[Go!Graph x MusicHouse] Tokyo Arts EP.1 — Summer Sonic

[Go!Graph x MusicHouse] Tokyo Arts EP.1 — Summer Sonic

สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่รีวิวญี่ปุ่นอีกครั้ง 55 รอบนี้เราไม่แวะเมืองไหนทั้งสิ้น เราจะพาไปเสพย์งานอาร์ตล้วนๆ ในโตเกียวเท่านั้น ไม่มีเมืองอื่น ไม่มีธรรมชาติ ขอยกเป็นซีรีย์มีทั้งหมด 3 ตอน ก็ค่อยๆ เล่าไปทีละตอนนะคะ

  • Tokyo Arts — Summer Sonic
  • Tokyo Arts — Neighbourhood
  • Tokyo Arts — Exhibition

เริ่มต้นด้วย ตอนแรก Summer Sonic เทศกาลดนตรีระดับโลก — งานนี้เราร่วมกับรายการ Music House ไปทัวร์ Music Festival ทั่วโลก (เคยไปสิงคโปร์งาน Laneway แล้ว >> อ่านได้ที่ https://go-graph.com/2016/02/gograph-backpack-singapore-10/)

งานนี้เรายังคงจัดกันต่อ เราก็ไปเป็นแขกรับเชิญในรายการด้วย แล้วก็เอามารีวิวด้วย เรียกว่าได้ทั้งอ่านและดูไปพร้อมกันทีเดียว

01


เตรียมตัวก่อนไปโตเกียว

ก่อนจะออกเดินทาง เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม ถ้ายิ่งเป็นครั้งแรก ควรจะพร้อมหนักมาก เรามีหัวข้อหลักๆ ของการเตรียมตัวมาให้อ่านค่ะ

การเดินทางไปโตเกียว

พวกเราใช้บริการสายการบิน Scoot คือเครือเดียวกับ NokScoot นี่แหละ เป็นสายการบินของสิงคโปร์ที่รับรองได้ถึงความปลอดภัย สะดวกสบาย บินตรงทีเดียวถึง แถมตอนนี้ไม่มีปัญหาเรื่อง Over Booking แล้ว รับรองว่าจองกันมา ได้นั่งไปถึงโตเกียวกันทุกคน

แล้วทำไม Scoot ถึงดีงามกว่า บอกตรงๆ เลยว่าเพราะเครื่องลำใหญ่มาก เป็นเครื่อง Boeing 787 Dreamliner แบบนึกว่าไปยุโรป ที่นั่งกว้าง ช่องเก็บของใหญ่ เดินเหินกันสะดวก ไฟลท์ก็ดี ออกกลางคืนถึงเช้าเที่ยวต่อได้เลย เราว่าถ้าไปโตเกียว Scoot นี่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีงามมาก แถมชอบมีโปรโมชันบ่อยด้วย ถือเป็นสายการบิน Low cost ระดับดีงามเลยนะ

สายการบิน Scoot มีเส้นทางบินตรงจาก ดอนเมือง – นาริตะ

  • ขาไป : ออกจากดอนเมือง 0.55 – ถึงนาริตะ 9.00
  • ขากลับ : ออกจากนาริตะ 10.00 – ถึงนาริตะ 13.50

สามารถอ่านรายละเอียดสายการบินเพิ่มเติมได้ที่  http://www.flyscoot.com/th/fly-scoot/who-we-are/787-dreamliner


การเดินทางจากสนามบินนาริตะ > เข้าเมืองโตเกียว

เมื่อถึงสนามบินแล้ว อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ นั่งอะไรเข้าเมือง จากการศึกษาพบว่าญี่ปุ่นตัวเลือกเยอะมากกก และแทบทุกเว็บบอกตัวเลือกไว้หมดแล้ว เรายกให้ เที่ยวญี่ปุ่นดอทคอม ข้อมูลดีสุด ไปอ่านที่ https://goo.gl/fRLG42

แต่ถ้าขี้เกียจอ่าน เราสรุปให้เลยว่า ดีงามที่สุดคือ เซ็ท Keisei SkyLiner ไปกลับ + Metro 72hrs ราคา 5,400 เยน เป็นรถไฟด่วนเข้าเมืองจาก Narita – Ueno ไปต่อรถไฟใต้ดินไปสถานทีอื่นๆ ได้หมดเลย แถมด้วย บัตรเดินทางรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro 72 ชั่วโมง (3 วัน คือเปิดเมื่อไหร่ ก็จบที่เวลานั้นของ 3 วัน)

สรุปว่าคุ้มมาก ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเดินทางอีกเลย แถมถ้าช็อปเพลินยังมีตั๋วกลับบ้านอีกนะ 55 ขากลับก็กลับจาก Ueno มาลงที่ Narita ได้เหมือนเดิม อย่าลืมไปแจ้งพนักงานเลือกรอบก่อนขึ้นรถไฟด้วยจ้า


การเดินทางในโตเกียว

เมื่อซื้อเซ็ทที่ว่าไปแล้ว เราก็เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินให้หมด ซึ่งโตเกียวก็ขึ้นชื่อว่ารถไฟทะลุแทบทุกที่ และทุกคนจะปวดหัวมาก เราเลยขอแนะนำ

  1. App Metro Tokyo สามารถ Search เอาได้เลยว่าจะขึ้นลงสถานีใด
  2. ถ้าไม่มี Internet แนะนำ Search ว่า Tokyo Metro Map PDF ดาวน์โหลดเก็บไว้ดูในมือถือได้เลย

(แต่ถ้าไปงาน Summer Sonic ต้องต่อรถไฟ JR เป็นของรัฐ อันนี้ก็เสียเงินกันเพิ่มไป ประมาณไม่ถึง 1,000 เยน *แล้วแต่จุดเริ่มต้นสถานีที่ออกเดินทาง)


Internet ในโตเกียว

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ปวดหัวมากๆๆๆ ที่สุดของชาวไทยเวลาไปญี่ปุ่น สรุปต้องยังไง ต้องซื้อซิมส์ / เปิด Roaming หรือว่า Pocket Wifi ดี เราจบทุกปัญหาให้ว่า Pocket Wifi เถอะ จบเลย แบ่งกันใช้ได้ หารกับเพื่อนได้ ราคาถูกมาก วันละ 200-300 ถูกแบบถูกกว่าราคา 3G ในไทยอีกมั้งเนี่ย

ยี่ห้อแนะนำคือ Samurai Wifi ก็คือยี่ห้อนี้ดังอยู่แล้ว รับเครื่องได้ที่สนามบิน หรือให้เค้ามาส่งที่บ้านก่อนเดินทางก็ได้ ราคาประหยัดพร้อมอุปกรณ์ในเซ็ทครบ ที่ชาร์ต หัวแปลงไฟ มีแผนที่รถไฟ บัตรลดอะไรที่คนไทยชอบไป คือทีเดียวจบจริงๆ มาญี่ปุ่นนี่ยังไงก็ต้องยี่ห้อนี้เท่านั้น

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม / สั่งซื้อได้ที่ http://www.bs-mobile.jp/th/


ที่พักในโตเกียว

ปัญหาโลกแตกอีกอย่างคือ นอนย่านไหนดีคะ .. เอาจริงย่านดังๆ ในโตเกียวมีไม่กี่ย่านค่ะ ย่านดังพวกนี้นอกจากคึกคักช็อปปิ้งมันส์แล้ว ยังเดินทางสะดวก ผู้คนพลุกพล่านปลอดภัย เช่น ชินจูกุ ชิบุย่า อาซากุสะ อุเอโนะ และ กินซ่า แต่ถ้าตัดสินใจไม่ได้ว่านอนย่านไหนดี เราฟันธงให้อีกเหมือนเดิมว่า Ginza กินซ่า

  • เดินทางสะดวกมาก มีรถไฟหลายสายตัดผ่าน เข้าสู่สถานีดังได้เพียบโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน
  • ช็อปปิ้งครบ แบรนด์เนม ห้าง ร้านดังๆ อยู่ที่นี่
  • ปลอดภัย ย่านนี้ไฮโซหน่อยรับรองว่าดึกๆแล้วก็ยังปลอดภัย
  • อาหารอร่อย คือลองกินย่านนี้หลายร้าน งานดีมาก โซบะ ราเม็ง ราคาเท่าย่านอื่น แต่แบบเฮ้ย กินซ่านะ เท่สุด
  • ร้านสะดวกซื้อครบ ดึกแค่ไหนเราก็กินได้ มินิมาร์ทมีตลอดจ้า

โรงแรมเราขอแนะนำ Mercure Ginza คือเป็นโรงแรมดังในย่านดัง มาตรฐานงานดี ห้องใหญ่ ห้องน้ำสะอาด แถมอยู่ในเครือ Accor Hotels อีกต่างหาก สะสมแต้มได้ รับสิทธิพิเศษเยอะ แต่ที่พีคสุดๆๆๆ คือ โรงแรมนี้มีสถานีรถไฟใต้ดินอยู่ข้างล่าง คือเดินทะลุได้เลย ประหยัดเวลา เดินทางสะดวก ราคาสมฐานะ

**เอาจริงเมื่อเดินทางเยอะ ยิ่งแก่แล้ว เราควรพักที่ดีๆ มาก เดี๋ยวนี้แทบไม่นอน Hostel เลย T-T รู้สึกว่าที่พักเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นตัวขั้นสุด แค่ได้นอนโรงแรม รู้สึกชีวิตดีขึ้นมาทันที เราคงแก่แล้วจริงๆ

สามารถจองที่พัก อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mercure.com/gb/hotel-5701-mercure-tokyo-ginza/index.shtml


แลกเงินไปต่างแดน

อันนี้ก็หัวข้อพื้นฐาน ก็ไม่มีอะไรมาก ก็ไปร้านแลกเงินค่ะ (ซึ่งราคาจะถูกกว่าเรตจากธนาคารหรือสนามบิน) ร้านดังๆ ก็ SuperRich สีส้ม หรือพวกร้านตามสะพานควาย หรือจุดรับแลกเงินทั่วไป ตาม BTS ก็มีของ SuperRich เช่นกัน ค่ะ

01


เมื่อเตรียมตัวครบหมดแล้ว ได้เวลามาทำความรู้จักเทศกาลดนตรี Summer Sonic กันเลย !!

Summer Sonic คืออะไร

เป็นงานคอนเสิร์ตใหญ่ระดับโลก จัดขึ้นทุกปีที่ญี่ปุ่น มี 2 เมือง คือ โตเกียวและโอซาก้าพร้อมกัน นักร้องนักดนตรีก็จะสลับกันไป เช่น วันเสาร์อยู่โตเกียว วันอาทิตย์อยู่โอซาก้า คนดูก็สามารถเลือกได้ว่าจะซื้อบัตรแบบไหน มีตั้งแต่เข้า 2 วัน เข้าที่เมืองไหน หรือจะเป็น VIP จะได้ที่นั่งพิเศษอะไรแบบนี้

สามารถดูรายละเอียดของงานได้ที่ http://www.summersonic.com/2016/

** นอกจาก Summer Sonic จะเป็นเทศกาลใหญ่แล้ว ยังมี Fuji Rock ที่ใหญ่พอกัน อันนี้ก็น่าไปจ้ะ

บัตรราคา 6,000-7,000 เยน / 1 วัน งานนี้ไม่ได้มาเล่น วงดนตรีมาเยอะมาก เช่น Radiohead, Two Door Cinema Club, James Bay, Mark Ronson, The 1975, The Jacksons และอีกเยอะมาก สามารถดู Line Up กันได้ที่เว็บไซต์ค่ะ


การซื้อบัตร

  • สามารถซื้อบัตรออนไลน์
  • ฝากเพื่อนซื้อได้ตามมินิมาร์ทชั้นนำ อารมณ์เหมือนจองเข้ามิวเซียมเป๊ะเลย
  • ตั๋วผีหน้างาน (คนขายจะอารมณ์ซื้อมาเยอะ หน้าตาออกยากูซ่านิดๆ แต่เค้าไม่โกงนะ) ราคาก็จะอัพขึ้นประมาณ 8,000-9,000 เยน

เมื่อได้บัตรแล้ว ต้องเอาบัตรไปขึ้นเป็น Wrist Band สายคล้องมือเพื่อเข้างาน จะเป็นผ้ามันๆ สีก็จะแบ่งตามบัตรที่เราซื้อไป ถือเป็นอันเข้างานได้


กฎของงาน

งานนี้ต้องอ่านกฎระเบียบให้ดี เหมือนไปขึ้นเครื่องบินเลย เรื่องหลักๆ ก็คือ

  • ห้ามเอากล้องถ่ายรูปใหญ่เข้าไป กรณีไม่ได้เป็นทีมงานเพื่อขอถ่ายทำ แต่พวกกล้องเล็ก mirrorless มือถือ ได้
  • ห้ามเอากระป๋องเข้าไป พวกกระป๋องเบียร์ น้ำอัดลม ห้าม
  • อาวุธ / สิ่งที่รบกวนคนอื่น ปืน ไม้ แท่งเหล็ก ห้าม พวกเสื่อ กางเตนท์ ห้ามนะจ๊ะ


การเดินทางไป Summer Sonic

บอกตามตรงว่าเราแทบไม่เคยไปงานดนตรีมาก่อนเลย ดังนั้นปีก่อนๆ เค้าจัดที่ไหนก็ยังไม่รู้ แต่ปีนี้เข้าไปดูในเว็บไซต์ เค้าจัดงานที่ The QVC Marine Field และโซนใกล้ๆ อยู่ที่เมือง Chiba แถวๆ สนามบินนาริตะ นั่งรถไฟออกจากโตเกียวไปไม่ไกลมาก

การเดินทางไม่ยาก มีรถไฟเข้าถึง สามารถไปซื้อตั๋วสดๆ หน้าสถานี นั่งกันไม่นาน เส้นเดียวกับดิสนีย์แลนด์ ก็จะถึงสถานี kaihin makuhari station ที่เป็นจุดจัดงาน เปิด google ตามไปได้ค่ะ

สถานที่จัดงาน เป็นเหมือนศูนย์แสดงใหญ่มาก คิดภาพคือ เมืองทองธานี ทั้ง Impact Arena, Thunder Dome และ Hall ต่างๆ กินพื้นที่ไปยังข้างนอก ทั้งหมดคืองาน Summer Sonic แถมแถบนี้ติดทะเลด้วย เค้าก็มีจัดเวทีริมชายหาดด้วยนะ เก๋มากจริงๆ


การเดินทางภายในงาน

ด้วยความที่พื้นที่ทั้งงานใหญ่มาก จะเดินทางทีก็เดินได้ (แต่ไกลมาก) เค้าก็จะมีจัดรถรับส่งให้ด้วย ก็รอคิวกันไปค่ะ หรือไม่อยากรอก็เดินเอา แต่ร้อนมากกก


Inside Summer Sonic

ในงาน Summer Sonic ประกอบไปด้วย 7 เวทีค่ะ เราก็ต้องดูและวางแผนไว้ว่าวงที่เราชอบนั้น เล่นที่ไหน ก็ต้องรีบไปดูให้ทัน เหมือนเข้าสวนสนุกที่ต้องเก็บให้ครบทุกเครื่องเล่นอะ

รายละเอียดครบ ข้อมูลปึ้ก ปีหน้าไม่พลาดแน่ๆ เรามาดูงานปีนี้กัน นี่คือวงที่พวกเราได้มีโอกาสดู (อันไหนพลาดก็ไม่มีภาพให้ดูนะ T-T)


Two Door Cinema Club

บอกตามตรงอีกแล้วว่าพวกเราชอบฟังเพลงแต่ก็แบบไม่ได้จดจำรายละเอียดได้สักเท่าไหร่ อันนี้คอดนตรีมาเสริมกันได้นะคะ วงนี้เล่นตอนบ่ายที่ Marine Stage เป็นเหมือนสนามกีฬาขนาดยักษ์ จะลงไปดูข้างล่างหรือจะนั่งชมที่อัฒจรรย์ก็ได้ เอาที่สบายใจ

นักร้องขึ้นมา ทุกคนกรี๊ดแตกมาก ร้องเพลงตามกันอย่างชิวๆ อากาศร้อนมาก แต่ก็ยังรักที่จะดู

สรุปว่า เค้าเล่นเพลงดังที่เราพอรู้จักอยู่บ้างนะ แต่ชอบบรรยากาศที่คนมาออกัน แต่ด้วยความเป็นญี่ปุ่นคือเป็นระเบียบมาก และยืนทิ้งระยะกันไม่อึดอัด พวกเราดูได้ไม่จบก็จะวนกลับไปดูคนอื่นต่อที่อีกฮอลล์นึง


James Bay

นักร้องคนนี้เราเพิ่งรู้จัก เพราะน้องที่ออฟฟิศบอกว่าดีมาก จงไปฟัง สรุปฟังแล้วก็ชอบสไตล์เค้า แต่ก็ไม่ได้รู้จักดี แต่ก็ไปฟังเค้านะ สิ่งที่ชอบคือ เวทีแสงสีเสียงภาพประกอบตัวเค้าด้านหลัง คือเท่ดี และสไตล์เพลงเค้าชอบนะ เราว่าต้องฟังให้เยอะกว่านี้จะได้อินมากขึ้น


Mark Ronson

เรายกให้คนนี้เป็นคนที่ Performance ได้ดีมาก คือก็ไม่รู้จักอยู่ดี แต่พี่ในทีมบอกว่าเค้าเป็น DJ และเพลงดังคือที่ร้องกับ Bruno Mars ก็เลนเดินมาฟัง สรุปคือมันส์มากกกก แสงสีเสียงดื้ดเหมือนอยู่ผับ ยิงเลเซอร์กันแบบสะใจสุด แถมมิกซ์เพลงได้แบบ เออเพลงนี้เคยได้ยินอะไรแบบนี้ สนุกดี


Radiohead

พักเหนื่อยจากแดนซ์สุดมันส์ เราก็มาถึงวงที่พีคที่สุดของงาน คือแค่ยังไม่ได้แสดง คิวนี่ยาวเหยียดดดคนมาดูเพียบ เรานี่ลงไปข้างล่างยืนข้างหน้าเลย จอที่ถ่ายให้ดูก็แบบเหมือนทำ mv สดๆ กันตรงนั้น (พี่ทีมถ่ายทำบอกเจ๋งมาก รู้สึกเป็นบุญตา) วงนี้เหมือนโชว์งานอาร์ต ภาพสวย อินเนอร์มาเต็ม เอาจริงเราก็เคยฟังอยู่บ้างแต่ยังไม่ได้ยินเพลงที่รู้จักเลย แต่ขาดนตรีทุกคนบอกว่า โคตรของโคตรดี ดังนั้นก็รู้สึกดีไปด้วยที่ได้มายืนอยู่จุดนี้


The 1975

จากสเตเดียมใหญ่ เราวนกลับมาที่ฮอลล์มีแอร์ มาดูวงนี้ เพราะก็ชอบสไตล์เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้รู้จักดีนักเหมือนเดิม เค้าก็เล่นเพลงที่เรารู้จักเยอะอยู่ กับเวทีที่ถ่ายยังไงก็สวย สรุปว่างานดี


นอกจากนี้ยังมีวงอื่นๆ ที่จัดในงานและเราพลาดแต่พี่ๆ ทีมงานไม่พลาดเช่น Suede, Flo Rida, Elle King และวงญี่ปุ่นอีกมากมาย (ดูตาราง Line Up ได้ที่ http://www.summersonic.com/2016/timetable/tokyo0820.html)


Activities

นอกจากวงดังแล้ว งานนี้สิ่งที่เราชอบคือ กิจกรรมมันเยอะดี แบบเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อนเยอะมาก ตั้งแต่ มาหน้าร้อนญี่ปุ่น ทุกคนพร้อมใจกันโพกหัว ใส่เสื้อกล้าม คือเตรียมร้อนเต็มที่ มาดูแค่นี้ก็สนุกละ

ช็อปปิ้ง — มีขายของที่ระลึกในงานเยอะมาก ผ้าเช็ดหัว พวงกุญแจ เสื้อยืด (ที่ขายดีมาก ซื้อไม่ทัน) เราก็ไปกดกาชาปองสำหรับงานนี้มาด้วย ตลกดี

อาหารการกิน — โชคดีมากที่งานนี้จัดขึ้นที่ญี่ปุ่น ทุกอย่างผ่านการคิด เป็นระเบียบสุดๆ อาหารก็สามารถเอาเข้าไปได้เอง หรือจะไปซื้อกินในงานก็ได้ มีพวก ยากิโซบะ ราเม็ง ของทอด เครื่องดื่มเบียร์ นู่นนี่

อากาศร้อนๆ ก็ไปกินน้ำแข็งไส หรือ ไอติมหลอดก็ได้ คือดีมากกก เกิดมาไม่เคยกิน มีแถมถุงน้ำแข็งด้วย สรุปพวกเรา 3 คนฟินกับของกินในงานมาก (มาดูคอนเสิร์ตหรือมากิน)

ออกบูธ — คือบูธสปอนเซอร์ของงานนี่แหละ พวกเบียร์ เครื่องเสียง ก็ถือว่าไปเดินชมได้ หรือจะไปร่วมเล่นเกมส์กิจกรรมกับเค้า คือสนุกนะ ไม่ใช่กิจกรรมน่าเบื่อๆ สรุปว่า เดินเอาสนุกดีเลยหล่ะ


กิจกรรมพิเศษ — ในฮอลล์ไม่ใช่แค่มีวงดนตรีอย่างเดียว ยังมีกิจกรรมแปลกๆ เช่น

โชว์ตลกเดี่ยว แบบมีคนขึ้นมาพูดตลก คนก็นั่งฟังกัน พักเหนื่อยด้วยความบันเทิงดีมาก

Silent Disco — อันนี้เราชอบมากกกกก คือทุกคนใส่เฮดโฟนและมีดีเจสองคนมิกซ์เพลงอยู่ ทุกคนก็เต้นกันไปในโซน แต่มองออกมาข้างนอกคือเงียบ.. แบบทำอะไรกัน ดีมากๆ แบบไม่รบกวนและเท่สุดๆ ประทับใจอันนี้


นี่คือรายละเอียดภายในงานที่เราไปพบเจอมา คิดว่าให้ข้อมูลเพื่อนๆที่สนใจได้เยอะมาก (เพราะไม่มีใครรีวิวเลย 55) รับรองว่าถ้าชอบจริงๆ ปีหน้าห้ามพลาด มาเที่ยวงาน Music Festival ที่ต่างประเทศดูบ้าง แปลกใหม่และบรรยากาศโคตรดีจริงๆ

Tags Cloud

แชร์เนื้อหา
Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest