[Go!GraphS4 x GoBear] Lofoten Roadtrip ขับรถเที่ยวเกาะปลายสุดขอบโลก แสงเหนือ หิมะ วิวพันล้าน
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่รีวิวมหากาพย์ Go!Graph Season 4 นั่งรถไฟสู่แสงเหนือจากรัสเซีย-นอร์เวย์กันอีกครั้ง รอบนี้แปลกไปหน่อยตรงที่กระโดดข้ามตอนไปมา แต่! บอกเลยว่า ที่นี่ Lofoten เกาะมหัศจรรย์ในนอร์เวย์ — เป็นที่แรกที่เราอยากรีวิวให้รู้แล้วรู้รอด เพราะอลังการงานสร้าง มาที่นี่ได้ครบจบทุกอย่างความขั้วโลก ไปกันเลยค่ะ !
Previous of Go!Graph Season 4
เนื่องจากเราตัดสินใจเดือนทาง 1 เดือนจากรัสเซียขอบขวาสุดไปจนถึงนอร์เวย์ขอบซ้ายสุดด้วยรถไฟ จึงมีเรื่องราวมากมาย เราจึงแบ่งเป็นตอนดังนี้ค่ะ
- EP.0 นั่งรถไฟสู่แสงเหนือ เปิดฉากมหากาพย์ ได้ที่ >> https://goo.gl/ppkUWc
- EP.1 นั่งรถไฟสู่แสงเหนือ ทรานไซบีเรีย >> https://goo.gl/AYjKJa
- EP.2 นั่งรถไฟสู่แสงเหนือ Baikal Lake >> https://goo.gl/uMAAko
- EP.3 Moscow – City Guide
- EP.4 St.Petersburg – City Guide
- EP.5 Helsinki, Finland – City Guide
- EP.6 Stockholm, Sweden – City Guide
- EP.7 Oslo, Norway – City Guide
- EP.8 Norway National Park Road Trip
- EP.9 Bergen City Guide
- EP.10 Tromso x Northern Lights
- EP.11 Lofoten Road trip >> ตอนนี้ที่กำลังอ่านอยู่
- EP.12 Ending
- อ่าน Season 1 – นั่งรถไฟไปหลังคาโลก หัวลำโพง – ทิเบต >> https://goo.gl/G9wJSj
- อ่าน Season 2 – นั่งรถไฟญี่ปุ่นเหนือจรดใต้ >> https://goo.gl/Jzejrf
- อ่าน Season 3 – นั่งรถไฟยุโรป เบเนลักซ์จนถึงเยอรมัน >> https://goo.gl/ptPWKS
ดังนั้น ด้วยความที่ตอนนี้เราจะรีวิวตอน Lofoten รัวๆ ดังนั้นไปเจาะลึกเกาะ Lofoten กันเลย !!
0. How to get there? วีซ่า ประกัน เครื่องบิน Internet
หมู่เกาะ Lofoten ตั้งอยู่ในประเทศ Norway นอร์เวย์ ดังนั้นการจะมาได้ แรกสุดเราต้องมี VISA
Norway อยู่ในกลุ่มเชงเก้น ดังนั้นทำวีซ่าเชงเก้นทีเดียว สามารถไปได้หมดทั่วนอร์เวย์ ยาวไปจนถึงยุโรปทั้งหลายทั้งปวง เรียกว่าถ้าไปทริปยาวๆ ทำเถอะ ทีเดียวคุ้ม
แต่การจะขอวีซ่าได้นั้น ต้องมีเอกสารให้ครบ พวกใบรับรองเงินเดือน แผนการเดินทาง เอกสารต่างๆ นานา แต่ที่ห้ามพลาดคือ “ประกันการเดินทาง” — ตามกฎจะขอวีซ่าเชงเก้น อย่างน้อยต้องมีประกันเดินทาง ดังนั้นซื้อเลย
ซื้อประกันเดินทางกับ Cigna ผ่าน GoBear
GoBear คือเว็บไซต์ช่วยเปรียบเทียบราคาจากเจ้าต่างๆ ตั้งแต่ประกันเดินทาง บัตรเครดิต สินเชื่อ คือสามารถเข้าไปดูได้ง่ายๆ ที่ >> https://www.gobear.com
และตอนนี้ใครที่มีแผนกำลังไปยุโรป แล้วยื่นวีซ่าเชงเก้น สามารถซื้อ ประกันเดินทางซิกน่า ผ่านทาง GoBear เพราะคุ้มกว่า คุ้มรับ 2 ต่อ กับบัตรกำนัลมูลค่าสูงสุด 1,300 บาท*
เลือกประกันเดินทางซิกน่าผ่านเว็บไซต์โกแบร์ คุ้มรับ 2 ต่อ รับบัตรกำนัลมูลค่าสูงสุด 1,300 บาท*
- ต่อ 1 เลือกรับ Starbucks e-Coupon หรือบัตรกำนัล Central gift voucher สูงสุด 1,000 บาท*
- เมื่อซื้อเบี้ย 400 บาท/ท่าน รับบัตรกำนัลฟรี 100 บาท/ท่าน
- เมื่อซื้อเบี้ย 800 บาท/ท่าน รับบัตรกำนัลฟรี 200 บาท/ท่าน
- เพียงกรอกโค้ด STARBUCKS เพื่อเลือกรับ Starbucks e-Coupon หรือ CENTRALVC เพื่อเลือกรับ Central gift voucher
- ต่อ 2 พิเศษ รับเพิ่มบัตรของขวัญฟูจิ 300 บาท เมื่อซื้อเบี้ยครบ 1,500 บาท
- โปรโมชั่นพิเศษนี้ ใช้ได้ถึง 31 มีนาคม 2561 เท่านั้น!
- อีกข้อดีนึงคือ เมื่อซื้อประกันซิกน่า เราสามารถเลือกความคุ้มครองเสริมได้เรื่อยๆ เราก็ลองกดเข้าไปดูได้จ้ะ
ดังนั้น ซื้อเถอะ ยิ่งเลือกความคุ้มครองสูงยิ่งคุ้ม + ซื้อเป็นคู่ ครอบครัว เพื่อน คือยิ่งเยอะก็คุ้ม ทีเดียวจบ >> www.gobear.com
ความคุ้มครองเสริม
สำหรับคนที่จะเพิ่มความคุ้มครองเสริม ใน Cigna ก็มีให้เลือกคือ “Flight Secure” เพื่อคุ้มครองกรณีเที่ยวบินดีเลย์ การยกเลิกทริป หรือ การพลาดต่อเที่ยวบิน และอีกอย่างคือ “Property Secure” เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินส่วนตัว อาทิ เงิน เอกสารเดินทาง หรือกระเป๋าเดินทาง ดังนั้นมั่นใจได้ว่า ยิ่งซื้อเพิ่มยิ่งคุ้มแน่นอน
- เพื่อนๆ สามารถไปลองคลิกเล่น ดูราคาเปรียบเทียบได้ที่ >> https://www.gobear.com
- ส่วนรายละเอียด / เตรียมเอกสาร ขอวีซ่านอร์เวย์ ไปอ่านได้ที่ >> https://pantip.com/topic/32610506
- เว็บไซต์ยื่น VISA Official >> http://www.vfsglobal.com/norway/thailand/thai/
Flight to LOFOTEN
การเดินทางไป ไม่มีบินตรงอยู่แล้วจ้ะ ต้องนั่งเครื่องบินกันรัวๆ รัวแบบ 3 ต่อกันไปเลย เช่น Oslo > Bodo (อันนี้อีกเมืองแวะจอด) > Leknes (สนามบินของ Lofoten)
เรียกว่า ขาไปก็ 3 ต่อ ขากลับก็ 3 ต่อ เครื่องบินต่อสุดท้ายที่ไปลง Leknes คือแบบเป็นใบพัด เกิดมาเพิ่งเคยนั่งเครื่องบินที่ออก Boarding Pass แล้วไม่มีตำแหน่งที่นั่ง คือแบบอยากนั่งตรงไหนนั่งเลย สนุกดี
Internet with TRIPIZEE
ทริปนี้ เห็นแบบนี้อยู่เกาะ แต่เน็ตแรงตลอดเวลา — แรงระดับ เราเอาคอมไปทำงาน ใช้ Wifi ที่บ้านพัก อัพโหลดไฟล์ 3GB ภายใน 5 วินาที.. (อืมม อยากอยู่ที่นี่ตลอดไป)
แต่พวกเน็ตระหว่างทาง เราใช้ Pocket Wifi ของ Tripizee เหมือนเดิม พกกันยาวๆ ทั้งทริป เปิดใช้ได้ตลอดเวลา ไปจอง Tripizee แล้วรับเครื่องที่สุวรรณภูมิได้เลย ไปที่ >> https://www.tripizee.com/
SuperDry Outfit
การไปเมืองหนาวโคตรแบบนี้ เราว่าเรื่องแต่งตัวก็สำคัญ นี่แบบอากาศ 3-4 องศา = อุ่น ดังนั้นเสื้อผ้านี่ต้องเป๊ะ ทั้งตัวเราใช้ของ SuperDry ดีมาก และเหมาะกับการผจญภัยแบบนี้มาก ไปกดมากันค่ะ กันหิมะ 100%
- ชั้นในสุด – นอกจากเสื้อใน กางเกงในแล้ว เราแปะด้วย ลองจอห์น / ฮีทเทคไปเลย
- ชั้นกลาง – พวกเสื้อสเวตเตอร์ เสื้อ Wool โปะๆ ลงไปให้หมด
- ชั้นนอก – แบบ Down Jacket ที่แบบกันน้ำ เสื้อและกางเกงเช่นกัน
เคล็ดลับคือ ไม่ต้องใส่แบบ 7 ชั้น ให้หนักร่างเล่น ขอแค่เสื้อผ้ามีคุณภาพ แนบเนื้อ กักเก็บไออุ่นร่างกายไว้ แค่นี้แหละ พอแล้ว
แล้วก็อย่าลืมพวก หมวก ถุงมือ (ถุงมือควรซื้อแบบทัชสกรีน) ถุงเท้า รองเท้า พวกนี้สำคัญมากเด้อ
1. Lofoten 101 – Information เช่ารถ / ที่พัก / การเดินทางในเกาะ / เติมน้ำมัน
ข้อมูลรัวๆ กันไปเยอะ เรามาเริ่มต้นรู้จักเกาะ Lofoten กันแบบ ไม่เคยรู้จักเกาะนี้มาก่อนในชีวิต
Lofoten
เกาะที่เป็นต้นแบบของเรื่อง Frozen (เจ้าหญิง Let it go นั่นแหละ) เกาะนี้เราขอเรียกว่า เป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวทั่้งโลกเดินทางไปได้ แต่เดินทางไปยาก แต่วิวที่พบคือแบบไม่มีวันเจอได้จากที่ไหน เรียกว่า อลังการ ไอจีช็อต สวยจนไม่รู้จะพูดอะไร ขับรถเที่ยวได้สบาย อาหารอร่อย อากาศบริสุทธิ์มาก
ตั้งอยู่ที่เมือง Nordland ประเทศนอร์เวย์ ตัวทั้งโซน ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยมากมาย แต่สามารถเดินทางไปถึงกันได้หมด เพราะมีถนนเส้นที่ E10 ดังนั้นเพียงมีรถ เราก็เดินทางสบายละ
ความเด็ดของ Lofoten ที่ไม่มีในโลกคือ เป็นพื้นที่เปิดมาก เราเห็นแสงเหนือชัดที่สุดที่นี่ (เห็นแบบจากระเบียงบ้าน) อากาศดี น้ำทะเลตัดกับภูเขาหิมะ และที่สำคัญคือ หมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงเป็นกระท่อมแบบดั้งเดิม (RORBUER) สีแดง สีเหลือง ตัดกับภูเขาด้านหลัง นี่แหละคือวิวไอจีที่เรามักเห็นตามเพจถ่ายภาพอลังๆ ที่นี่นั่นเอง
การเดินทางในเกาะ Lofoten
เราเริ่มต้นจากเมื่อลงสนามบินเรียบร้อย (สนามบินโซน Lofoten ที่หลายสนามบิน เราเลือกสนามบินที่เมืองที่สุดคือ Leknes รหัส LEK) เมื่อลงสนามบินเรียบร้อยก็จองรถเช่าออนไลน์มาแล้ว ก็รับรถก็ได้เวลาซิ่ง
Roadtrip – Lofoten
ถนนหลักของที่นี่คือ E10 เป็นถนนเรียบ มีอุโมงค์บ้าง คนไม่ค่อยมี จอดแวะได้หมด และสวยมากกกก เราไปหน้าหนาว (เดือนกุมภาพันธ์) แต่ขับไม่ยากเกินความสามารถ เราเช่ารถแบบไม่ SUV ด้วย เป็นรถเก๋งปกติเลย ก็ขับกันไปได้
- ราคารถเช่า เราเช่าประมาณ 3-4 วัน จาก Airport คืนที่ Airport
- นั่งทั้งหมด 5 คน ตกออกมารวม 3 วัน = 8,291 บาท หาร 5 ก็คนละ 1,700 บาท ไม่เกิน ไม่รวมค่าน้ำมัน
แนะนำว่าเกาะนี้ ควรเดินทางเป็นหมู่คณะ 5 คนดีที่สุด เพราะยัดรถคันเดียวลง และที่สำคัญอย่าหวังพึ่งรถเมล์ เราเห็นป้ายรถเมล์แต่แบบข้างนอกหนาวมาก ดูแบบชาตินึงมาถึง เช่ารถเถอะ
ควรมากี่วัน ?
เราใช้เวลาที่นี่ทั้งหมด 4 วัน 3 คืน บอกเลยว่า คุ้มมาก สามารถเที่ยวได้เกือบครบเกาะ เราลองแบ่งการเที่ยวรอบเกาะง่ายๆ ดังนี้
- Day 1 – เที่ยวกลางเกาะ + นอนพัก
- Day 2 – เที่ยวด้านใต้ ไปจนสุด Å Village
- Day 3 – เที่ยวด้านเหนือ
- Day 4 – ชิว บินกลับ
ขับรถ เติมน้ำมัน
ที่นี่จะมีปั๊มน้ำมันไม่เยอะมาก ส่วนใหญ่แนะนำให้เติมตลอดระหว่างทาง และจะต้องเติมน้ำมันเอง ถ้าคนไหนไม่คุ้นกับการเติมเองก็สามารถเรียกพนักงานในมินิมาร์ทได้ แต่ลองเติมเองก็ได้ สนุกดี ไม่ยาก เลย
Step การเติมน้ำมันเอง (แต่ละที่ไม่เหมือนกัน)
- 1 สอดบัตรเครดิตที่จะใช้ตัดเงิน / หยิบหัวจ่ายมาเติมได้เลย
- 2 ตั้งว่าจะเติมกี่บาท / เติมเต็มถัง ยัดหัวเข้าช่องเติมน้ำมัน
- 3 เมื่อเติมครบมันจะเด้งบอกเราเอง เราก็เดินเข้าไปจ่ายเงิน บอกเลขหัวปั๊มว่าเบอร์อะไร ก็จ่ายเงินไป
ข้อควรระวัง* คือ พอหิมะปกคลุมมาก รถมักจะตกไหล่ทาง ไม่เห็นเส้นขอบ แต่เค้าจะมีแท่งพลาสติกติดไว้ ก็ขับกลางๆ ไม่ควรขับชิดริมไป เคยมีรถตกมาแล้ว ก็ยกกันไปจ้า
ที่พัก – Hemmingodden Lofoten Fishing Lodge
ที่พัก เราแนะนำให้จองโซนกลางของเกาะ เรานอนโซน Leknes เอาแบบใกล้สนามบิน เพราะด้วยความที่เกาะใหญ่ บนและล่าง มานอนตรงกลางสบายที่สุด มีซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร (บ้าง)
เราจองที่พักผ่าน booking.com ก็เป็นบ้านคนเหมือน Apartment ชื่อ Hemmingodden Lofoten Fishing Lodge ราคา 3 คืน = THB 28,670 หารออกมาก็คนละ 2,000 / คืน ซึ่งราคาเท่าบ้านเราเลยจ้า
บ้านใหญ่มากกกกกก วิวหน้าบ้านก็ตามภาพ ติดทะเลสาบ และดีมากกกก สะอาด มีที่จอดรถ มีระเบียงที่มองเห็นแสงเหนือได้จากบ้าน (แบบเป็นเรื่องธรรมดาของเค้ามาก) มี 5 ห้องนอน มี TV แบบติด Chromecast (เหมือน Apple TV ของ google) คือแบบล้ำสมัย เน็ตแรง ทำงานได้ (แรงแบบ 3GB ดาวน์โหลดภายใน 5 วินาที) และเจ้าของเป็นชาวประมง
ความพีคคือ เจ้าของมักจะชวนเราออกไปตกปลาไหม เราก็จะออกไปแต่คลื่นแรงอดออก
ปลาส่วนใหญ่ที่จับได้เป็น ปลาคอด (Cod) เค้าก็จะมาขายเราสดๆ ซึ่งบอกเลยว่า อร่อยมากกกก ปลาที่เหมือนปู เกิดมาเพิ่งเคยกินปลาอร่อยเท่านี้ แบบไม่รู้จะพูดยังไง แต่จะให้เพื่อกลับไปกินปลาก็ไม่ไหวอยู่ แต่อร่อยมาก
2. Leknes Zone
พวกข้อมูลทุกอย่าง ครบถ้วนละ ได้เวลาปล่อยตัว ปล่อยใจ ขับรถไปเลย ตาม google ไปได้ มีสัญญาณเน็ตตลอดเวลา มาเที่ยว Lofoten กันแบบวิวพันล้าน แวะจอดตลอดทางกันเถอะ !!
Ballstadøya / Ballstad
เราขอเริ่มจากโซนบ้านเรา ริมระเบียงบ้าน ริมระเบียงก็เห็นแสงเหนือแล้วอะ ขอโทษนะ 55 นอนดูชิวๆ กินข้าว สบายกว่านี้ไม่ได้ละ
โซนนี้ ไม่มีอะไรมากนอกจากมีร้านค้า อาหาร ซูเปอร์ เหมาะเป็นโซนพักอยู่บ้าน และ เสบียงมากที่สุด ถ้าไม่ได้นอนแถวนี้ก็ไม่ต้องมาหรอก
Unstad
จากโซนตรงกลาง ขับรถขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ จะเป็นอีกโซนที่วิวพันล้าน ควรมาตอนเย็นพระอาทิตย์กำลังจะตก คือสวยงามจนแบบเหมือนหลุดออกมาอีกโลก
เห็นอากาศเย็นๆ (เย็นระดับแบบพวก 3-4 องศา) ในทะเลก็มีคนเล่นเซิร์ฟกัน จุดนี้เค้านิยมขับรถมาเล่น แบบโหนี่หรือชีวิต
Uttakleiv
โซนนี้ไม่มีในรีวิว แต่หลังจากการเม้ามอยกับชาวบ้านในหมู่บ้านชาวประมง เค้าบอกว่า โซนนี้จะมีแสงเหนือแรงที่สุด KP5 (ปกติ KP3 ก็จะเห็นละ) แต่อันนี้คือแบบ เราสามารถมองเห็นแสงเหนือด้วยตาเปล่าได้เลย ก็ไปกันจ้า ออกไปตอนกลางคืน ยืนตากลมหนาว ริมทะเลกันไป
แสงเหนือที่เห็นด้วยตาจริงๆ สีเขียวนะ มันเต้นระบำจริงๆ มันมหัศจรรย์จริงๆ ดีใจที่ชีวิตได้เห็นกับตาแล้วนะ 😀
3. Southern Zone
วันต่อมาได้เวลา ขับรถลงใต้ หน้าตาดูไกลมาก แต่บอกเลยว่า จากกลาง > ใต้ ถ้าขับรถอย่างเดียวใช้เวลาประมาณ 3 ชม. (เปิด google ดูเอาเลย) แต่เชื่อเถอะ ระหว่างทางวิวแม่งพันล้านมาก จะแวะตลอดทาง รู้ตัวอีกที ฟินหนักมากกับที่นี่
Ramberg
ที่แรกที่ขับมาถึงก่อนคือ Ramberg ที่นี่ก็ถือว่าเป็นโซนวิวงามเหมือนกัน เราตื่นเต้นมากเพราะจะทะเลสีเขียวตัดกับภูเขาสีฟ้า ยังไงดี คือไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต แสงแดดอ่อนๆ อีก คือแวะจอดถ่ายรูปเถอะ
Hamnøy
จุดมหาพีคที่ทุกคนเอาที่นี่เป็น IG Shot ของเกาะนี้ เราจะได้เห็นเทือกเขา Hamnøy (เราเรียกว่า หำน้อย 555) ตัดกับหมู่บ้านชาวประมงสีแดง คือนี่แหละ วิวที่บอกความเป็น Lofoten ได้มากที่สุดละ
Reine
ขับมาลงใต้กันต่อ หมู่บ้านที่เราจะแวะต่อมาคือ Reine City ที่นี่มีจุดชมวิวให้ดูภาพรวมก่อนด้วยนะ อย่าลืมจอดรถแวะถ่ายภาพ สวยมาก ในหมู่บ้าน เราไปตอนหน้าหนาวก็ปิดกันไปค่ะ แต่วิวคุ้มจริงๆ พอใจละ
Å Village
หมู่บ้านสุดท้าย แวะหาข้าวกินคือ Å Village คนละเจ้ากับ Å Land นะ แต่หมู่บ้านนี้ก็วิวดี หาคาเฟ่กินข้าวตามสบาย ถือว่าคุ้มละมาครบ สวย
4. Norther Zone
รอบนี้เราขับรถขึ้นเหนือกันบ้าง อีกวันหนึ่ง เส้นทางนี้ก็สวยยยย เราว่ายิ่งอากาศดียิ่งสวย ขึ้นสะพานข้ามทะเล เทือกเขา โอ้ยยย ไม่รู้จะชมยังไง จบ สวย
Henningsvær หมู่บ้านชาวประมง
ที่นี่ถือว่าเจริญมาก เจริญที่สุดในเกาะแล้วมั้ง มีร้านอาหาร คาเฟ่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายของที่ระลึก มาเดินเล่นกันได้ยาวๆ
KaviarFactory – Museum
เราก็เดินไปมั่วๆ มาถึงแกลอรี่ หน้าตาตึกสวยงาม และวิวข้างตึกก็พันล้านเหมือนเดิม คนดูแลเคยมาอยู่เมืองไทยด้วยอย่างนาน (ถ้าสังเกตดีๆ คนในเกาะนี้คือเคยมาไทยกันหมดแล้ว ตลกดีพอบอกว่าเป็นคนไทย เค้าจะรักเป็นพิเศษ)
วิวระหว่างทางตอนเหนือ ถ่ายกับที่ตากปลาก็เท่ ถ่ายกับอะไรก็เท่ ไม่มีคำบรรยายอะไรแล้ว นอกจากดูภาพเถอะ แล้วถามตัวเองว่า นี่ควรไปรึเปล่าในชีวิต