[Go!Graph x Thai AirAsia X] Tokyo Arts EP.3 — Tokyo Museum เที่ยวมิวเซียมล้ำ เจาะลึกโตเกียว

[Go!Graph x Thai AirAsia X] Tokyo Arts EP.3 — Tokyo Museum เที่ยวมิวเซียมล้ำ เจาะลึกโตเกียว

สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่รีวิวที่อยากทำมากที่สุดของเรา “เที่ยวล้ำไม่ซ้ำใคร” เราจะพา เที่ยวมิวเซียม โตเกียว แบบละเอียด!! ละเอียดแบบจริงจัง นึกว่ามาทำรายงาน อยู่ในมิวเซียมกันแบบครึ่งวัน 

พร้อมรูปที่เยอะมากๆ เอาแบบไปโตเกียวรอบหน้า มิวเซียมที่เราแนะนำจะควรค่าแก่การไปอย่างยิ่ง และเที่ยวได้ตั้งแต่กันยายนวันนี้เป็นต้นไป !! แนะนำให้บินช่วงเดือนกันยายน เพราะว่าอากาศเริ่มเย็นลง ไม่ต้องไปเที่ยวเบียดเสียดแน่นเหมือนเดือนอื่นๆ ส่วนค่าที่พักช่วงเดือนนี้ก็แสนถูกด้วยนะ

01

ขอยกเป็นซีรีย์มีทั้งหมด 3 ตอน ก็ค่อยๆ เล่าไปทีละตอนนะคะ

  • Tokyo Arts — Summer Sonic >> https://goo.gl/DX1L4L พาเที่ยวเทศกาลดนตรี
  • Tokyo Arts — Neighbourhood >> https://goo.gl/vcJcgo พาเที่ยวย่านฮิปๆ ในโตเกียว
  • Tokyo Arts — Museum >> ตอนนี้เอง พาเที่ยวมิวเซียมหน้าร้อน กันยาเป็นต้นไป !!

รีวิวจะแบ่งออกเป็น 3 งานใหญ่ คือ

  1. National Museum of Nature & Science
  2. Miraikan — National of Science Museum
  3. Mori Arts Museum
  4. Team Lab Exhibition & Summer Festival

มาลุยมิวเซียมกันเลย !!


ไป Tokyo ไปกับ Thai AirAsia X

ทริปนี้ เราเดินทางไปกับ Thai AirAsia X ค่ะ ทุกคนคงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ว่า ไฟลท์ดี บินตรง ประหยัดสุด มักจะนึกถึง Thai AirAsia X นี่แหละ ดังนั้นถ้ารอบนี้ มีแผนอยากไปญี่ปุ่น สักหน่อย เราแนะนำ มิวเซียมของเรา Unseen มากๆ และเดินทางไปกับ Thai AirAsia X นะคะ

dsc07579dsc08715

Thai AirAsia X มีไฟลท์บินตรงไปญี่ปุ่น (2 รอบต่อวันในเส้นทางโตเกียว, บินตรงทุกวัน จากดอนเมืองสู่โอซาก้า) ดังนั้นมั่นใจเลยว่า ยังไงได้บินแน่ บินตรงแน่ ประหยัดเวลา และ เงินในกระเป๋า เอาไปเที่ยวได้อีกเยอะ

จองตั๋วไปญี่ปุ่น ถูกสุด คุ้มสุด ที่นี่ >> https://goo.gl/CR1Y4j

พูดมาเยอะแล้ว ได้เวลาไปเที่ยวมิวเซียมแบบเจาะลึก นึกว่ามาทำรายงานกันเลย !!

01 — National Museum of Nature & Science

เที่ยวมิวเซียม โตเกียว ครั้งนี้เราแบบโคตรจะแนะนำ ที่นี่เป็นมิวเซียมที่รวมเรื่องวิทยาศาสตร์ ประวัติต่างๆ ตั้งแต่กำเนิดโลก จนไปถึงชนิดของสัตว์ทั้งหลายให้ทุกคนได้ดูกัน คือแบบเหมือนเรียนชีวะ เรียน สปช แล้วมาได้เห็นของจริง มันน่าตื่นเต้นมากจริงๆ

ถ้าใครชอบมิวเซียมเราขอแนะนำมากๆๆ มิวเซียมตั้งอยู่ในย่านอุเอโนะ สามารถเดินผ่าน Ueno Park เข้าไปได้ บางครั้งจะมี นิทรรศการพิเศษ ก็ซื้อตั๋วแยกเพิ่มเอา ซึ่งเราว่าคุ้มมากอยู่ดี

Special Exhibition – Hunters of the Ocean

นิทรรศการพิเศษที่เราเข้าไปดูเป็นเรื่องของ Hunters of the Ocean เล่าตั้งแต่กำเนิด สายพันธุ์ต่างๆ ของนักล่า เหมือนเจาะลึกมาก วิวัฒนาการ การกลายร่างของฟันปลา เห็นเด็กนักเรียนมาดูกันเต็มเลย

อีกจุดที่เราดูแล้วซึ้งเลยคือ หลังดูนิทรรศการจบ เค้าจะแจกกระดาษให้เด็กๆ วาดรูประบายสีกันไป จากนั้นก็เอาไปสแกน สุดท้ายแล้วรูปที่เด็กๆ วาดจะเป็นปลาจริงๆ ไปว่ายอยู่ในน้ำหน้าจอตอนขาออก คือแบบแค่เห็นผลงานตัวเองได้ไปโชว์ก็น่าจะมีความสุขแล้ว นี่มัน Interactive Exhibition ของจริง


ถัดมาเข้าสู่โซนมิวเซียมจริงๆ คือมิวเซียมนี้จะแบ่งเป็น 2 ตึก คือ Global Gallery และ Japan Gallery

เราจะเริ่มที่ตึก Global Gallery ก่อน ให้เริ่มดูจากชั้นใต้ดิน เพราะจะไล่การกำเนิดโลกไปเรื่อยๆ เลย ตั้งแต่สายวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เราจะขอเล่าแบบละเอียดมาก แยกเป็นชั้นๆไปเลย

ชั้น B3 – Exploring the Structure of Nature — How Our World Works

ชั้นนี้จะเริ่มเล่าตั้งแต่นักวิทยาศาสตร์ของญี่ปุ่นที่ได้รางวัลโนเบล (คือเยอะมาก) ยาวไปถึงอุปกรณ์ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ และส่วนหลังจะเป็นเรื่องกำเนิดโลก พลังงานต่างๆ ห้องนี้จะอารมณ์ท้องฟ้าจำลองหน่อย ยังไม่พีคมาก

ชั้น B2 – Evolution of Life – Earth’s Origin

ชั้นนี้จะโชว์พวกทรัพยากรต่างๆบนโลก คือแบบใครชอบพวก ฟอสซิล หิน แร่ต่างๆ คือจะฟินหนักมากก คือเราเดินผ่านมองแล้วยังแบบ เออสวยมากจริงๆ ด้านหลังก็จะมีพวกโครงกระดูกสัตว์ (น่าจะของปลอม) มีโชว์โครงสร้างของแต่ละตัว ซี่โครง ฟันกราม เชิงกราน ฟันกราม กระดูกแต่ละส่วน คือแบบ ธรรมชาติมันแบบน่าหลงใหล สวยงามมาก


ชั้น B1 – Evolution of Life – Dinosaur

สาวกไดโนเสาร์น่าจะกรี๊ดมากกกกกับห้องนี้ คือไดโนเสาร์ล้วนๆ (เราก็กรี๊ด) คือไม่เคยได้เห็นสเกลไดโนเสาร์จริงขนาดนี้มาก่อน มันแบบเออมหึมา กระดูก แต่ละสายพันธุ์คือแบบ ฟินหนักมาก

ชั้น 1F – Navigators on History of Earth

ชั้นนี้เราแนะนำเลย สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่านประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เรากำเนิดมา เราวิวัฒนาการมาได้ยังไง เค้าจะมีคลิปสั้นๆ มาให้ดูตั้งแต่กำเนิดมนุษย์ ไปถึงปฎิวัติอุตสาหกรรม ยาวไปจนถึงยุคดิจิตอลปัจจุบัน แล้วเราจะเห็นภาพรวมว่า เออเราก็เดินทางมายาวนานแล้วเหมือนกันนะ

อีกความพีคของชั้นนี้คือ การสตาฟสิ่งมีชีวิตทุกแบบมาจัดแสดง คือแค่เห็นแมลงเป็นพันสายพันธุ์ ดอกไม้ เห็ด สัตว์ โหหหแค่เอามาเรียงก็สวยมากแล้ว ชอบมาก ฟินหนักมาก ให้ห้องนี้ชนะเลิศ คือถ้าเรียนชีวะพวกไฟลัมไปด้วยจะแบบมาทัศนศึกษาที่นี่จะโคตรดี


ชั้น 2F – Investigation Technology for the Earth

ห้องนี้จะเริ่มเข้าสู่ยุคที่มนุษย์ประดิษฐ์คิดค้นต่างๆ เข้าสู่การเรียนฟิสิกส์ละ คลื่นน้ำ คลื่นแม่เหล็กไรงี้ (คือเรียนมาลืมหมดแล้ว) ยาวไปถึงสิ่งประดิษฐ์ เครื่องพิมพ์ดีด รถยนต์ เครื่องบิน โชว์ของอะ น่าภูมิใจที่เด็กๆ เค้าสนใจนะ 55


ชั้น 3F – Compass

ชั้นนี้จะมีโซนสำหรับเด็ก เหมือนเขาวงกต (เราอดเข้า) และสัตว์สตาฟพวกสัตว์ 4 ขา ตัวใหญ่ๆ สัตว์ปีก ทั้งหลายอยู่ห้องนี้หมด ห้องนี้ฟินอีกเหมือนกัน


ถือเป็นอันจบส่วน Global Gallery คือแค่นี้ก็อยู่ไป 2-3 ชั่วโมงแล้ว เราฟินหนักมาก เหมือนเรียนชีวะแล้วได้เห็นภาพของจริง จะสนุกและเข้าใจมากขึ้นอีกเยอะอะ

ส่วนต่อมาคือ Japan Gallery จะเป็นแบบคล้ายๆเมื่อกี้แต่เป็นเวอร์ชันญี่ปุ่นแทน เราก็ไปดูกันต่อ (ค่าเข้าคุ้มหนักมาก)

Theatre360

เป็นโรงหนังจอ 360 องศา เค้าบอกว่าเด็ดห้ามพลาด ซึ่งดีจริง 360 จริง ประทับใจนะ ส่วนเรื่องที่ดูก็แล้วแต่ว่าเราจะดูเรื่องอะไร

จากนี้ขอเล่าเร็วๆ คือ Japan Gallery ก็คล้ายกัน แต่จะโชว์สิ่งประดิษฐ์ของญี่ปุ่น นวัตกรรมต่างๆ ให้ดูแทน

ต่อด้วย สิ่งมีชีวิต พวกสายพันธุ์ที่ค้นพบในญี่ปุ่น ฟอสซิล แร่ธาตุ ปูทาราบะ หมาฮาจิ ไรงี้ ก็น่ารักดี โชว์สวยเหมือนเดิม ยาวไปอีกด้วย วิวัฒนาการของชาวญี่ปุ่น ตั้งแต่กำเนิดโลก เค้าทำอะไร อยู่ส่วนไหน จนมาเป็นถึงทุกวันนี้ได้ เวอร์ชันญี่ปุ่นล้วนๆ


ถือว่าเป็นอันครบถ้วน ฟินหนักมากก พร้อมสาระเต็มสมอง ทุกอย่างถูกปะติดปะต่อเรื่องราวหมด (ที่เคยเรียนตอนเด็กๆ) ได้เวลาของ Museum Shop ที่ของน่ารักมากกกกกกตามประสาญี่ปุ่น เสียเงินวนกันไปค่ะ

สรุป :: มิวเซียมนี้โคตรของโคตรดี อยากให้เมืองไทยมีบ้าง แบบดีมากจริงๆ ดีจนคุ้ม ค่าเข้าถูกจนไม่รู้จะบรรยายยังไง แนะนำว่าถ้ามาญี่ปุ่นกับเด็ก ครอบครัว ที่นี่ดีมากจริงๆ

ข้อมูลต่างๆ

  • ค่าเข้ามิวเซียม คนละ 600 เยน / ค่าเข้านิทรรศการพิเศษ คนละ 1,000 เยน / รวม 2 อย่าง 1,600 เยน
  • เวลาเปิดปิด 9.00-17.00 ทุกวัน  (ปิดวันจันทร์)
  • การเดินทาง ลงสถานี Ueno ผ่าน Ueno Park
  • ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.kahaku.go.jp/english/

02 — Miraikan

มิไรคัง เป็น The National Museum of Emerging Science and Innovation ตั้งอยู่บนเกาะโอไดบะ (ที่มีกันดัมนั่นแหละ) มิวเซียมนี้จะเหมือนมิวเซียมวิทยาศาสตร์ โชว์ล้ำ เทคโนโลยีขั้นสูง ยันไปถึงหุ่นยนต์ เป็นยังไง เราตามไปดูกัน

ชั้นล่าง – เมื่อเดินเข้ามาก็จะเป็นส่วนกิจกรรม มีให้จองคิวเล่นกับหุ่นยนต์รถได้ หรือจะไปดู Special Exhibition (ตอนเราไปเป็นเรื่อง นินจา ไม่ค่อยอยากดูเท่าไหร่) จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปเรื่อยๆ

ชั้นหลักคือชั้น 3 เป็นเหมือนห้องต่างๆ แล้วแต่ความสนใจด้านไหน ตั้งแต่ Bio-Chem / Robot เราขอเลือกเรื่องที่เราตื่นเต้นมาเล่าคือ หุ่นยนต์ที่เหมือนคน (Andriods) เค้าก็โชว์การสร้าง การเคลือบผิวของหุ่นให้ดู เป็น VDO มันสามารถโต้ตอบเราได้ระดับแบบภาษาสุภาพเพื่อนคุยได้แล้ว คือดูเผินๆ คือเหมือนคนมากจริงๆ

จากนั้นก็เข้าสู่โซนรักษ์โลก ลดการใช้ไฟฟ้า พลังงานทางเลือก ว่ากันไปค่ะ


อีกจุดที่พีคคือการโชว์ตัวของ Asimo หุ่นยนต์เดินได้ เตะบอลได้ (เตะบอลได้ของจริง บอลกลิ้งแรงมาก!!) ทักทาย เค้าก็จะโชว์เป็นรอบๆ คนก็ไปนั่งออๆกันดู อาม่า เด็กๆ ฝรั่ง คือดูกันเต็ม

จากลูกโลกยักษ์ก็เดินขึ้นไปชั้นบนต่อ โซนนี้เป็นโซนอวกาศละ นักบินอวกาศทั้งหลาย ชาว ISS ชีวิตไร้แรงโน้มถ่วง ก็เดินดูกันไป

ชั้นบนเป็น Cafe & Restaurant และห้องฉายหนัง Dome (ที่จองรอบไปก่อน คิวยาวมาก) ก็ไม่มีอะไรมาก สวยๆ สไตล์ญี่ปุ่น

สรุป :: มิวเซียมนี้เฉยๆ ถ้าใครติ่งพวกเทคโนโลยีก็น่ามา (และควรไปบวกกับเที่ยวเกาะโอไดบะด้วย)

ข้อมูลต่างๆ

  • เวลาเปิดปิด 10.00-17.00 ทุกวัน  (ปิดวันอังคาร)
  • ค่าเข้า 620 เยน *ไม่รวม Special Exhibition
  • การเดินทาง นั่งรถไฟ Yurikomome ไปเกาะ Odaiba ลงสถานี Telecom Center จากนั้นเดินเอา
  • ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.miraikan.jst.go.jp

03 – Mori Art Museum

อีกหนึ่งมิวเซียมกลางเมืองใหญ่ ที่อยากจะแนะนำมากๆ คือ Mori Art Museum (พวกมิวเซียมดีไซน์ งานออกแบบต่างๆ ที่อยากแนะนำนอกจาก 21_21 Design Site แล้ว ก็ที่นี่แหละ) เพราะนอกจากจะได้ชอบงานดีๆ แล้ว ยังได้ชมวิวโตเกียวจากชั้น 52-53 อีกด้วย คือทีเดียวคุ้มจริงๆ

p1100163

*นิทรรศการในมิวเซียมจะผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่รับรองได้ว่า เป็นมิวเซียมที่คัดเลือกนิทรรศการได้ดีมากทุกงานจริงๆ

lr-1-of-12lr-3-of-12

ในช่วงที่พวกเราไป เป็น Exhibtion ที่อยากแนะนำคือ The Universe and art ที่รวบรวมงานจากศิลปินระดับโลก งาน Exhibtion,Mix Media, Installation ต่างๆ มารวมไว้ในการพูดถึงเรื่อง “จักรวาล”

p1100279p1100164 p1100227 p1100240 p1100278 lr-4-of-12 lr-5-of-12

เอาจริงพวกเราก็ไม่ค่อยเข้าใจมากนัก (เพราะศัพท์ยากมาก) แต่ว่าความฟินคือ ได้ดูพวกอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งของจริงและจำลองในอวกาศ งานอาร์ตเอย จรวดเอย

lr-6-of-12

มีงานของ TeamLab ที่เข้าไปในห้องเหมือนเราลอยอยู่ในอวกาศ นั่งชิวในนั้นได้สบายมากเลย

สุดท้าย ฟินที่สุด มักจะจบที่ Museum Shop อันนี้ก็เป็นของเกี่ยวกับอวกาศ ตั้งแต่ยาน อาหารสำเร็จรูปในอวกาศ ทิชชู่การ์ตูน นู่นนี่ คือแบบ ญี่ปุ่นมักผลิตอะไรที่เราอยากได้ทั้งหมดนั่นแหละ 55

p1100256 p1100266 p1100268lr-7-of-12lr-8-of-12lr-9-of-12lr-10-of-12lr-11-of-12lr-12-of-12

สรุป :: มิวเซียมนี้ดี เดินทางสะดวก ถ้าใครชอบมิวเซียมอาร์ต ควรค่าแก่การมา

ข้อมูลต่างๆ

  • เวลาเปิดปิด 10.00-22.00 ทุกวัน  (ยกเว้นวันอังคารปิด 17.00)
  • ค่าเข้า 1,600 เยน *ไม่รวม Special Exhibition อื่นๆ
  • การเดินทาง นั่งรถไฟลงสถานี Roppongi ขึ้นตึก Mori Tower ชั้น 52-53
  • ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mori.art.museum/en

04 – Team Lab Exhibition & Summer Festival

เกริ่นก่อนเลยว่า ดีมาก รักมาก พอดีตอนเราไปเป็นช่วงหน้าร้อน แล้วเขาก็เหมือนมีจัดงานเทศการหน้าร้อนพวกแบบ มีน้ำแข็งไส สวนน้ำ และเปิดตัว Onepiece Gold และมีนิทรรศการพิเศษของ TeamLab ที่มาจัดในงานนี้ด้วย — ชื่องาน Odaiba Minna no Yume Tairiku 2016 – A World of Wonders (ยาวมาก เอาไว้เผื่อเซิร์จ) เอาบรรยากาศรอบๆ งานไปก่อน หน้าร้อนจริงๆ


Team Lab Exhibition

นี่คือสิ่งที่เราอยากจะเข้ามางานนี้ คือ Team Lab Exhibition เป็นกลุ่มที่จัดงานระดับโลก เคยมาจัดเมืองไทยแล้ว มีที่เกาหลี ญี่ปุ่น ก็หมุนเวียนไปว่าเค้าจะไปจัดที่ไหนบ้าง คืออยากไปมาก (อยากรู้ว่ามันมีดีอะไร ทุกคนคือชมกันหนักมาก) ไปถึงรอคิว 2 ชั่วโมง !!

คือถ้าไม่ดีนี่คงด่าไปแล้ว แต่ปรากฎว่าประทับใจหนักมากกกก ไหนๆงานก็หมดแล้ว เราขอสปอยล์เลยละกัน *การไปเที่ยว TeamLab อย่างสนุกคือห้ามรู้สปอยล์นะ*

ไปถึงเค้าจะให้ถอดรองเท้า และถกกางเกงขึ้น (ควรใส่กางเกงขาสั้นไปเลย) ยัดรองเท้าใส่ถุงพลาสติกเดินหิ้วไป จากนั้นก็เข้าสู่แต่ละห้อง

ห้องแรก – เรียกว่าห้องพื้นยวบ มันยวบจริงๆ แบบห้องสูงๆ ที่มีโฟมโซฟาทั้งห้อง นั่งเล่นนอนเล่นได้ แต่ถ้าจะผ่านห้องนี้ต้องเดินทะลุ เท่ากับเราต้องเดินย่ำอิพื้นยวบ ยวบหนักมากกก ตลกดี ชอบ

ห้องที่สอง – ห้องแสงไฟ อันนี้ถือเป็น Signature ของ Teamlab เค้า เราคงเคยเห็นเพื่อนถ่ายตามไอจี หรืออะไร แสงไฟเม็ดเล็กๆ เยอะมาก กับกระจกสะท้อนทั้งห้อง สวยดี ไอจีช็อตจ้า

ห้องที่สาม – ห้องนี้ชอบมากกกที่สุด คือเปิดเข้ามาก็เจอน้ำท่วมครึ่งขา !! แล้วน้ำแบบสีขาวขุ่น ตอนนั้นก็คิดในใจว่าทำไมน้ำไม่ใส สงสัยน้ำต้องโสโครกมาก เค้าเลยย้อมสีเลย สรุปเข้าห้องไปจ้าาาา เค้ายิงโปรเจคเตอร์ลงจากเพดาน เท่ากับอิน้ำขุ่นๆ ทำหน้าที่เป็นจอภาพ มีปลาว่าย ดอกไม้ โอยคือสวยมากกกกกก ประทับใจสุด

ห้องที่สี่ – หลังจากขาเปียก เช็ดขาให้แห้งแล้ว (เค้ามีผ้าขนหนูให้) ห้องนี้ก็นั่งพักสวยๆ กับกราฟิกดอกไม้ เหมาะแก่การนั่งจีบกัน นั่งสวยๆ ชมสไลด์มาก คือสวยงามอะ

สรุปเลยว่า ประทับใจมากกกก ประทับใจสุดๆ กับโชว์นี้ แบบเป็นสาวก TeamLab เลยชอบมากจริงๆ

ข้อมูลต่างๆ

  • ค่าเข้างานเทศกาล 2,000 เยน / วัน (รวมค่าเข้า TeamLab แล้ว)
  • การเดินทาง นั่งรถไฟ Yurikomome ไปเกาะ Odaiba ลงสถานี Daiba (ใกล้ห้างกันดัม) จากนั้นเดินเอา


จบลงแล้วกับรีวิวมิวเซียมสุดละเอียดของเรา — ฝากบินกับ Thai AirAsia X มีไฟลท์บินตรงไปญี่ปุ่น (2 รอบต่อวันในเส้นทางโตเกียว, 1 รอบต่อวันในเส้นโอซาก้า) ดังนั้นมั่นใจเลยว่า ยังไงได้บินแน่ บินตรงแน่ ประหยัดเวลา และ เงินในกระเป๋า เอาไปเที่ยวได้อีกเยอะ

dsc07577

จองตั๋วไปญี่ปุ่น ถูกสุด คุ้มสุด ที่นี่ >> https://goo.gl/CR1Y4j


อย่าลืมมาญี่ปุ่น โตเกียว รอบหน้า ฝากเที่ยวมิวเซียมไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ รับรองว่าแปลกใหม่ เปลี่ยนความคิดไปจากเดิมแน่ๆ 😀

01

Tags Cloud

แชร์เนื้อหา
Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest