กระบี่ – เราขอออกตัวตรงนี้เลยว่า รีวิวกระบี่เวอร์ชันนี้ จะไม่มีแดดแรงสะท้อนบนผืนทรายหรือทะเลใสฟ้าสวยเล่นน้ำจนตัวเปียก ! เพราะเราแอบไปพักและผ่อนแบบจริงจัง ซึมซับบรรยากาศกับ Public Space ที่ทุกคนเกือบลืม จึงออกมาเป็นทริปที่ให้ใจเดินทางมากกว่าร่างกาย ผ่านคอนเซปต์ หนีลมร้อนกรุงเทพฯ ไปรับลมทะเลกระบี่ กับทริปที่คิดมาแล้วว่า Krabi – Good Vibes Only จ้าาาาา !
Fossil Shell Beach & Cemetery
Public Space กระบี่ ที่ทุกคนเกือบลืมไปแล้ว ที่เคยดังในอดีตของกระบี่คือ สุสานหอย 75 ล้านปี เพราะดูจากชื่อแล้วก็ไม่น่าสนใจเท่าไหร่ ซึ่งตอนแรกเราก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน แต่พอได้รู้แบคกราวด์ของมันนี่ถึงกับตื่นเต้นเลยนะ เพราะการเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ มีบนโลกแค่ 3 ที่เท่านั้น คือ อเมริกา ญี่ปุ่น แล้วก็กระบี่นี่แหละ !
ซึ่งถือว่าเป็นปรากฎการณ์ที่มหัศจรรย์จากการรวมเปลือกหอยกว่าหลายชนิดที่เคยอยู่ในน้ำจืดมาก่อน เกิดการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกจนมาเป็นน้ำเค็ม ทำให้เหล่าเปลือกหอยต่างๆ จับตัวกันเป็นก้อน จนเสมือนว่าเป็นการก่อปูนให้เราเดินเลียบทะเลได้สบายเลย ซึ่งถ้าดูในรายละเอียดจะพบว่าพื้นที่เหมือนปูนนั้นคือการรวมตัวกันของเปลือกหอยนับพันนับหมื่นใต้เท้าเราเลย
ช่วงเวลาที่แนะนำมากที่สุดคือ ช่วงเย็น เพราะว่าน้ำทะเลเริ่มลง ทำให้พื้นที่ที่เหมือนปูนเดินไปได้ คนกระบี่ หรือ นักเดินทางแบบเราก็จะมาเดินเล่นกัน อากาศดีมาก ไม่ร้อนเลย อยากจะมาย่ำทะเลหรือตกปลากันก็ได้ที่นี่ นับเป็น Space ที่เราแทบจะลืมไปแล้ว แต่พอได้มาเดินเล่นจริงๆ กลับพบว่า บรรยากาศดีกว่าที่คิดไว้เยอะ
Stay – The Shellsea Krabi
ที่พักตอบโจทย์ชีวิตสโลวไลฟ์ใน กระบี่ หรือใครที่อยากพักผ่อนแบบหนักมาก บางทีชีวิตก็อยากสัมผัสอะไรที่เรียบง่าย ไม่หวือหวาจนเกินไป เป็นนิยามของ Luxury of Silence ผ่านความสงบจากภายในสู่ภายนอก เราแนะนำ The Shellsea Krabi เพราะที่พักแถวนี้คือมีน้อยและไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวแบบแถวอ่าวนาง (แต่ห่างจากอ่าวนางไม่เกิน 10 นาที) ที่สำคัญคือเดินไปสุสานหอยได้เลย
- จองที่พักและดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ลิงก์นี้ได้เลย http://www.theshellseakrabi.com
Sea View Pool Access
ห้องพักแบบเปิดประตูออกมา สามารถโดดลงสระน้ำ หรือจะนั่งชมวิวทะเล กระบี่ ก็ได้ แต่เราคือเลือกเอาเท้าจุ่มน้ำพอ เอนจอยชีวิตแบบง่ายๆ
Cerulean Restaurant & Azure Bar
พรีวิวห้องอาหารแรกของ The Shellsea Krabi จริงๆ จะเป็นส่วนของ Breakfast มากกว่า ซึ่งอาหารคือเน้นไปที่ Thai and Western Cuisine ส่วนมื้อค่ำเราก็แวะมาทานที่นี่เช่นกันจ้า
Fin Bar
มาทะเล กระบี่ ก็ต้องซึมซับบรรยากาศทะเล ยิ่งได้นั่งชิลทานอาหารมองวิวฟ้าตัดกับน้ำทะเลสีครามเพลินๆ ตอบโจทย์ชีวิตดีขั้นสุด จุดนี้คือวิวดีงามสุดของที่พักเลยก็ว่าได้ ถือเป็นไฮไลท์ที่ห้ามพลาด โดยเฉพาะบรรยากาศตอนดินเนอร์
Private Tour 4 Islands – Long Tail Boat Hopping
นี่คือทริปแบบคนมาเที่ยวทะเลแต่ไม่ลงทะเล !! ดังนั้นตัวเลยไม่เปียกน้ำทะเลใดๆ ทั้งสิ้น เรียกว่าเป็นมิติใหม่แแห่งการเที่ยวทะเลก็ว่าได้ เพราะเวลาไปต่างประเทศเราจะเจอแบบรถ Hop On – Hop Off นี่คือการเที่ยวแบบนั้นเวอร์ชั่นนั่งเรือหางยาวนั่นเองจ้า เราใช้บริการของ Wang Sai Speedboat ไป 4 เกาะแบบส่วนตัว ได้แก่ อ่าวไร่เลย์-เกาะปอดะ-เกาะไก่-ทะเลแหวก
- จองทัวร์เกาะแบบส่วนตัว http://www.wangsaispeedboat.com/
Settle Down Moment at Aonang Villa Resort
กลับเข้าฝั่งเราก็ไปนั่งชิลแถวๆ อ่าวนาง เพราะตรงนี้คือหาดกว้าง ดูพระอาทิตย์ได้สวยสุดจุดนึงของกระบี่ก็เลยก็ว่าได้ ไม่ได้พักที่ Aonang Villa Resort ก็สามารถมานั่งจิบเครื่องดื่มแก้วโปรดที่นี่ได้นะ ที่สำคัญคือทางลงหาดอยู่ฝั่งตรงข้ามเลยจ้า แต่ถ้าพักที่ The ShellSea Krabi ก็มี Shuttle Bus มาส่งที่นี่ได้เหมือนกัน
นี่คือทริปแบบคนอยากไปพักผ่อนที่กระบี่อย่างแท้ทรู ตอบโจทย์คนชอบบรรยากาศของทะเลแต่ไม่อยากลงทะเล หรือแม้กระทั่งอยากได้วิถีสโลวไลฟ์แต่ก็ไม่อยากนั่งคาเฟ่ เราแนะนำว่าไปพักที่ The Shellsea Krabi แถว Fossil Shell Beach นี่แหละดีสุด คนไม่เยอะ ได้ความเป็นส่วนตัวสูง หนีลมร้อนกรุงเทพฯ ไปรับลมทะเลกระบี่เสาร์-อาทิตย์กันดีกว่า
- จองที่พักและดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ลิงก์นี้ได้เลย http://www.theshellseakrabi.com
- ถ้าสมมติว่ากระบี่แบบนี้ไม่ตอบโจทย์ สโลว์ไลฟ์เกินไป
อยากเห็นทะเลมากกว่านี้ เราแนะนำรีวิวกระบี่ของเราทริปก่อนที่นี่เลย
https://go-graph.com/2018/06/gograph-x-sofitel-phokeethara-krabi/