[Go!Graph x Uniren] Incredible INDIA — Leh / Dehli / Agra

[Go!Graph x Uniren] เที่ยวอินเดีย เลห์ลาดักห์ 5 วัน 30,000 บาท ฉบับสาวออฟฟิศ

สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่มหากาพย์รีวิวที่สั้นที่สุด ใครไปอินเดียมาคงนึกในใจ 5 วันไปกันได้ยังไง บินทั้งทีทำไมไม่ไปนานๆ ขอตอบเลยค่ะ ลางานไม่ได้ !!! วันลาหมดแล้ว เกรงใจเจ้านาย

ดังนั้นหยุดวันปิยะที่ผ่านมา พวกเรา 4 สาว ลางานเพิ่ม 2 วันเพื่อเอาตัวไป เที่ยวอินเดีย เลห์ลาดักห์   5 วันมาแล้วค่ะ รีวิวนี้สำหรับคนอยากลุย อยากไป แต่ชอบอ้างว่า วันลาไม่พอ (ไม่จริง พวกเราไปมาแล้ว) อินเดียมันยาก เตรียมตัวไม่ยาก (พวกเราไปมาแล้ว) ดังนั้น เอาง่ายที่สุด ลอกทริป ตามรอยไปเลย ของเราเป๊ะมาก คุ้มมาก ทุกคนประทับใจทั้งหมด

00

แผนการเดินทาง

  • Day 0 – ออกจากกรุงเทพกลางคืน (หลังเลิกงาน) บินตรงสู่นิวเดลี นอนโรงแรมแถวสนามบิน
  • Day 1 – บินไปเลห์ – เที่ยวในเมือง วัดวังตลาด ทั้งหลาย
  • Day 2 – ทะเลสาบ ทั้งวัน
  • Day 3 – บินกลับมาเดลี มุ่งหน้าสู่อักรา
  • Day 4 – ทัชมาฮาลยามเช้า ป้อมอักรา เที่ยวเมืองอักราจนหมด – เย็นกลับมาเที่ยวเดลีต่อ
  • Day 5 – ตื่นเช้า ขึ้นเครื่อง กลับบ้าน เตรียมทำงาน

*ดูเผินๆ เหมือนชะโงกทัวร์นะคะ แต่บอกเลย ทีมเราเคลื่อนตัวเร็วมาก เก็บทุกเม็ด ถ่ายรูป ดื่มด่ำ สังเกตหมด เอาจริงทำให้เรารู้เลยว่า เที่ยวเร็วเที่ยวช้าไม่เกี่ยว อยู่ที่ว่าเราเก็บ ซึมซับมันมากแค่ไหน เราใช้เวลาได้มีค่ามากจริงๆ


เตรียมตัวก่อนการเดินทาง

วีซ่าอินเดีย / Permit Leh

ไปอินเดียต้องทำวีซ่าค่ะ หลายรีวิวไม่อัพเดทแล้ว เพราะล่าสุด ที่ทำวีซ่าอินเดียย้ายแล้วจ้า (อัพเดทสุด ตุลาคม 2016) ให้ไปที่ อโศก ตึก PS นั่งมอเตอร์ไซค์ 20 บาทจาก BTS/MRT ถึงหน้าตึกถามยาม ทำวีซ่าอินเดีย เรียบร้อย

รายละเอียดทั้งหมด การเตรียมเอกสาร ไปอ่านที่ >> http://www.plan-travel.com/visa/India.html

  • กรณีไปเลห์ ลาดักห์ ต้องทำใบ permit แนะนำว่าไม่ต้องทำที่ไทย ไปที่นู่น ถึงสนามบินกรอกเลย ง่ายมาก ฟรี
  • กรณีกรอกวีซ่าไปไม่ครบ หรือ กรอกผิด ด้านในมีคอม ที่ถ่ายรูป นู่นนี่ กรอกใหม่ไปเลย
  • กรณีที่กรอกผิดนิดเดียว เจ้าหน้าที่จะบอกว่า จ่ายเพิ่ม 175 บาทสิ เดี๋ยวไปแก้ให้ เราก็จัดไปเลยค่ะ ดีมาก

เอกสารเรียบร้อย มี sms บอก ส่งมาถึงบ้าน เท่านี้เราก็ได้ VISA อินเดีย ติดพาสพอร์ตเราละ


แลกเงิน

เงินอินเดีย คือ รูปี INR คิดง่ายๆ 100 รูปี = 50 บาท ครึ่งนึง เป็นอันจบ เราแลกเงินตามร้านทั่วไป หาได้ตามในเมือง

Superrich1


ตั๋วเครื่องบิน

กรณีถ้าได้ตั๋วโปร จะถูกหนักมากกกทริปนี้ แต่พวกเราจองโง่ๆ ผ่านเว็บทั่วไป  Bangkok – New Delhi (ไปกลับ) + Delhi – Leh (ไปกลับ) ทั้งหมด 16,000 บาท


ที่พัก

แนะนำเลยว่า ยอมเสียเงินค่าที่พัก ที่นอนดีๆ ราคาประมาณ 1,000-1,500 บาท / คน / คืน จะดีมาก ตามฉบับสาวๆ ที่พักนี่แหละ สะอาด นอนอิ่ม จะเที่ยวสนุกมากขึ้นจริงๆ


จองทั้งหมด

จองตั๋วเครื่องบินอินเดียราคาถูกไปที่ >> https://goo.gl/NvalNZ

App on iOS >> https://goo.gl/U6alPE

App on Android >> https://goo.gl/C0bbdu


ค่าใช้จ่ายทั้งหมด

  • เครื่องบิน 16,000 บาท
  • ที่พัก 5,000 บาท
  • กิน 5,000 บาท
  • อื่นๆ 4,000 บาท
  • = ทั้งหมด 30,000 บาท / 5 วัน / ทริป

อาหารการกิน

อาหารที่นี่จะเป็นเครื่องแกง ไก่ แป้งนาน ข้าว สำหรับเราเราว่าเราเป็นคนกินยากพอสมควร ยังแบบอร่อย เอนจอยมากๆ ดังนั้นไม่ต้องกลัวเลย (ถ้ามาแถบเรา) กินอิ่ม นอนหลับ สบายใจมากๆ


ยา

ทริปนี้ ตัวเอกของทริปคือยาเลย เนื่องจาก เลห์ ลาดักห์ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเยอะมากๆ ยิ่งโซนทะเลสาบ คือสูงระดับ 5,000+ feet จากน้ำทะเลเลย ดังนั้นยาที่ควรเตรียมไปทริปอินเดียเลยคือ

  • ยาปรับความดัน* ควรเอาไปที่สุด
  • ยาแก้เมารถ *ควรเอาไปที่สุด
  • ยาแก้ไข้ แก้หวัด น้ำมูกไหล
  • ยาแก้ท้องเสียเฉียบพลัน
  • สเปรย์ฉีดแก้เมื่อย

Uniren Spray

จากปากคนที่เดินทางบ่อย (ถามคนอื่นเอา) เดินมากเมื่อย ถือกล้องหนักมากเมื่อย ตัวอ้วนก็เมื่อย ดังนั้นใช้   สเปรย์ตัวนี้ฉีดพ่นเลย หายเร็วดีมาก ขาเคล็ดก็ฉีด ดีขึ้นเลย เบา พกง่าย ที่สำคัญมันเป็นสเปรย์แบบไม่อัดแก๊ซเอาขึ้นเครื่องได้ค่ะ เรียกได้ว่าพกไปได้ทุกที่จริงๆ เวลาไปทริปส่วนใหญ่เราก็พกไป คิดถูกมากที่พกมา   เพราะทริปนี้โหดมาก สอบถามข้อมูล หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป https://www.facebook.com/unirenspray/


ถ่ายภาพ

ทริปนี้บอกเลยว่ารูปสวยมาก สวยแทบไม่รีทัช เราพกนี่ไปจ้า Panasonic Lumix GF8 สวยมาก ภาพใส ดีมาก เลนส์ 2 ตัว เลนส์ Kit กับ 35-100 mm โอยยยคุ้ม ภาพสวยมาก

#LumixGF8   #Lumixfriend


เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับอินเดีย

  • คนอินเดียไม่เหม็นขนาดนั้น >> อากาศระบายตลอด ไม่เหม็นขนาดที่คิดเลย โอเคมาก
  • อินเดียสะอาดกว่าที่คิด
  • อาหารอินเดียอร่อยกว่าที่คิด
  • คนอินเดียเป็นมิตร รักการถ่ายรูป(กับเรา) และชวนคุยหนัก
  • ถ้าซื้อของอะไร ต่อราคาไป 50% ขั้นต่ำ
  • มาสนามบินเผื่อเวลาไป 3 ชั่วโมงเลย
  • คนส่วนใหญ่มาอินเดีย หน้าร้อน เราไปก่อนจะเข้าหน้าหนาว โอเคมาก หนาวดี คนน้อยเลย
  • ควรมาอินเดียแบบ 4 คนกำลังดี และถ้าเป็นผู้หญิงหมดจะดีมาก (ยังไง ลงไปอ่านรีวิว)

สรุปว่า ทริปนี้ เรา 4 คน ป่วยเล็กน้อย แต่สบายดี ไม่มีใครเป็นลม ท้องเสียแต่อย่างใด สบายใจมาก ดีมาก สนุกมาก ประทับใจมาก ยังไงก็กลับมาอีกแน่นอน


เตรียมตัวกันหนักมาก (เอาจริงเราชิวนะ อ่านรีวิวคนอื่นเอาแล้วไปจัดการหน้างานเอา) ได้เวลาออกเที่ยวสักที ใครต้องการข้อมูล ใครอยากรู้ว่าสภาพจริงเป็นยังไง รีวิวข้อมูลหนักๆ เราจัดมาให้แล้ว เก็บกระเป๋าขึ้นเครื่องเถอะ

Day 01 Bangkok – Dehli – Leh

วันนี้ไม่มีอะไรมาก รีวิวสายการบิน Jet Airways อาหารอร่อย (เราชอบ) ที่นั่งโอเค กินอิ่ม นอนหลับ นั่งประมาณ 4 ชั่วโมง ก็ถึงนิวเดลี สนามบินเรียบร้อย

การเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง

รถไฟฟ้า – ก็มีนะ แต่ดูลำบาก ข้าม

รถบัส – ก็มีนะ แต่ดูลำบาก ข้าม

แท็กซี่ – วิธีนี้สะดวกมาก ไม่แพงด้วย ถ้าโบกแข่งกัน เราสู้ไม่ได้แน่ ถ้าไม่อยากโดนโกง แนะนำ Pre-Paid Taxi จะมีเคาท์เตอร์ที่ด้านหน้า ไปบอกปลายทาง (ชื่อโรงแรม ที่อยู่) เค้าจะมีเรตราคาให้ จ่ายเงิน แท็กซี่มา ก็ขึ้นได้เลย

จากสนามบิน เราพักโรงแรมแถวสนามบินนั่นแหละ นั่งแท็กซี่มาประมาณ 300 รูปี

คืนนี้อาบน้ำ นอนหลับดี หน้าตาที่พัก ดูดีกว่าที่เป็น


Day 02 Leh Ladakh

ตอนเช้า เราให้โรงแรมเรียกแท็กซี่ เพื่อไปสนามบินให้ เป็น Domestic สายการบิน Go Air ดีเลย์หน่อย แต่โอเคนะ — มีคนบอกว่า นั่งเครื่องไปเลห์ วิวระหว่างทางห้ามละสายตา บอกเลยว่าจริงมาก ภูเขาสวยมาก หิมะปลายๆ


การเดินทางในเลห์

วิธีเดียว แนะนำเลย คือ แท็กซี่

แท็กซี่แต่ละคันจะมีสมุดเล่มหนึ่งคือเป็น Rate ราคาของที่นี่ จะมีบอกหมดว่าสถานที่ไหน ราคาเท่าไหร่ เราก็เลือกเหมือนเลือกท็อปปิ้ง อยากไปไหนบ้าง ก็เลือกไป ราคาก็แฟร์ดีนะ ควรไปกับเพื่อน 4 คน หารกันคุ้มสุด นั่งรถได้พอดีเป๊ะ

วันแรก เราเลือกเที่ยวในเมือง แบบโหดมากไป 8 ที่ แถมส่งโรงแรม ราคาเหมาคือ 4500 รูปี / 4 คน — คนขับรถที่เรานั่งไปด้วยดีมาก ใจดีมาก สนใจติดต่อ Mr.Tashi – 9797452443


Sathu Shanti

ที่แรก ใกล้สนามบินสุด ประวัติไรงี้ไม่ขอเล่า ที่นี่จุดเด่นคือ จะเห็นวิวเลห์ทั้งหมด เรามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งเมืองเงียบเหงา แต่ใบไม้สีเหลือง สวยงามมาก จริงๆ มาหน้านี้สวยมากเลยนะ ไม่มีคนด้วย


Castle at Tsemo

ที่นี่เหมือนเป็นปราสาท เราขึ้นไปไม่ถึง เพราะสูงมาก เพื่อนๆ เริ่มหายใจไม่ค่อยออก จะเป็นลม มาที่นี่ไม่ควรหักโหมมากนัก เรานี่จะตายกัน ขาสั่น ขึ้นไม่ไหว กินลูกอม ช็อคโกแลต อะไรหวานๆ ลงไปจะช่วยได้


Leh palace

พระราชวังเลห์ สำหรับเราเคยไป พระราชวังโปตาลา (ทิเบต) มาแล้ว หน้าตาคล้ายๆ กันด้านในมีให้ไหว้พระ กับขึ้นไปถึงชั้น 9 เป็นจุดชมวิว ก็จะเห็นวิวเลห์เช่นกัน จริงๆ ไม่ค่อยมีอะไร

ค่าเข้า 15 รูปี (โชว์พาสพอร์ตไทย)


Moti market

ตลาดกลางเมือง คนขับพามาทานข้าวเที่ยงที่นี่ ก็ขายเสื้อผ้า อาหาร ผลไม้ทั่วไป อาหารที่กินก็เป็นข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยว ซุป อร่อยดีนะ


Stok palace

เป็นวังเช่นกัน เราไปถึง ปิดจ้า.. เนื่องจากฤดูหนาวเค้าก็เลยปิด.. จบ แต่ทีเด็ดคือวิวระหว่างทางที่จะไป Stok Palace นี่แหละ สวยมาก อลังการ


Hemis Monastery

ที่นี่เราชอบมาก เป็นสำนักสงฆ์ที่เงียบๆ จุดเด่นคือ ใบไม้เหลืองประหนึ่งอยู่เกาหลี แถมมีน้องลามาให้เซลฟี่ด้วย สวยงาม แถมวิวระหว่างทางคือแบบ สวยตาย สวยยอมใจ


Hidden Place

ลุงคนขับพาไปที่ไหนไม่รู้ เหมือนขับไปเรื่อย แต่วิวสวยมาก เราก็เรียกไม่ถูกว่าอะไร ก็แนะนำว่า เอาภาพนี้ให้คนขับดู เหมือนเค้าจะรู้จักกันหมด ดูดีมากจริงๆ

Road Trip Leh Ladakh ภาพสวยมาก พวกเราชอบรูปนี้กันมากๆ ถ่ายโดยลุงคนขับ มี Vision จริงๆ


Shey Palace

พระราชวัง ลุงพามาบอกว่าดี เราก็ขี้เกียจจะเข้าแล้ว ลาก่อนประวัติศาสตร์ วิวเด็ดคือตรงข้ามเป็นบึง วิวนึกว่า National Geographic สวยมาก


Main Market

ตลาดกลาง ก็เอาไว้ซื้อผลไม้ อาหาร ของมินิมาร์ท โปสการ์ด สำหรับกักตุนวันพรุ่งนี้ (ไปทะเลสาบ) มาเดินซื้อของที่ระลึกกันก็ที่นี่แหละ


Yangphel Guesthouse

เกสเฮาท์ที่เราพัก มีน้ำอุ่น ในห้องไม่มีฮีตเตอร์ แต่โฮสใจดีมากๆ ผัวเมีย ราคาไม่รวมอาหาร รูปก็ไม่ได้ถ่ายมา จริงๆ ที่นี่ก็ดีแหละ แต่ถ้าหาได้ดีกว่านี้ก็แนะนำที่อื่นนะ


Day 03 Pangong Lake

วันนี้เราออกเดินทางไปทะเลสาบทั้งวัน ทะเลสาบชื่อ Pangong Lake เป็นทะเลสาบชื่อดังของเลห์

ข้อควรรู้เกี่ยวกับทะเลสาบ

  • สามารถไปวันเดียวกลับได้
  • จากเลห์ นั่งรถไป 5 ชม. ขากลับก็ 5 ชม. เพื่อดูทะเลสาบ 3 ชม.
  • ค่าเหมารถ 8,000 รูปี / วัน / 4 คน
  • ระหว่างทางผ่าน Chang La Pass เป็นถนนเลียบภูเขา สูงอันดับ 3 ของโลก เสียวมาก
  • ในทะเลสาบมีร้านอาหาร กินข้าวเที่ยงได้
  • หน้าหนาว ทะเลสาบหนาวมาก ประมาณ 0-10 องศา เตรียมตัวให้พร้อม
  • ควรพกช็อคโกแลต ของหวานทั้งหลายไปให้หมด กันเป็นลม
  • อย่าเคลื่อนไหวเยอะ เดี๋ยวเป็นลม
  • ควรพักให้ร่างกายดีก่อนจากในเมืองเพื่อไปทะเลสาบ
  • เคยมีคนเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว เพราะสูงมากเกิน
  • จะไปต้องทำ Permit 700 รูปี / คน ติดต่อให้คนขับรถทำให้ได้
  • ในเมืองเลห์ มีให้เช่าถังออกซิเจน 2,000 รูปี (เอามาคืนได้คืน 1,300 รูปี ค่าเช่าจริงๆ 700 รูปี)

รู้หมดแล้ว เราก็นั่งรถทั้งวันไปทะเลสาบกันเลย วิวระหว่างทางสวยมาก ท่ามกลางภูเขาสุด


ในที่สุดก็ถึง นั่งจนตูดบาน นอนแล้วนอนอีก *อย่าลืมกินยาเมารถ ระหว่างทางโหดมาก

ทะเลสาบจุดแรกคือจุดที่มีมอเตอร์ไซค์เหลือง (เค้ามาถ่ายหนังเรื่อง 3 Idiots กัน ฉากนางเอกขับมา) เราก็ถ่ายรูปกับจุดนี้ ทานข้าวกันตรงนี้

แนะนำให้คนขับขับต่อไปอีก 7 กิโล เจออีกวิวนึง สวยมากเหมือนกัน มาทั้งทีถ่ายให้คุ้ม

นั่งรถจนเมื่อย หรือเดินจนเหนื่อย ก็เอาสเปรย์ออกมาฉีดพ่นได้เลย ไม่ต้องนวด ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ไม่เลอะมือ เราก็จับกล้องถ่ายรูปได้เลย

ขากลับอากาศจะหนาวลง ก็เตรียมเสื้อหนาวให้พร้อมค่ะ เสื้อโค้ท สเวตเตอร์ เสื้อกันลม อัดเข้าไป รับรองว่ารอดตาย

สรุป ทะเลสาบสวยงามมาก ตามภาพถ่าย แต่ถ้าใครเคยไป Namtso Lake (ทิเบต) หน้าตาเหมือนกัน น้ำใส ภูเขาสีน้ำตาล ธรรมชาติสวยมากจริงๆ


Day 04 Agra

จากเลห์ วันต่อมา ชะโงกทัวร์ก็บินกลับมาที่นิวเดลีแล้ว จากสนามบินเราตรงดิ่งไปเมืองอักรา (Agra) เลย

Agra เป็นเมืองห่างจากนิวเดลี 200 กิโล (ใช้เวลาขับรถประมาณ 3-4 ชั่วโมง) เมืองนี้ของดังคือ ทัชมาฮาล และ ป้อมต่างๆ เมืองประวัติศาสตร์อะพูดง่ายๆ นี่แหละเหตุผลที่เราไป

เราเหมา Pre-Paid Taxi จากสนามบิน ขับไป อักรา และพาเที่ยวด้วย วันละ 4,500 รูปี

จากสนามบินเดลี – อักรา 4,500 รูปี (ราคาปกติ) + ค่าขึ้นทางด่วน 1,000 รูปี

แต่สรุปเราคุยกับลุงคนขับ เหมาคือ ไปกลับ เดลี – อักรา พร้อมพาเที่ยวในอักรา และ เดลี ทั้งหมด คิดทั้งหมดคือ 12,000 รูปี / 2 วัน / 4 คน — เบอร์ลุงคนขับ Mr. Pawan — 09818608598 00919818 (whatapp ก็เล่น)


เราขอรีวิวที่เที่ยวในอักรา ไล่ไปเลยนะคะ ทีเดียว

Mehrab Bagh

ที่นี่ ไม่มีอะไรหรอก ของเด็ดคือ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น – ตก ผ่านทัชมาฮาล พร้อมวิวแม่น้ำที่สวยมาก อยู่ตรงข้ามทัชมาฮาล มากันได้ ดีมากจริงๆ มาตอนไหนก็ได้หมดนะ

— ค่าเข้า 15 รูปี (โชว์พาสพอร์ตไทย)


Taj Mahal

ทัชมาฮาล สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สาระทั้งหลายไปอยู่ในภาคผนวกนะคะ อันนี้เราบอกสูตรลูกเดียว

ข้อควรรู้เกี่ยวกับทัชมาฮาล

  • มีทั้งหมด 3 ประตู East, West, South เข้าประตูไหนก็ได้ (ถ้าจะเข้าก่อน East เปิดก่อน)
  • ค่าเข้า 530 รูปี (โชว์พาสพอร์ตไทย) จะได้น้ำ 1 ขวด + ที่หุ้มรองเท้า
  • บัตรเข้าทัชมาฮาลเก็บไว้นะ จะไปลดค่าเข้าที่อื่นต่อได้อีก
  • ควรมาตอนเช้า เรามาวันอาทิตย์ที่คนเยอะสุดๆ ยังแทบไม่ต้องต่อคิว
  • อย่าเชื่อไกด์ว่าต่อคิวนาน ไกด์ชอบขอตังค์เยอะ จริงๆ ไม่ต้องมีก็ได้
  • สามล้อถีบด้านหน้า ราคาจริงคือ 30 รูปี / รอบ อย่าเยอะกว่านี้
  • ถ้าเป็นผู้หญิงมาจะยิ่งดี เพราะเวลาสแกนตอนเข้าจะแยกเพศ ผู้หญิงชอบมาน้อย คิวไวเลย
  • เข้ามาด้านในจะมีป้ายเป็นคิวแบบ Tourist เราคิวนั้นเลย ไม่ต้องต่อคิวเลย

ทัชมาฮาลด้านใน ก็ตามที่ทุกคนเห็น เราขอถ่ายแบบที่คนไม่เห็นบ้าง ตั้งแต่ด้านหน้า ด้านนอกสีขาว มีฉากให้ถ่ายรูปเพียบ ของจริงก็อลังการตามภาพเลย


The mosque

อยู่ด้านข้างทัชมาฮาล เป็นอีกฉากที่ถ่ายรูปได้สวยมาก *สาระไปอยู่ภาคผนวกนะคะ* สรุปว่ามาต้องเก็บให้ครบ


Agra fort

ป้อมอักรา ที่นี่เรียบๆ แต่มีฉากให้ถ่ายรูปเยอะอยู่ จริงๆสาระไปอยู่ที่เนื้อหาประวัติศาสตร์นะ ทุกอย่างจะตอบหมดเลย อันนี้ก็ดูรูปสวยๆไป

— ค่าเข้า 30 รูปี (อย่าลืมโชว์พาสพอร์ตไทย)


Tomb of Itmad-ud-Daulah

อันนี้อยู่ไกลเมืองมากสุด แต่ใกล้กับทางด่วน เหมาะแก่การมาขากลับ ทีเด็ดคือ มีวิวแม่น้ำ Yamuna ให้ดูและเมืองอักราเบาๆ ด้านในก็คล้ายๆ ทัชมาฮาลเป็นหินอ่อนสีขาว ก็สวยดี

— ค่าเข้า 25 รูปี (อย่าลืมโชว์พาสพอร์ตไทย)


สรุปว่า อักรา เราชอบมาก เมืองนี้ฟินหนัก และฟินกับทีมเพื่อนๆ มากในการทำเวลา ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น แหกตาตื่นตั้งแต่ ตี 5 มาดูพระอาทิตย์ท่ามกลางทัชมาฮาล เที่ยวดะทั่วเมือง จนกลับมานิวเดลีได้ต่อ เก็บทุกเม็ดมากจริงๆ

แถมๆ ไปกินข้าวเย็นร้าน Raj Mahal Restaurant มา คือแบ่บ กินไปหมด 5,000 บาท งงหนักมาก คืองานอลังการสุด อร่อยด้วย ตอนนั้นกระเป๋าแห้งกันเลย แต่ก็มานั่งคิดก็ราคาก็พอๆ กับกินข้าวในห้างสมัยนี้นะ ก็ถือเป็นประสบการณ์ไป ขำดี พนักงานผู้จัดการคอยเชียร์ให้สั่ง 55


Day 05 New Delhi

เมืองนี้เราแทบไม่ได้แตะเลย เอาที่มีเวลา ที่ดังๆ เราก็ไม่ค่อยอยากไป ดูไปแต่ละที แต่บอกเลยว่าเด็ดหนักมาก

Lotus Temple

เค้าบอกว่าวัดนี้คือรับทุกศาสนา รีวิวสั้นๆคือเหมือนพืชสวนโลก คนอินเดียมาเยอะมาก 55 แถมตึกรูปดอกบัวที่พวกเราวิเคราะห์กันแล้วว่า นี่มันซิดนีย์โอเปร่านี่นา !! สรุปว่าวันนั้นเค้ามีงาน เราก็เดินเข้าไปงงๆ สรุปหาทางออกไม่ได้สักที ไม่ได้เข้าไปข้างใน (เค้าบอกว่าเด็ดมาก) สรุปว่า เอ๊ะมาทำไมนะ..

— ค่าเข้าฟรี ต่อคิวไปค่ะ


Akshardham

ที่นี่เค้าห้ามถ่ายภาพ แต่ถ้ามานิวเดลี ขอแนะนำมากๆ แบบว่า ต้องมา The Must เลย ที่นี่คือวัดฮินดู ที่เพิ่งสร้างใหม่ๆ แต่อลังการงานสร้าง ประหนึ่งธีมปาร์คมีสวนอาหาร โชว์น้ำพุ โชว์การแสดง คือแบบด้านในอลังการ รายละเอียดเยอะมากกกกก อดถ่ายรูปไง

Water Show ที่นี่ 80 รูปี คุ้มมาก มี 2 รอบ 18.00 / 19.00 คือแบบ ขอร้องให้มาดูเลย

เป็นที่ที่ปิดท้ายทริปอินเดียได้แบบ สะใจมาก สะใจจนแบบ เชี้ยประเทศนี้ยอมใจมากจริงๆ

— ค่าเข้าฟรี ต่อคิวไปค่ะ


06 ภาคผนวก — สิ่งที่โน๊ตไว้ *มีสาระหนักมาก

Day 1 – Airport

1. วันแรกแสนสบาย ลงเครื่องดึกๆ ประมาณ 5 ทุ่ม คนน้อยดี ตม.ผ่านง่าย สนามบินก็ไม่ใหญ่มาก

2. ออกมาเรียกแท็กซี่ คือทุกคนแบบแซงคิว โบกกันมั่ว ยืนกลางถนน สรุปคือต้องไปจุดแท็กซี่ pre-paid taxi ลงชื่อ จ่ายเงิน ละก็มีรถสีดำหน้าตาเหมือนรถโทมี่ ก็นั่งไปโรงแรม

3. โรงแรมอยู่ใกล้สนามบิน เพราะพรุ่งนี้ก็บินต่อไปเลห์แล้ว ที่พักโอเค ไม่แพงมาก แต่โปรดระวัง พวกเว็บจองจะบอกราคาไม่รวม tax มากมาย ก็ไม่แพง จ่ายไป ควรเอาเงินมาเผื่อตรงนี้ด้วย

4. เงินอินเดียคือ รูปี วิธีการคิดง่ายมาก เอาหาร 2 เช่น 100 รูปี = 50 บาท จบ

5. อินเดียดูเจริญและดีกว่าที่คิด แบรนด์ของครบ ไม่เหม็นเท่าที่คิด แต่แม่งแบบมีอะไรหลายอย่างที่งงๆ แบบ แบบนี้ก็ได้หรอ เยอะมาก ตลกดี เช่น ห้องน้ำ ปกติมีป้ายชายหญิง แถมด้วยรูปหน้าผู้ชาย ผู้หญิง แต่งตัวเต็ม ปรินท์แปะหน้าห้องน้ำอีก คืออะไรจะเว่อร์เบอร์นั้น ตลก ละก็พวก รายการทีวี ขายของคือแบบรองเท้าโง่ๆ มึงก็ขายเนอะ mv เพลงแบบคนเต้นเยอะๆก็ยังมีอยู่ ฉากเป็นเดินบนทะเลทราย กลายร่างเป็นอูฐ ก็เออๆ ตามนั้นไป

6. ห้องน้ำที่นี่มีที่ฉีดตูด แต่เดาว่าไม่มีใครกล้าใช้..

7. ขาไปนั่งสายการบิน Jet Airways โอเคนะ กินอิ่ม นอนหลับ ทีวีแชร์กัน บินประมาณ 3-4 ชม. ส่วนอีกสายการบินในประเทศ ไปเลห์ คือ GoAir โหลดกระเป๋าฟรีกันหมด รู้สึกถึงความชีวิตดี

8. อินเตอร์เน็ตที่นี่กากมาก สนามบินก็ไม่มีเนต มีฟรีก็ต้องใส่เบอร์ พ็อคเกตไวไฟก็เร็วเป็นช่วงๆ เดาว่าคนไทยยังไม่ค่อยมา หรือเอเชียตัวเหลือง ทุกคนมองแบบ มึงคือใคร

Day 2 – Leh Ladakh

1. สนามบิน Domestic New Dehli ไม่ใหญ่มาก จากโรงแรมเผื่อเวลาไม่มาก รถติดช่วงแรก มีเวลาเดินช็อปปิ้งและกินสตาร์บัคส์

2. กราฟิกอินเดีย โอเคนะ เหมือนพยายามผสม culture และ modern ให้รวมกัน คือก็ออกมาเรียบๆ ไปจนถึงระดับช่อง 7 ก็มี ส่วนพวกแอด บิลบอร์ด คือแบบนูนออกมา 3 มิติ คือ real estate คือประทับใจ ตื่นเต้นมาก

3. เลห์ ลาดักห์ อยู่ตอนเหนือของอินเดีย จะติดพวก แคชเมียร์ หิมาลัยอยู่แล้ว วิวงาม หน้าตาเหมือนลาซา ทิเบต บินจากนิวเดลีไปประมาณชั่วโมงกว่า วิวบนฟ้านี่แบบ จบ สวย ตายไปเลยจ้า คือแนะนำว่า ใครมาสไตล์ทิเบตไปแล้ว พอๆกันเลย

4. ตามประวัติศาสตร์คือ เลห์เป็นหนึ่งในเส้นทางสายไหมมาก่อน และมีการรับเอาศาสนามากมาย จนหนักสุดคือ พุทธทิเบต ด้วยความที่อยู่ติดกับทิเบต ไปมาหาสู่กันตลอด ทำให้เลห์ถูกเรียกว่า baby tibet ทุกอย่างปราสาท วัด สำนักสงฆ์คือคล้ายกันมาก

5. ถ้ากลับไปอ่านประวัติศาสตร์ทิเบตที่ถูกปกครองด้วยลามะ (คนดังคือ องค์ดาไลลามะลามะ ค่าเท่ากับกษัตริย์นี่แหละ) ลามะของทิเบตโดนจีนเข้ามาบีบทำให้ต้องหนี สุดท้ายคนทิเบตส่วนใหญ่และลามะก็หนีมาอยู่เลห์นี่แหละ

6. ในเมือง Leh ก็คล้ายๆ Lhasa (เมืองหลวงของทิเบต ปัจจุบัน) มีไฟพอประมาณ สัญญาณอินเตอร์เน็ตแทบไม่มี (ยี่ห้อ airtel น่าจะมีมากสุด เห็นโฆษณาเยอะ) ถนนขรุขระบ้าง มีตลาด เรามาช่วงกำลังเข้าหนาวพอดี ร้านค้าเลยไม่ค่อยเปิดนัก ไฟในเกสท์เฮ้าท์ก็ติดๆดับๆ มีน้ำอุ่น แต่ก็ไม่ควรสระผมบ่อย

7. เอาจริง ทุกคนรีวิวมักบอกว่า ไม่ควรมาตุลา เพราะจะหนาว คืออากาศหนาวมากจริงๆ แต่ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง คนน้อย ทุกสิ่งอย่างเป็นของเรามากๆ แต่ก็แลกกับอากาศหนาวนะ

8. วันแรกไม่มีอะไรมาก ทัวร์รอบเมือง ไปไกลถึง Hemis ส่วนใหญ่ที่เที่ยวจะเป็น monastery / palace พวกวัง สำนักสงฆ์ สวยดี สีขาวแดงเหลือง ขึ้นไปสร้างบนเขา มีธงสีๆ ทุกอย่าทิเบตเป๊ะๆ และลุงคนขับใจดี พาแวะหาจุดถ่ายรูปเยอะมาก แถมลุงถ่ายเก่งอีก ชะโงกทัวร์สุดคือ 8 ที่ใน 1 วัน โหดดี แต่รู้สึกไปครบ แล้วก็อิ่มนะ (ที่ไปทั้งหมด – Sathu Shanti / Castle at Tsemo / Leh palace / Moti market / Stok palace/ Hemis / Tazik / Shey Palace / Downtown market)

9. ที่นี่ควรพกยามาเยอะมาก ตั้งแต่ แก้ไข้ แก้หวัดคัดจมูก แก้เมารถ ยาปรับความดัน จำเป็นมากๆ พวกของหวานๆ ลูกอม ช็อคโกแลต เพราะไม่งั้นมีตายส่ง รพ หายใจไม่ออกก็มี

10. อาหาร ตั้งแต่มา เรากินได้แมบทุกมื้อ จะมีความเครื่องแกงหน่อยๆ ข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยวคืออยู่รอดได้ แป้งนันแบบกรอบๆ ก็อร่อยดี ซุป นู่นนี่ แถมใช้ช้อนส้อมนะแถบนี้ เดี๋ยวต้องไปดูในเมืองว่าเป็นไง

Day 3 – Chang la pass & Pangong Lake

1. ตื่นเช้ามากเพราะเป็น 1 day trip ออกไปทะเลสาบ แค่วิ่งรถอย่างเดียว ขาละ 5 ชม. ไปกลับ 10 ชม. ดูโรแมนติกดี ไปดูทะเลสาบ 3 ชม. นั่งรถไป 10 ชม.

2. ที่วิ่งนานเพราะถนนถูกสร้างตามไหล่เขา ขรุขระโลกพระจันทร์ มีหิน หายากมากที่ถนนจะเรียบ เหมือนขับไปบนขอบเขา รอบข้างก็เป็นเหวไปเรื่อยๆ ต้องใช้สกิลคนขับที่เก่งมากจริงๆ

3. ถนนโหดสัสเส้นนี้คือ Chang La Pass ถือว่าเป็นถนนที่สูงอันดับ 3 ของโลก ด้านบนสูง 5300 ft อากาศหนาวแบบแทงกระดูก ปากแห้ง น้ำมูกไหลตลอด แต่วิวข้างทางก็แบบ มีแต่เขา โลกกว้างใหญ่มากจริงๆ

4. เหมือนต้องขับรถข้ามเขาเพื่อมาเจอ ทะเลสาบ ทะเลสาบชื่อ pangong เป็นทะเลสาบที่สูงที่สุดในโลก น้ำใส มีลมพัด ไหลเวียนตลอด แถมด้วยรสชาติปะแล่มๆ ไปชิมมา เค็มๆ

5. รอบๆ ทะเลสาบมีร้านอาหาร ร้านไหนก็ได้เหมือนกัน มีที่นอน (แต่แนะนำว่าเดือนนี้ไม่ควรมานอนจ้า ได้หนาวตายแน่)

6. อีกจุดขายของที่นี่คือ เป็นจุดถ่ายหนังเรื่อง 3 Idiots เป็นหนังดังในอินเดีย (ดูแล้ว บอกเลยว่าสนุกดี ยาวมาก อารมณ์ประมาณเรื่อง PK แต่จิกกัดการศึกษาและวิวเลห์สวยมาก) ขนาดร้านอาหารที่นี่ยังตั้งชื่อตามพระเอกในเรื่อง.. กูเครียด

7. ถ้าขับรถไปอีก 7 กิโล ก็จะเป็นทะเลสาบอีกวิว ก็สวยไปอีกแบบ คือตัวทะเลสาบกว้างมากๆ  คือสุดลูกหูลูกตา ไปได้อีกไกลเลย

8. ความยากต่อมาคือขากลับ เพราะใช้เวลา 5 ชม. เหมือนเดิม แต่พระอาทิตย์จะตกและหนาวกว่าเดิม ก็นั่งทำตัวอุ่นๆ กันไปจนถึงเมือง

9. ในเมืองมีให้เช่าถังออกซิเจน มัดจำ 2000 รูปี ค่าใช้ 700 รูปี เอามาคืนจะได้ตังค์คืน 1300 รูปีนะ

10. คุณแม่ที่เกสท์เฮ้าท์จะแบบตกใจมากที่เราไปทะเลสาบวันที่ 2 เพราะเค้ากลัวร่างกายยังปรับไม่ได้ เพื่อนเค้าบางคนหายใจไม่ออกถึงขั้นเข้ารพ.ก็มี *ตรงนี้เราว่า ยาปรับความดันช่วยได้มากจริงๆ

11. สรุป เลห์ ลาดักห์ คนอื่นเค้าจะมาหลายวัน มาปีนเขา เดิน กิจกรรมนู่นนี่ ส่วนแก๊งนี้คือมาถ่ายรูปลงไอจีจ้า สวยงาม 2 วัน (เมือง และ ทะเลสาบ อย่างละวัน) และทุกคนก็ลงความเห็นว่า พอใจละ อยู่นานกว่านี้เดี๋ยวเบื่อ สรุปว่าชะโงกทัวร์เราก็เวิร์กนะ แถมต้องมานั่งเซิร์จประวัติศาสตร์ต่ออีก มันส์มาก อิ่มทริป จริงๆ


Day 4 – Agra

1. ตื่นจากเลห์ นั่งเครื่องกลับนิวเดลี ไปต่อเมือง อักรา (Agra)

2. สนามบินที่เลห์เล็กมาก มีทหารเยอะ ไม่ก็ทุกคนแต่งชุดลอกกัน ให้ฟีลมาพวกปากีสถานมาก และความเจ๋งของที่นี่ทุกสนามบิน จะมีด่านตรวจแยก ชาย หญิง ซึ่งผู้หญิงแถวสั้นมาก ผู้ชายโคตรยาว ดังนั้นถ้ามาทริปหญิงล้วนจะเป็นอะไรที่ไวสุดๆ มาชายล้วนนี่ก็รอไปสิคะ *เกิดเป็นผู้หญิงที่นี่แลดูอภิสิทธิ์เยอะดีอะ ทุกที่เลย

3. จากเดลีเรานั่ง pre-paid taxi ตรงไปเมือง Agra ที่นี่เป็นเมืองห่างจากเดลี 200 กิโล ขับรถประมาณ 4-5 ชม. แต่เป็นทางด่วน รถไม่ติดเลย ถ้าแท็กซี่เครื่องแรง หรือขับรถเองจะซิ่งได้มันส์มาก แต่เค้าก็มีกล้องจับความเร็วบางที่

4. เราจ้างแท็กซี่ต่อ วันละ 4500 รูปี + 1000 รูปีค่าทางด่วน ถือว่าโอเค คนขับใจดี หาที่นอน ที่กินเองได้อีก

5. Agra เป็นเมืองของทัชมาฮาล และพวกป้อมเมืองเก่า นู่นนี่ที่อินเดี๊ยอินเดียมากมาย มีความมุสลิม อาหรับด้วย ขนาดบ้านเรือนยังเป็นสีอิฐ สวยงามมาก ลิงเยอะ กล้วยเยอะ คนขายของเยอะ วุ่นวายและขยะเยอะ

6. ขอแวะสู่โหมดจริงจังคือ ถ้าเที่ยวอินเดียให้สนุก ควรรู้จักประวัติศาสตร์อินเดียไปด้วย จะอิน จะสนุกและรู้ดีเทลมากขึ้น พวกเรากลับมาไล่อ่าน (คือตอนเด็กๆ ก็เรียนสังคมนะ แต่มันไม่เคยเห็นจริงใครจะไปอิน ตอนนี้คือแบบอินมาก ทุกคนนี่นั่งเซิร์จอ่านบนเครื่อง สนุกมากจริงๆจนแอบคิดว่ารร ก็คงไม่ใช้งบให้นักเรียนไปทัศนศึกษาขนาดนี้หรอก แต่แบบถ้าได้รู้อะไรแบบนี้ตั้งแต่เด็ก มันคงดีมากจริงๆ)

7. เราขอแยกยุคอินเดีย เป็นแบบตามง่ายๆ ที่เข้าใจ ที่อ่านมาโง่ๆเลยคือ

ยุคแรก >> ยุคก่อนประวัติศาสตร์มนุษย์ คนเอเชียกลางย้ายเข้ามาบลาๆ แม่น้ำสิทธุ อารยธรรม จากนั้นก็เริ่มสร้างความเชื่อมากมาย ศาสนาที่เก่าแก่สุดของโลกคือ พราหมณ์ฮินดู ก็จะมีพวกนิทานรามายณะ (รามเกียรติ์ นั่นแหละ) มหาภารตะ อะไรก็ว่ากันไป

ยุคพระพุทธเจ้า >> ถ้าจำได้ เจ้าชายสิทธัทถะเกิดมาก็มีศาสนาพราหมณ์แล้ว (เราขอนับว่า ศาสนาพราหมณ์ฮินดู คืออันเดียวกันเลย) จากนั้นพอพระพุทธเจ้าค้นพบ ก็ออกเผยแพร่ จนเป็นแบบทุกวันนี้

ยุคกษัตริย์มากมาย >> อันนี้ก็ตามหนังสือเรียน คนดังก็พระเจ้าอโศกมหาราช (คนนี้ดังเพราะตะก่อนโหดมาก วันหนึ่งคิดได้ อินศาสนาเฉย สร้างวัด เผยแพร่ ทุกคนยกย่องเลย)

ยุคจักรวรรดิโมกุล (Mughul) >> จากเดิมที่อินเดียมีศาสนาเยอะมาก และแผ่นดินเยอะมาก คือพวก ปากีสถาน บังกลาเทศนี่ของอินเดียหมด ที่นี้ชาวเติร์ก (คือพวกตุรกี ฝั่งซ้ายของอินเดีย อาหรับ) เริ่มเข้ามาบุก ก็ตั้งราชวงศ์โมกุลของตัวเอง แต่คิงคือแบบเทพมาก รวบรวม สร้างนู่นนี่ สมัยนั้นอินเดียก็คือ นับถืออิสลาม หรือก็คือพวกอาหรับ ปัจจุบัน คลุมผ้าอะ ยุคนี้พีคคือ สร้างทัชมาฮาล และ Agra fort ที่เราไปเที่ยวกันนี่แหละ

ยุคอาณานิคม >> ยุคนี้พวกอังกฤษ ต่างชาติเริ่มเข้ามาสู่อินเดีย มีการค้าขาย สร้างบริษัท East India ติดต่อการเมือง จนสุดท้ายโดนอังกฤษยึดไปสิคะ

ยุคมหาตมะคานธี >> หลังจากโดนยึดอยู่นาน ก็มีการประท้วง จนสุดท้ายอังกฤษออกไป ปัจจุบันอินเดียปกครองแบบประชาธิปไตบ มีทั้งประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี หมดเลย

8. ทีนี้พอรู้ยุคแล้ว เท่ากับเมือง Agra ที่เราอยู่นี่คือ จักรวรรดิโมกุล ที่เป็นอาหรับ ดังนั้นก็ไม่แปลกใจที่สถาปัตยกรรมต่างๆในเมืองจะเป็นสไตล์อาหรับ มีอักษรฮินดูตามภาพ

9. Taj Mahal เป็นจุดขายของที่นี่ มีต่างชาติ ยันคนอินเดียมาเอง มีทางเข้า 3 ประตู อยู่ที่ว่าอยากเข้าทางไหน west / east / south และมาเวลาไหน เวลาฮิตคือ พระอาทิตย์ขึ้นและตก คนก็จะเยอะ ด้านในปิด 19.00 แต่เปิดให้ซื้อตั๋วถึง 17.00 และปิดวันศุกร์ ส่วนเสาร์อาทิตย์คนจะเยอะเป็นพิเศษ

10. พวกเราโดนไกด์ที่ไม่เชี่ยวชาญหลอกนั่งสองแถวเข้าไป (รอบละ 100 รูปีสองแถวนั่งได้ 4-5 คน ราคาที่ต่อสุดคือรอบละ 30 รูปีพอ!! ) จุดซื้อตั๋ว ซึ่งมันปิด! ก็แบบเพื่อ.. จากนั้นก็จะพาไปดู Mini Taj mahal ซึ่งคือร้านของฝาก นี่ทำตัวไม่โอเคมากๆ แถมยังจะนั่งไปไหนต่อไหนต่อด้วย

11. Rooftop ที่นี่แทบไม่เห็นวิวทัชมาฮาล ส่วนใหญ่มุมที่เห็นจะโดนต้นไม้บังหมด ไม่รู้ว่าเค้ารักต้นไม้ หรือ ขี้เกียจ ต้นไม้ของคนอื่น กันแน่ ดังนั้นอย่าหาเลยโรงแรมอาจจะเห็นเยอะหว่า

12. ไปกินข้าวร้านชื่อ Raj Mahal ทุกอย่างดีร้านดูภัตตาคาร อาหารอร่อย ราคาออกมา 10000 รูปี = 5000 บาทไทย !! พ่องตายมาก แต่ก็โง่เองไม่ยอมดูราคาก่อน สรุปคือถังแตก แถมโดนหลอกยกทีมอีก

13. อาหารอินเดียกินได้มากกว่าที่คิด เอนจอย อร่อยด้วย พวกโยเกิร์ต (Lessi) ก็อร่อยนะ แกะ ไก่ แกง เอออร่อยอะ อยากให้ใส่ผักชีเยอะๆ

14. แต่การเที่ยวมักเป็นงี้ เมืองไม่เจริญมักมาคู่กับความจริงใจ ส่วนเมืองไหนเจริญมักมาคู่กับการบวกราคา ประจำ..

15. ที่นอนโอเค Raj Resort ใกล้ East Gate แต่พรุ่งนี้จะไปดูวิวตอนเช้าริมน้ำ กับเข้าทัชมาฮาลของจริง ขอให้พรุ่งนี้โชคดี

Day 5 – Agra & New Dehli

1. รู้สึกว่าในโชคร้ายยังมีโชคดีจริงๆ วันนี้โชคดีมากๆ อะไรก็เดาถูก แทงถูกหมด ดีมากจริงๆ

2. ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นไปที่ Mehrab Bagh เป็นเหมือนซากปรักหักพังอะไรไม่รู้ แต่จุดพีคของที่นี่คือ มันอยู่ทิศตรงข้ามแม่น้ำกับทัชมาฮาล ทำให้ได้รูปสวยมากๆ คนน้อยมาก ฝรั่งมา คนศรีลังกามา คนไทยก็มา แต่พวกไกด์บอกไม่แนะนำที่นี่ไว้ดูพระอาทิตย์ตก ดังนั้นจะมาตอนไหนก็ได้ที่นี่ ขอให้มา ขับรถอ้อมไกลจากทัชมาฮาลประมาณ 30 นาที แต่สวยดีค่าเข้า คนไทย 15 รูปี

3. Taj Mahal คือสุสานที่กษัตริย์ในราชวงศ์โมกุล สร้างให้เมียตัวเอง คือเค้ารักกันมาก รักตั้งแต่อายุ 19 วัยฮอร์โมนสุด อ่านแล้วอารมณ์ partner ของชีวิต ไปสงครามก็ยังช่วยปรึกษา ทีนี้เมียตายตอนคลอดลูกคนที่ 14 คิงเสียใจมาก ตอนนั้นก็แก่แล้วนะ ก็ยังอินเลิฟอยู่ ก็เลยสั่งสร้างสุวานให่เมียจากหินอ่อนทั้งหมด บรีฟคือ เอาแบบให้โลกตะลึง แถมสั่งฆ่าคนสร้างทิ้งเพื่อจะได้ไม่ไปสร้างที่อื่นอีก  แต่ทุกวันนี้เรามักรู้แต่เรื่องโรแมนติก ดีจังสร้างให้เมีย ซึ่งจริงๆแล้วสมัยนั้นกินงบประมาณ แถมยังจะสร้างสุสานของตัวเองจากหินอ่อนสีดำอยู่ตรงข้ามแม่น้ำอีก คือโรแมนติกหนักมาก และใช้กำลังคนไปเยอะมาก ลูกชายก็เลยจับพ่อไปขังไว้ที่ Agra Fort (เป็นป้อมอยู่ใกล้ๆ ทัชมาฮาลประมาณ 2 กิโล) พ่อก็มองทัชมาฮาลและตายไป สุดท้ายเลยไม่มีสีดำ ถ้ามีคงจะเท่ดีนะ

4. เข้าที่นี่ เรื่องโง่ๆ ที่มักจะโดนคนอินเดียหลอกคือ ค่ารถ ค่าไกด์ ค่าตั๋ว คนเยอะต่อคิวเป็นชั่วโมงซึ่งจริงๆ แม่งไม่จริง แนะนำให้มาตอนเช้า 8.30 มาก่อนไว้ก่อนเป็นดี ยิ่งเป็นผู้หญิงที่นี่จะแยกคิวค้นตัวเหมือนเดิม แถวไวมาก บอกเลยว่า เรามาวันอาทิตย์ที่คนเยอะสุด แต่คือคนน้อยกว่าดิสนีย์แลนด์จ้า

5. ค่าเข้าทัชมาฮาล โชว์พาสพอร์ตไทยเหลือ 530 รูปี แถมเป็นตั๋วแบบ combine คือเข้าลดราคาได้อีกหลายที่พวก fort / tomb ประหนึ่งกูเป็นคนอินเดียเลยจ้า ตั๋วที่ได้จะเป็น QR code + ที่หุ้มรองเท้า + น้ำเปล่าฟรี 1 ขวด แต่ตอนต่อคิวขึ้นทัชมาฮาล เราเข้าแบบ premium นะจ้ะ อะไรจะอภิสิทธิ์ชีวิตขนาดนี้ ที่สำคัญไม่ต้องใช้ไกด์ตลอดทริป

6. ไกด์ จะโชว์ความเป็น official ด้วยบัตรเหลืองตลอดเวลา เอาจริงแม่งก็บวกราคากันมาก อ่านมาเองดีที่สุดไกด์ปกติที่รู้จักคนขับ 1000-975 รูปีหน้าทางเข้าก่อนขึ้นรถ 300 รูปีหน้าประตูซื้อตั๋ว 100 รูปี คือแบบช่วยด้วยจ้า

7. ด้านในก็มีทางให้เดินไปเรื่อย มีสวน มีทางเดินเข้าด้านใน ด้านในก็มืดๆ ห้ามถ่ายภาพ (ก็เห็นคนอื่นเค้าก็แอบถ่ายกัน) จุดเด่นคือ หินอ่อนเย็นดี กับ ไกด์(ของคนอื่น) เอาไฟฉายส่องหินจะแบบโปร่งแสงได้ ก็โอเค

8. สถาปัตยกรรมด้านในเป็นสไตล์อาหรับ มี calligraphy (พวกคำเขียน) ภาษาอาหรับ เค้าบอกกันว่าฟอนต์ที่เขียนจะขนาดไม่เท่ากันเพื่อให้เราที่มองจากข้างล่างสสมารถอ่านได้และขนาดเท่ากันทุกตัว ประเด็นคือกูอ่านไม่ออกเลยไม่รู้.. กับสไตล์แบบพบได้ตามพวกมอรอคโค ที่ยกด้านหน้าเว้าขึ้น มีแพทเทิร์นดีเทล เยอะๆ หน่อย (แต่นี่จะเป็นสีขาวหมด แต่น้อยกว่า Abhambra palace ที่สเปนเยอะ) ด้านในมีโรงศพอยู่ 2 โลง คู่กัน ก็ของคิงและควีน แต่ศพจริงอยู่ใต้โลงไป 10 กิโล ส่วนด้านหลังทัชมาฮาลก็เป็นวิวแม่น้ำ ตรงข้ามกับที่เราไป

9. ด้านข้างของทัชมาฮาล มี The Mosque เป็นเหมือนวิหารคู่ สีน้ำตาลอิฐแดง จะเข้าด้านไหนก็ได้ ให้ฟีลอาหรับดีมาก ก็ตามนั้นกันไป

10. สรุป Taj Mahal ยิ่งใหญ่ควรมา ค่าเข้าไม่แพง ยิ่งเป็นหญิงไทย ได้ทั้งส่วนลดและคิวสั้น ไม่ต้องสนใจไกด์ สามล้อ คนขายของ บลาๆ บ้าบอทั้งสิ้น

11. Agra Fort ป้อมปราการ ที่คิงที่สร้าง Taj Mahal ตายที่นี่ ในป้อมก็ของเยอะ เดินลึก แต่บางส่วนเค้าก็ไม่ให้เข้า คือใหญ่มากสำหรับเมืองนี้ ค่าเข้าคนละ 30 รูปี (อย่าลืมยื่นพาสพอร์ตไทย + บัตร QR code เมื่อกี้ด้วย) ด้านในก็ไม่มีอะไร เป็นฉากถ่ายรูป สถาปัตย์คล้ายทัชมาฮาลแต่เป็นอีกสี  ที่นี่ถูกสร้างในยุคจักรวรรดิโมกุลเหมือนกัน + Moti Madjid ก็เดินทะลุกันได้

12. Tomb of Itmad-ud-Daulah – อันนี้อยู่ไกลเมืองหน่อย หน้าตาเหมือนทัชมาฮาลเวอร์ชันแปลกทรงกว่า ข้อดีคือด้านหลังติดแม่น้ำ Yamuna River แม่น้ำสายหลักของที่นี่ ก็นั่งชิว ถ่ายรูป รับลมได้ค่าเข้า 25 รูปี (อย่าลืมยื่นพาสพอร์ตไทย + บัตร QR code เมื่อกี้ด้วย และถ้าเค้าไม่ทอนตังค์ อย่าลืมทวงด้วย!!)

13. Yamuna River แม่น้ำยมุนา แม่น้ำสายหลักของที่นี่ ต้นกำเนิดมาจากแม่น้ำคงคา (Ganges River) นี่แหละ ไหลมาเรื่อยจากเดลีลงมาถึง อักรา คือริมแม่น้ำก็แบบมีควาย วัว อยู่กันเยอะมาก เด็กก็เล่นน้ำ ซักผ้ากันตรงนั้น ตรงเกาะกลางแม่น้ำ ชาวบ้านก็ไปซักผ้าและก็ตากมันบนเกาะแบบกับพื้นไปนั่นแหละ (เอาจริงก็งงว่ามันต่างอะไรกับไม่ซัก) ส่วนน้ำในแม่น้ำก็พอมีขยะบ้าง แบบเอาที่สบายใจจ้า

14. สรุปคือเราสามารถเก็บที่อยากไปทั้งหมดใน Agra ได้ตั้งแต่ 5.30 – 11.00 รวมคือ 5 ชั่วโมงครึ่ง รวดเลย ทริปนี้โหดจริงๆ แต่ไม่ชะโงกนะ ดีเทลนะ ประวัติศาสตร์นะ

15. จาก Agra เรากลับสู่ New Dehli ขึ้นทางด่วนตลอดอีกรอบ แวะกินข้าวตามร้านแวะพัก pizza hut ที่นี่ก็ตลก ไก่ bbq wing ก็จืด ไอติม เยลลี่คือแบ่บไม่อร่อย ส่วนพวกข้าวหมกไก่ (Biryani) กับไก่ย่าง (Chicken Tikki)  ไก่แดง (Tandoori) แป้งนาน ก็กินจิ้มๆ ไปค่ะ โอเค

16. อาหารการกินที่นี่ แปลกใจมากที่อยู่รอด กินได้ ข้าวอร่อย ข้าวสวยที่นี่จะยาวเรียว แปลกดี ไข่มีให้กิน โอเคอยู่ แต่เยลลี่ Yupi คือปลอมมาก อยากด่า..

17. อีกอาหารดังคือ Masala จริงๆ คำว่า Masala คือการที่เอาเครื่องเทศมารวมกันให้หมด แต่ส่วนใหญ่มันจะถูกออกมาในรูปแบบ puff ก็เลยขายกันแบบนั้นไป เจอเยอะมากในอินเดีย

18. กลับเข้าสู่เดลี ที่นี่ถูกแบ่งเป็น Old Dehli และ New Dehli ก็เป็นเมืองเก่าใหม่ ความเจริญ ความสะอาด ก็นั่นแหละ ตามนั้น

19. Lotus Temple เป็นวัดที่ศาสนาไหนจะเข้าไปสวดมนต์ก็ได้ ตัวตึกเป็นรูปดอกบัวออกแบบโดยสถาปนิกอิหร่านตั้งแต่ปี 1986 ต้องการสื่อว่านานมาก ยังดูล้ำอยู่เลย คนอินเดียก็มากันเยอะมากเหมือนมาเที่ยวพุทธมณฑลไรงี้ ก็งงๆกันไปว่าเรามาทำไม 55

20. Akshardham อักชารดาห์ม : ที่นี่เราขอยกให้เป็น Best of India เลย ฟินกว่าทัชมาฮาล ฟิน กว่าเลห์ลาดักห์ บ้ามาก ใหญ่มาก อลังการมาก สวยมาก น่ายกย่อง ตะลึง นับถือ จนแบบเห้ย ธรรมกายมาดูงานที่นี่เถอะ พูดง่ายๆ ที่นี่คือ วัดของศาสนาฮินดู ที่แบบไม่ได้ถูกสร้างมานานนะ แต่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ตามหลักโบราณโดยองค์กรฮินดูปัจจุบัน (นึกไม่ออกก็เหมือนวัดร่องขุ่น สร้างใหม่แบบนั้นเลย) ด้านในนอกจากจะมีรูปปั้นแกะสลักเป็นแสนชิ้น มี Food Court / Exhibition / Water Show คือแบบนี่มันวัดผสมธีมปาร์ค!!  แถมยังได้ลงกินเนสบุคส์เรื่องการสร้างไว วัดใหญ่สุดของศาสนาฮินดู ความเจ๋งจริงที่จากเดิมต้องสร้าง 20 ปี มึงอัดเหลือสร้าง 5 ปี

21. พวกเราคือแบบประทับใจกับรายละเอียดด้านในมากๆ และ Food Court ราคาถูก ตกเย็นมีซื้อบัตรไปดู Water Show อีก อันนี้แบบก่อนตายอยากให้มาดู เป็นโชว์น้ำพุที่แสงสีเสียง มีการยิง Mapping ผ่านม่านน้ำ ผ่านตึกเป็นวังฮินดู คือแบบกะเวลายิงเลเซอร์พร้อมกับเวลาน้ำพุ่งขึ้น คือมึงสุดมาก ตัวสั่นปรบมือแบบ เชี้ยประทับใจในคืนสุดท้ายของอินเดีย แบบก้มกราบ ทำไมชีวิตชอบได้เจอของเด็ดๆ อิไปเที่ยวทันสนุกแบบนี้แหละ

22. ความดีงามของที่นี่คือ ตึกเท่ อลังการ บรรยากาศยังดูโรแมนติกเหมาะกับคู่รัก นั่งชิวริมน้ำ แถมที่นี่ห้ามถ่ายรูป โดนยึดมือถือ ของทุกอย่างตั้งแต่ต้น เหลือแค่เงินเอาเข้าได้ มันทำให้แบบ ทุกคนดื่มด่ำกับที่นี่มากจริงๆ ต้องมาแบบขอร้องต้องมาเลย!! (พวกเราคือซื้อ dvd หนังสือ The making of เลย แบบเอ้ะ ทำไมอยู่ๆ กูอินฮินดูเฉย..)

23. ก็เลยสรุปว่า ถ้าวัดธรรมกายทำแบบนี้ได้ ก็อยากเข้าไปดู เพราะสนุกและทำให้อยากสนใจศาสนามากขึ้นจริงๆ นี่มันยุคใหม่แล้วนะ!

24. คริกเก็ต เป็นกีฬาที่คนอินเดียชอบดู เดาว่าได้รับอิทธิพลมาจากอังกฤษ มองเผินๆ เหมือนเบสบอล แต่คนที่นี่อินแบบ ปิดซอยดู ไม่ทำอะไรกัน กูขอดูก่อนจ้า

25. คนอินเดีย เอาจริงคือน่ารัก มีความรักชาติ มีปากมีเสียง เช่นแบบถนนแม่งขับรถกันวุ่นวายมาก เราเกือบเห็นเด็กโดนรถชนต่อหน้าเรา อิลุงคนขับที่ไม่เกี่ยวเลย ก็เปิดกระจกไปด่าคนขับที่จะชนเด็ก คือแบบคนที่นี่คือดี แล้วก็ไม่ได้แก่งแย่งขนาดจีน ทุกคนดูแบบตลก กูจะทำแบบนี้ แฮปปี้ และอินกับทุกเหตุการณ์ แบบมีใครทะเลาะกัน นู่นนี่ กูขอแขกมุงก่อน 55 แต่พวกแบบโกงๆ ชอบบวกราคา แกล้งลืมเงินทอนก็มีนะ จนแบบบางคนก็ดีจนเอ้ะนี่โกงหรือเปล่าจ๊ะ..


ขออนุญาตจบรีวิวตรงนี้ ใครมีคำถามก็ถามได้หมดเลยค่ะ 😀

บอกเลยว่า นี่มันเป็น 5 วันเปลี่ยนชีวิตเลย เดินทางมาพอประมาณ แต่ประเทศนี้มีเสน่ห์ ผู้คน สถาปัตยกรรม ทุกสิ่งอย่างคือ ฟินหนักมาก — เราชอบมาก กลับมาอีกแน่นอน แถมรอบหน้าภูมิคุ้มกันเยอะด้วย ที่นี่ดีกว่าที่คิดไว้เยอะมาก สนุกมาก ประทับใจมาก รอบหน้าจะเลือกที่นอนที่แพงกว่านี้ไปอีก แต่แบบจะมาอีกแน่ ชอบประเทศนี้ เป็นอีกประเทศในโลกที่ต้องมาก่อนตายนะ

Tags Cloud

แชร์เนื้อหา
Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest