticket มาให้เลย เราก็ปรินท์ ยื่นให้พนักงาน จบ

** รถบางคันสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะให้มารับที่ไหน

  • Mandalay to Bagan (รถตู้ เหมือนตามอนุสาวรีย์) 430 บาท เดินทาง 5-6 ชั่วโมง
  • Bagan to Yangon (รถบัส ดีงามมาก) 885 บาท เดินทาง 9-10 ชั่วโมง (นอนไป)
  • ซิมส์การ์ด

แน่นอนว่า ชีวิตนี้ขาดเน็ตไม่ได้ นี่เลยค่ะ ลงจากสนามบินปุ๊ป พุ่งตรงไปบูท Telenor เลย จะมี Tourist Sim อยู่ 12,000 Ks (ประมาณ 350 บาท)

> ใช้เน็ตได้ 1 GB (ซึ่งพอมากๆ กลับแล้วยังไม่หมดเลย)

> Free Facebook

> โทรกลับไทยได้ / โทรหากันในพม่าได้ (แต่มีเวลาจำกัด ก็อย่าคุยยาว)

นอกจากนี้ที่พม่ายังมีเครือข่ายอีกหลายเจ้าค่ะ เราเห็นว่า Tenelor ง่ายดีเลยเลือกใช้ อีกยี่ห้อที่เห็นบ่อยๆ คือ MPT (สีเหลือง), Ooredoo (สีแดง) ซึ่งดังเหมือนกัน

  • แลกเงิน

เรื่องนี้สำคัญมากๆๆๆๆๆๆๆ จากไทย แลกเงินดอลล่าร์ไปนะคะ

(ย้ำว่าแบงค์ต้องใหม่ ห้ามยับ ห้ามมีคราบ)

ตีค่าเงินง่ายๆคือ 1000 จ้าด = 1 ดอลลาร์ คิดแค่นี้พอ ง่ายดี

เมื่อถึงสนามบินที่นู่นค่อยแลกเงินจ้าด (Ks หรือ mmk) ครึ่งนึงก็ได้ จากนั้นก็แลกตามธนาคารทั่วไปได้หมดเลย

* แต่แนะนำว่าให้เก็บเงินดอลล่าร์ไว้ด้วยเพราะคนขับรถจะรับแต่เงินดอลลาร์ก็มี

  • คนขับรถ อัตราราคา

รู้ไว้จะได้ไม่โดนโกง ! เรานี่รีบอ่านเลย จะได้เช็คเรตราคาถูก

แต่แต่ คนพม่าใจดีมาก คนดีมาก ไม่ค่อยโกงและโก่งราคากันนะ ดังนั้นไว้ใจได้ระดับนึง

Half Day Mandalay – 30 USD

  • สนามบิน
  • สะพานไม้อูเบ็ง U Bein Bridge
  • พระราชวังมัณฑะเลย์ Mandalay Palace
  • ส่งโรงแรมที่เจอรถตู้ในเมือง

Sunrise Bagan 15 USD – ให้คนขับรถมารับยามเช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ Shwe San Daw

From Bagan to Bus Terminal 6 USD – ให้คนขับไปส่งที่สถานีรถบัส

Full Day Yangon – 70 USD

อันนี้โหดเพราะเราเรียกเค้าทั้งวันตั้งแต่ ตี 5 ครึ่ง จนถึง ทุ่มนึงก็โอเคนะ

  • Shwe daw pagoda พระเขี้ยวแก้ว 6 am
  • Acacia tea house
  • Chaukhtatgyi buddha ตาหวาน
  • Botahtuang pagoda ทันใจ
  • Sula pagoda เจดีย์เฉยๆ
  • Lunch at 999 noodle soup
  • Bogyoke market
  • Shwedagon pagoda ชเวดากอง sunset
  • Great treasure hotel

From Yangon Hotel to Airport – 7 USD – ให้คนขับไปส่งที่สนามบิน

ซึ่งส่วนใหญ่การเดินทางในเมืองหรืออะไรพวกนี้ ก็ใช้บริการพี่แท็กซี่ทั้งนั้นเลย (ใครอยากลองรถเมล์ก็เชิญได้) ซึ่งเราว่าก็โอเคสบายดี ยิ่งมาหลายคนก็หารถูกลงไปอีก

  • ที่พัก

ในทริปนี้ นอนโรงแรมทั้งหมด 3 คืน นอนบนรถอีก 1 คืน

ที่พักโอเคหมด ที่พม่ามีให้เลือกตั้งแต่แพงยันถูก เราก็เลือกราคาปกติ ไม่ถูกเกินไปจนน่ากลัว ขอคะแนนรีวิวดีๆ หน้าตาโอเค โลเคชันดีงาม พอใจละ

Blazing Hotel – Bagan

ที่พุกามเรานอนที่นี่ ดีมาก เดินทางสะดวก อยู่ใกล้เมือง ร้านอาหาร ธนาคาร พนักงานใจดี เน็ตโอเค แต่ไม่แรงมาก สะอาดระดับนึง ข้าวเช้าฟรี

Great Treasure Hotel – Yangon

ที่นี่ก็ดี ถ้าแท็กซี่มาส่งก็เดินทางง่าย (แต่มาเองอาจจะยาก) แต่ห้องใหญ่ ใหม่สะอาด พนักงานใจดี เน็ตโอเค หลับสบายหายห่วง ข้าวเช้าฟรี

** แนะนำว่าจองที่พักให้ดู คะแนนรีวิว / สถานที่ตั้ง / หน้าตาผีหลอกมั๊ย ก่อน นอกนั้นก็ไม่มีอะไร

  • ของที่ควรเอาไป

> รองเท้าแตะ ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะต้องถอดรองเท้าตลอดเวลา ดังนั้นทัวร์วัดใส่รองเท้าแตะไปดีสุด แทบทุกเมืองเลย นอกนั้นก็พวก ทิชชู่เปียก เจลล้างมือ เอาไว้เผื่อได้

> หมอนรองคอ – ควรเอาไปนะ ถ้านอนยาวๆ จะสบายมาก ชีวิตดีเลย

> ไม้เซลฟี่ / ขาตั้งกล้อง – ควรเอาไปมาก สำหรับการถ่ายภาพเก๋ๆ (คือลืมเอาไปไง)

> หัวแปลงไฟ – พม่าคล้ายบ้านเรา พวกตามโรงแรมก็ใช้ปลั๊กเราได้แล้ว ดังนั้นไม่ต้องกังวล

โอเค โม้ทุกอย่าง ข้อมูลบอกหมดแล้ว ได้เวลาไปเที่ยวกันสักที เก็บกระเป๋า!

01 Mandalay + U Bein Bridge + Mandalay Palace

เราเริ่มออกเดินทางจาก สนามบินดอนเมือง ใช้เวลาบินไม่นาน (1-2 ชม.) ก็ถึงสนามบินมัณฑะเลย์

จัดการแลกเงินก่อนเลย ** โปรดระวัง เงินเก่า เงินมีคราบ แบงค์ยับ นางไม่รับกันนะ **

จากนั้นซื้อซิมการ์ดต่อเลย 12,000 จ้าด เล่นเฟซบุค อัพไอจีกันได้แล้วจ้า ฟินๆ

ต่อรองราคากับแท็กซี่เรียบร้อย ครึ่งวัน 30 USD ตามนั้นเฮีย ขับไปโลด

ได้เวลาเข้าเมือง เราจะไปเริ่มกันที่ สะพานไม้อูเบ็งก่อน คือคนอื่นเค้ามาตอนพระอาทิตย์ตกกันไง สวยๆ ส่วนเรา แดดจ้าต้อนรับวันใหม่กันเลย (พอดีไม่มีเวลาแต่ขอให้ได้มาก่อนนะ)

สะพานไม้อูเบ็ง (U-Bein Bridge) ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลกจ้ะ ซึ่งยาวจริงอะไรจริง เดินกันอ้วกเลย เราก็เดินกันได้แค่ครึงทางเอง ก็พอใจละ คนไม่เยอะมาก แถวนั้นก็มีคนจับปลา เกษตรกร วิวสวยดีนะ แม่น้ำใหญ่มากๆ

พอมีคนจับปลา แถวนั้นก็เลยมีร้านอาหารให้กินลมชมวิว ส่วนใหญ่เขาก็กินกุ้งทอด ปลาทอดกัน หน้าตาน่ากลัวนิดหน่อย ที่สำคัญคือ ถูกมากๆ

ถ้าเป็นตอนเย็นมันคงจะสวยกว่านี้ แต่แค่นี้ก็พอใจละ

ได้เวลาเข้าเมืองกันต่อ ที่ต่อไป

พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace) – วังนี้ถ้าอ่านประวัติยาวๆ คงไม่จบ เราขอเล่าแบบสั้นๆมากๆ เลยนะ คือเป็นวังที่ยิ่งใหญ่มาก แต่โดนระเบิดช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ไป จากนั้นทางการก็เลยบูรณะใหม่ สร้างให้เหมือนแบบเดิมที่สุด ผลออกมาคือ ย่ิงใหญ่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือใหม่ขึ้น ค่ะ

ก็เดินรอบๆ แต่คือไม่รอบหรอก เพราะใหญ่มากๆ เราก็ต้องทำเวลานิดนึง แป๊ปๆ ได้เวลาขึ้นรถตู้ไปเมืองต่อไปแล้ว คนขับมาส่งที่หน้าโรงแรม (ที่เราไม่ได้พัก) เวลาก็เฉียดฉิวมาก สรุปแล้วขึ้นทันจ้า ไปพุกามกันต่อได้แล้ว เย้

2 Bus to Began

รถตู้ไปพุกาม นั่งกันไป 4-5 ชม.  รถตู้เราออก 17.00 – 23.00 ในเมืองพุกาม รถตู้เค้าไปส่งโรงแรมให้ ก็สบายดี นั่งไม่สบายนัก แต่โอเค ถือว่าไม่แพงนัก ไม่น่ากลัวเท่าที่คิด

เค้าก็จะมีให้แวะกินข้าว แม่กิมลั้งบ้างนิดหน่อย ซึ่งแปลกๆ อาหารน่ากลัว แต่ก็หิวไง อร่อยดี 55

และแล้ว เราก็ถึงพุกามแล้วจ้า นั่งก็ยาวๆ เล่นเน็ตไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรมาก Check in เข้าที่พัก เก็บของ อาบน้ำ นอน จบ  บอกโรงแรมว่า พรุ่งนี้หนูอยากไปดูพระอาทิตย์ขึ้น หาแท็กซี่ให้หน่อย

3 Bagen Tour

6 โมงเช้า แท็กซี่มารับไปดูพระอาทิตย์ขึ้น คุณลุงใจดี ก็ขับไปที่ Shwe San Daw จุดชมเจดีย์ที่นิยมที่สุด (ที่เค้ามีข่าวว่าห้ามขึ้น แต่ที่นี่ก็ยังขึ้นได้อยู่นะ) ได้เวลารอพระอาทิตย์ขึ้น

บอลลูนมาแล้ว ทริปนี้ มาเพื่อภาพนี้นี่แหละ เท่านี้พอใจแล้ว

ทะเลเจดีย์ที่เค้าว่ากัน มาถึงแล้วนะ!

ประมาณ 7 โมงเค้าก็ทยอยกันลงแล้ว เราก็ลงตามด้วย พอลงมาด้านล่างก็เจอเด็กหลอกขายของ ซึ่งแพงกว่าราคาจริงมาก ถ้าถูกใจเด็กก็ซื้อซะ แต่บอกเลยว่า สินค้าที่เด็กมี ที่ตลาดในเมืองก็มีหมดจ้ะ ถูกกว่า 3 เท่าด้วยหนู อย่ามาหลอกให้ยาก (แต่คือถูกหลอกไปแล้วนะ)

นั่งแท็กซี่ลุงคนเดิมกลับมาที่โรงแรม กินข้าวเช้าฟรี

เราก็ถามลุงเลย บอลลูนนี่ค่าขึ้นเท่าไหร่คะ – 380 ดอลลาร์ (แพงหนักมาก 45 นาที)

จากนั้นเราวางแผนแล้วว่า จะแว้นซ์มอไซค์รอบเมืองเอา ไม่ใช่บริการลุงแล้ว ลุงก็บอกว่า ร้านลุงอะมีให้เช่ามอไซค์ ข้างๆโรงแรมเอง ซึ่งในเมืองนี้นักท่องเที่ยวขี่มอไซค์ไม่ได้นะคะ มันเป็นกฎหมาย แต่ขี่ E-Bike ได้

E-Bike

เหมือนสกูตเตอร์ที่ชาร์ตพลังงานแสงอาทิตย์เอา ไม่ต้องเติมไฟหรืออะไรเลย (บางทีก็รู้สึกว่าการที่เราไปวิ่งตากแดดเป็นการช่วยเหลือลุงนะ)

ราคา 1 คน / คัน = 6000 Ks แต่ถ้า 1 คัน ขึ้น 2 คน = 8000 Ks

แว้นซ์ได้ทั้งวันจนกว่าพระอาทิตย์ตก (แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วจ้ะ) เช่ารถเรียบร้อย กินข้าวเรียบร้อย ได้เวลาซิ่งรอบพุกามกันแล้ว

Mani Sithu Market

ตลาดใหญ่สุดๆ ของพุกาม เข้ามาแล้วนึกว่าฉากหนัง ของขายเยอะมาก อาหาร ผลไม้ ผัก กล้วยถูกแขวนไว้เต็มไปหมด ร่ายยาวไปถึงโปสการ์ด แสตมป์ ของฝากมากมาย หวี ทานาคา ราคาก็ถูกมากๆ

ถ้าเดินเลยไปอีก จะเหมือนโซนของเก่า จตุจักร ใหญ่มาก เยอะมาก เดินจนเวียนหัว

ที่นี่ต้องมาจริงๆ มันแบบเอเชียนมากๆ เท่สุด เราชอบ

Shwe Zigon Pagoda

เจดีย์ยักษ์ ที่ใกล้เคียงกับชเวดากองสุดๆ ขนาดการจัดเรียงในวัดยังคล้ายกันเลย แนะนำว่าควรมาค่ะ ถอดรองเท้า ถอดถุงเท้าด้วยนะ เดินเล่นในวัด ถ่ายรูปได้สวยงาม

ทางเข้าก็จะมีซอยขายของที่ระลึก เดินช็อปกันไป

อีกจุดที่น่าสนใจคือ จากโซนขายของเลี้ยวขวามา จะเจอกับเสาสีขาวมากมาย เงาสะท้อนแดด สวยมาก มักจะมีฉากนี้ในโปสการ์ด แล้วเราหาเจอ คือฟินหนักมาก (หลงทางมาเจอ)

Htilominlo

เป็นอีกจุดที่เด็ดของพุกาม วัดสไตล์หิน ยิ่งใหญ่สมกับความดัง เราจะเริ่มเห็นว่า วัดพวกนี้จะมี 4 มุม เดินรอบๆ ข้างๆ ก็จะมีขายของที่ระลึก ถือว่าเท่ดี

Ananda Pagoda

ที่นี่คือพีคที่สุด วัดยิ่งใหญ่อันดับ 1 ของพุกาม ใครๆก็ต้องมา ซึ่งสมราคาค่ะ ใหญ่มากๆ ตัววัดเท่สุด สไตล์อาหรับ อินเดีย ดูเป็นหินทราย สีขาวๆ ต้นไม้ก็สวยงาม ซึ่งบอกเลยว่า ดีจริงๆ

New Bagan

เมืองพุกามจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ New และ Old ซึ่งโซน Old ก็พวกเจดีย์วัด โรงแรมเรา ส่วน New จะอยู่ห่างจาก old ไปประมาณ 8 กิโล เราก็แว้นซ์กันไป ปรากฎว่าไม่มีอะไรนัก ก็แวะกินข้าวนิดหน่อย เราชอบฝั่ง Old มากกว่านะ สรุป

Shwe San Daw

ที่นี่คือจุดชมทะเลเจดีย์และบอลลูนที่นิยมมากที่สุด ได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก จากเมื่อเช้า เราก็กลับมาที่นี่อีกครั้ง พระอาทิตย์ตกวันนี้ไม่ค่อยงามนัก แต่ก็โอเคค่ะ

Shwe Leik Too

จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกที่ เป็นเจดีย์ไม่ใหญ่มาก แต่โอเคเลย ถือว่าได้อีกมุมนึง แถมหาจาก google ไม่เจออีก อยู่แถวๆ Htilominlo ต้องคอยมองหานิดนึง

Dhammayangyi Pagoda

วัดที่อยู่ใกล้ๆ Shwe San Daw ซึ่งเด่นมากเหมือนวิหารมายัน ของจริงยิ่งใหญ่มากๆ เดินรอบ 4 ทิศกันเลย แนะนำให้มาตอนเช้าหลังดูพระอาทิตย์ขึ้น อากาศดี ชอบมากๆ ท้องฟ้าสวย

Suramanee Pagoda

วัดอีกวัดที่อยู่ใกล้ๆกัน ยิ่งใหญ่เหมือนกัน ที่นี่จะมีจิตรกรรมฝาผนังด้วย

ทีนี้เราเริ่มรู้ละว่าวัดหน้าตาคล้ายๆกัน มี 4 ทิศ (ชอบมีค้างคาวอยู่ข้างบน) เราก็ไหว้พระวนๆ ไป

  • Suramanee แปลว่า Ruby ทับทิม นะจ๊ะ

หลังจากนั้นการทัวร์วัดจบลง ได้เวลาที่อื่นบ้างที่เราค้นพบประหลาด ร้านอาหาร คาเฟ่เป็นต้น

A Little Bit of Bagan Restaurant

ร้านอาหารแถวโรงแรม โอเคนะ ขายอาหารไทย จีน ฝรั่ง ก็สั่งๆมา อาหารไม่แพงนัก คนละไม่เกิน 100 บาท ให้เยอะกินอิ่ม

Rain Restaurant

ร้านอาหารแถวบ้านอีกเหมือนกัน ร้านนี้เมนูหลากหลายกว่า มาดึกๆนะคนตรึม อร่อยดี (แต่จะติดเค็ม) ก็แนะนำอีกร้านนะ ร้านนี้จะแพงกว่านิดหน่อย

Nation Cafe

คาเฟ่ (นี่หรือเรียกว่าคาเฟ่) แถว Old Bagan ก็เป็นร้านขายไอติม น้ำ ขำๆ ไอติมก็โอเคนะ แต่ก็แบบไม่เท่าเมืองกรุงบ้านเราอยู่แล้ว ที่สำคัญเจ้าของร้านใจดีมาก ชมหนูเป็นคนเกาหลีอีก 55

Bagan Golf Cub

เนื่องจากไม่มีอะไรทำแล้ว ร้อนก็ร้อน อยากนอนโรงแรมก็ไม่ได้ (เพราะเช็คเอาท์ไปแล้ว) ก็เลยขับมั่ว ไปพบกับ เชียงใหม่แห่งพุกาม ต้นไม้ร่มรื่น ด้านในมีโรงแรม Amazing Bagan Resort อีก

สรุป :: พุกามชอบนะ สวยมาก เมืองไม่ใหญ่ เที่ยวสะดวก แว้นซ์มอไซค์เองได้ เวลาที่อยู่ 1-2 วันกำลังดี (จริงๆวันครึ่งดีสุด) แต่มาเถอะ แนะนำ เราชอบเมืองนี้มากสุดในพม่าเยย

(ภาพสรุปคือโคตรไม่ใช่ 55)

4 Bus to Yangon

ในที่สุด ก็ได้เวลาเดินทางไปเมืองต่อไป เรานั่งรถบัสยี่ห้อ JJ Express ไปย่างกุ้ง จากเมืองพุกาม ก็นั่งแท็กซี่ไปที่ Bagan Shwe Pyi Highway Bus Terminal – 6000 จ้าด

รถบัสคือดีงามมาก เบาะปรับได้ มีทีวี แจกอาหารขนม แอร์ดี สะอาด โอ้ยชีวิตดี เราเริ่มออกจากตอน 20.00 – 5.00 (ตี 5 ถึงย่างกุ้ง) สรุปเลยว่า ดีงามมาก แนะนำ JJ Express

5 Yangon Tour

เรามาถึง ย่างกุ้งตอนตี 5 ที่สถานี Aung Mingalar Highway Bus Terminal ซึ่งสถานีนี้อยู่นอกเมืองมากๆ (ไกลกว่าสนามบินอีก) บรรยากาศก็วุ่นวายสุดๆ

เรียกแท็กซี่เลย ไปตามตารางนี้อะพี่ เท่าไหร่คะ ออกมา 70 USD พี่ถูกสุดๆแล้ว (ที่นี่ถ้าจะเช็คเค้าจะนับราคาเป็นชั่วโมงละ 10 USD ซึ่งของเรา 14 ชั่วโมง ถูกสุดแล้วจริงๆ) คนขับรถคือ พี่ตูนบอดี้แสลม 55 ได้เวลาทัวร์ เริ่มวัดทัวร์กันก่อน

Swal Daw Pagoda

เจดีย์เขี้ยวแก้ว โชคดีมากที่วัดนี้เปิดซะเช้าเชียว ซึ่งก็มีคนมาสวดมนต์บ้าง เราชอบนะ หมอกลง อากาศดียามเช้า วัดใหญ่ดี

ChaukHtat Gyi Pagoda

วัดพระตาหวาน – วัดนี้ก็ใหญ่ดี เข้าฟรี สนุกๆ พระตาหวานคือใหญ่มากๆๆ ใหญ่กว่าวัดโพธิ์อีก โซนที่ชอบคือ สรงน้ำพระ สนุกดี ไหว้พระๆ

Botahtuang Pagoda

วัดหลวงพ่อทันใจ – วัดนี้จะมี 2 โซนดังๆ คือ ใต้เจดีย์ (ค่าเข้า 3 USD) คนมาต่อคิวกราบไหว้ กับ ทันใจ ที่แบบขอพรได้ 1 อย่างเท่านั้น (ซึ่งยากมาก) วิธีการขอก็ เอาแบงค์ 2 ใบ พันเป็น

กรวย ใบนึงทิ้งไว้ที่นี่ อีกใบเก็บไว้ ถือเป็นเงินนำโชค สวยงาม

Bog yoke Market (Scotts Market)

ตลาดเหมือนเจเจนั่นเอง ใหญ่มากๆ ส่วนใหญ่ก็ขายของฝาก พวกโปสการ์ด หิน ทานาคา อัญมณี ผ้า นู่นนี่ คือมาซื้อกันได้ที่นี่ มากมาย (ส่วนใหญ่ก็แก่ๆหน่อย) จากโซนตลาด ถ้าเดินมาเรื่อยๆ จะมีพวกห้าง KFC ซูเปอร์มาร์เกต ซึ่งโอเคมากๆ เหมือนกรุงเทพสุดย่านนี้ มาเดินกันได้

Shwedagon Pagoda

ที่นี่แหละคือจุดพีคที่สุดของพม่า เจดีย์ทอง ที่ใครๆก็ต้องมา ไม่มาถือว่ามาไม่ถึง ซึ่งของจริง ใหญ่มากๆๆๆ พระเยอะมาก เหมือนเป็นเมืองของวัดเลย มีอีกหลายซุ้ม หลายโซน คือไหว้ทีบุญฉันคงหนักมาก มีให้สรงน้ำเยอะมาก แปะทอง ตีระฆัง โอ้ยกิจกรรมเยอะ

เวลาที่ดีที่ควรมาคือ ช่วงเย็น จะได้เห็นตอนกลางวัน และ พระอาทิตย์ตก ที่นี่จะมีทางเข้า 4 ทาง เหมือนวัด 4 ทิศ มีลิฟท์และบันไดเลื่อนขึ้นมาได้ (พ่อแม่คนแก่ก็ขึ้นได้) สรุปแล้ว วัดนี้ ต้องมา

หลังจากทัวร์วัดเสร็จ ได้เวลามารวบของกินให้ ที่ย่างกุ้งเรากินไม่ได้เยอะนัก แต่ก็นับเป็นร้านเด็ดอยู่นะ

Acacia Tea Salon

ร้านน้ำชาคนรวย เค้าเล่าว่าพวกนายกเวลามาพม่าก็ต้องมาร้านนี้ ซึ่งร้านก็ไฮโซจริง เหมือนพวกดาราเทวี ราคาก็อลังไม่แพ้กัน สรุปแล้วแพง แลกกับแอร์เย็นและคนเมืองมั่กๆ

999 Shan Noodle Shop

ร้านก๋วยเตี๋ยวจีนๆ มีเตี๋ยวไก่ เตี๋ยวหมู ซึ่งโอเค ปกติ มากินกันได้

Great Treasure Hotel

โรงแรมที่เราพักที่ย่างกุ้ง คือดีงามมาก ห้องใหญ่ มีข้าวฟรี (ไข่กับขนมปัง) เน็ตโอเค นะ สรุปแล้วถ้ามาย่างกุ้ง แนะนำที่นี่ค่ะ

สรุปแล้ว พม่าทริป จบลงอย่างสวยงาม

ประเทศนี้ ถ้าไม่เคยมา แนะนำให้มา ราคาไม่แพง แต่ถ้ามาแล้ว ถ้าชอบไหว้พระ มาอีกก็ได้

มีสิ่งที่น่าสนใจอีกเยอะมาก แต่สำหรับเรา ฟินละ พอใจมากกับทริปนี้

อย่าลืมมาพม่ากันนะคะ 😀

Tags Cloud

แชร์เนื้อหา
Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest