ฟิลิปปินส์ — สวัสดีกันอีกเช่นเคย รอบนี้เราจะพาไปเที่ยวทะเลระดับ World-Class ที่อยู่ใกล้ๆไทยซึ่งอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ ที่ เอลนิโด (El Nido) บนเกาะปาลาวัน (Palawan Island) รับรองความน้ำใสเลยแถมได้แวะเที่ยวเมืองเก่า Intramuros ในมะนิลา ที่มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจให้ถ่ายรูปเพียบ !!!
รีวิวนี้เราขอเรียกว่าเป็นภาคต่อของรีวิวแบบห่างมานานมากกกกก จากทริปที่แล้ว CEBU, Philippines — Whale Shark Watching ที่มา เซบูแล้วติดใจความน้ำใส เที่ยวง่าย รอบนี้เลยขอกลับมาอีกแต่เปลี่ยนไปเป็นเกาะ Palawan เอาจริง ถ้าเป็นสายทะเลต้องเคยได้ยินชื่อนี้บ้างอะ เพราะมันดังมาก เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยวอาเซียนประเทศเดิมแต่ความรู้สึกใหม่ ที่เที่ยวใหม่ซึ่งเที่ยวได้ไม่มีหมดจริงๆ แถมจุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้คือ เอลนิโด (El Nido) ยังเป็น Destination ระดับโลกที่ไม่ไกลประเทศไทยเลยและน่าไปค้นหามากกกกก โดยในความดังของ Palawan แบ่งออกเป็น 2 ที่หลักนะ ที่แรกคือที่เรากำลังไปคือ เอลนิโด เป็นเมืองไม่ใหญ่ตอนเหนือสุดของเกาะปาลาวันที่มีรูปร่างยาวๆ ส่วนอีกที่คือเกาะโครอน (Coron) ที่อยู่แยกออกไปทางตอนเหนือขึ้นไป
แพลนการเดินทางคร่าวๆ คือเราเดินทางช่วงปลายเดือนพฤษภาคม รวม 5 วัน 5 คืน !
วันที่ 1 : เดินทางสู่ทะเลระดับโลก !
21.30-01.45 บินจากกรุงเทพฯ ดอนเมือง (DMK) ไปลงมะนิลา (MNL)
05.45-07.10 ต่อเครื่องจาก MNL ไปลงเมือง Puerto Princesa (PPS)
08.00-13.00 นั่งรถตู้จากสนามบินไปที่ เอล นิโด
ตอนเย็นหลังจากพักเหนื่อยไปดูพระอาทิตย์ตก
วันที่ 2-3 : เที่ยวอยู่ใน El Nido ทั้งเที่ยวดำน้ำแบบสนอกเกิ้ลและสคูบ้า
วันที่ 4 : เดินทางกลับมาและแวะเที่ยว Puerto Princesa
19.40-21.00 บินกลับมะนิลารอบเย็น
วันที่ 5 : เที่ยวในตัวเมืองเก่ามะนิลา – Intramuros
18.10-20.50 บินกลับกรุงเทพฯ
DAY 1 : วันแห่งการเดินทาง วิวสองข้างหน้าต่างเครื่องบินและบนบก
รอบนี้เราบินจากกรุงเทพฯไปฟิลิปปินส์กับแอร์เอเชียจ้า โดยมีบินตรงจากดอนเมืองไปลงมะนิลาแล้วต่อเครื่องไปยังปาลาวันได้สบายเลย โดยขาไปบินช่วงกลางคืน โดยไปถึงมะนิลาดึกๆ ใช้เวลาบิน 4 ชม. (ฟิลิปปินส์เวลาเร็วกว่าไทย 1 ชม.) แต่ทีเด็ดคือ เที่ยวบินตอนเช้าที่บินไปลงเกาะปาลาวัน ลงสนามบินชื่อ Puerto Princesa อ่าน เปรโด ปริ้นเซซ่า รู้สึกเป็นเจ้าหญิงมากแม่ 55555 ที่เลือกบินเช้าเพราะจะได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นบนเครื่อง!!! วิวจากข้างหน้าต่างคือห้ามพลาดเด็ดขาด
ปล เที่ยวบิน DMK-MNL : มีทุกวัน วันละรอบเวลาเดียวกันคือ 21.30-01.45 // เที่ยวบิน MNL-PPS : มีทุกวันวันละหลายรอบ! เลือกเวลากันตามสบายแต่เราเลือก 05.45-07.10 นะจ้ะ ใครสนใจ
- จองได้เลยที่ https://www.airasia.com/booking/home/th/th
จากนั้นก็ต่อรถตู้จากสนามบินไป เอลนิโด ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม.ในราคา 300 บาท มีแวะระหว่างทางให้กินข้าวเข้าห้องน้ำ แต่เส้นทางมีโค้งเยอะพอสมควรแถมพี่คนขับเหมือนไม่รู้จักการเบรก คนนั่งนี่ก็เหวี่ยงซ้ายขวาไปจ้า แต่ถ้าทนๆหน่อยจะเห็นวิวข้างทางทั้งบกและทะเลเป็นระยะๆ โดยการเที่ยวเองแบบในทริปนี้จะเหมาะกับแก๊งเพื่อน วัยรุ่นสายลุยๆหน่อยที่เดินทางไปเที่ยวกันเองก็ตามรอยเราไปเลย ไม่ยากๆ โดยเค้าจะมาส่งเราที่ท่ารถกลางเมืองซึ่งขากลับก็เดินทางจากที่นี่เช่นกัน แล้วต่อรถสามล้อไปรร.ราคาประมาณ 100 เปโซถ้าไม่ไกลมาก คิดเงินที่นี่ง่ายๆเอา 0.6 คูณเข้าไปเลย
01 Las Cabanas Beach
พักให้หายเหนื่อยจากกการเดินทางอย่างยาวนาน ก็นั่งรถไปดูพระอาทิตย์ตกกัน ที่ที่ไปเรียกว่า Las Cabanas Beach เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกขึ้นชื่อของที่นี่ นั่งรถไป 150 เปโซต่อเที่ยว ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
ตอนที่ท้องฟ้าระเบิดเป็นสีชมพูไปแล้ว สวยมากกกก
ทริคคือกะเวลาไปก่อนพระอาทิตย์อย่างน้อยครึ่งชม. จะได้ชมบรรยากาศรอบๆ แถวนี้มี Zip line ข้ามไปเกาะเล็กๆให้เล่นด้วยนะ
DAY 2 – ออกไปเจอทะเล !
วันนี้เราเลือกซื้อทริปแบบวันเดย์ โดยเลือกเป็น Tour C ซึ่งเน้นทะเลและสนอกเกิ้ล แต่อีกทัวร์ที่ดังคือ Tour A ที่จะไปพวกลากูนต่างๆเป็นจุดถ่ายรูป แต่ด้วยเวลาจำกัดก็ขอลองเลือกมา 1 อันก่อนเพราะอีกวันเราจะไปดำน้ำลึกสคูบ้าแทน โดยที่นี่จะมีทั้งหมด 4 ทัวร์ด้วยกันแบ่งเป็น A,B,C,D จะมีชื่อสถานที่เที่ยวพร้อมรูปคร่าวๆให้ดู โดยเป็นการจัดการของรัฐบาลที่เหมือนกันคือเราจะต้องเสียค่าเข้า 200 เปโซ แต่เก็บใบเสร็จนี้ไว้ได้จ่ายแค่ครั้งเดียวต่อ 10 วัน
ทัวร์ก็จะรวมอาหารหลางวัน น้ำดื่ม คนเรือต่างๆ โดยเอกลักษณ์ของที่นี่เด่นๆคือ เรือที่มีขาออกไปเหมือนแมงมุมที่จะช่วยทั้งเรื่องบาลานซ์และลดแรงคลื่นได้ดี แถมตากผ้าได้ด้วยนะ 🙂
02 Helicopter Island
จุดแรกที่แวะ เกาะนี้ชื่อ เกาะเฮลิคอปเตอร์ แต่พวกเรามองว่ามันเหมือนน่องไก่ สงสัยจะหิว เป็นจุดที่น้ำใสมากกกและดำน้ำตื้นได้ดีเลยนะ มีทุ่งประการังระดับนึงเลย แต่ต้องระวังพวกไรทะเล เพราะถ้าว่ายไปแล้วจี๊ดๆเหมือนหมดกัด รีบว่ายหนีเลย ไม่งั้นจะขึ้นจดแดงๆ ป้องกันง่ายๆเบื้องต้นด้วยการใส่เสื้อ กางเกงว่ายน้ำที่ปกปิดหรือทาครีมกันแดด มันจะไม่ค่อยเข้ามา
03 Hidden Beach
หาดเล็กๆ ที่ต้องว่ายผ่านช่องเขาเข้าไป แต่ตอนที่เราไปนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะเลยอะ แต่น้ำใสอยู่นะก็แบ่งๆ กันหามุมถ่ายรูป
04 Tapiutan Beach
จุดแวะทานข้าวกลางวัน แต่ก็มีจุดถ่ายรูปเด็ดๆให้ไปโพสต์ไอจีชอตบนโขดหินเก๋ๆ นะ
ส่วนตัวชอบท้องฟ้าและแนวภูเขาที่นี่มากกกกก แถมสีน้ำฟิลิปปินส์คือมีหลายสีมาก ตั้งแต่ฟ้าใส ฟ้าอมเขียวไปจนถึงน้ำเงินเข้มๆ มองเพลินมากกก ส่วนแนวปะการังต่างๆ ก็ค่อนข้างสมบูรณ์ แต่จะกระจายในหลายๆจุดให้แวะไปดำน้ำดูปลากันได้ง่ายๆเลยในวันเดียว
Day 3 – ทะเลแบบลึกๆ ไปดำ Scuba กัน!
วันนี้รูปอาจจะน้อยหน่อยแบบดื่มด่ำกับการดำน้ำมากไป ลืมถ่าย 55555 เอาเป็นว่าเราเลือกแบบ 3 Dives ต่อ 1 วัน รวม Review หรือ Refresh ที่เป็นการทวนสกิลและเรื่องสำคัญต่างๆโดยต้องทำถ้าไม่ได้ดำน้ำนานเกิน 6 เดือน ราคาคนละ 5000 เปโซ รวมอุปกรณ์ทั้งหมด ไดฟ์มาสเตอร์และอาหารกลางวัน
อ้อ! แต่ก่อนมาดำเราต้องมี License : Open Water เป็นอย่างน้อยนะ ไม่งั้นก็จะเป็นเชิง Discovery เฉยๆ ลองเลือกจาก Dive Shop หน้าหาดเอลนิโดร้านไหนดูน่าเชื่อถือ ถูกจริตก็ตกลงไปเพราะเรทราคาค่อนข้างมาตรฐานเท่าๆกันทุกร้านอยู่แล้ว
05 Scuba Diving – North Rock
โชคดีของวันนี้คือแม้ว่าเมื่อวานตอนเย็นจะฝนตก วันนี้จะฟ้าครึ้มๆ แต่ใต้น้ำใสมากจ้าาาาาาา ดีใจ
เราไปดำ 3 จุดด้วยกันคือ Paradise Beach , North Rock และ Nat Nat ขอเน้นเป็นการเล่าแทน จุดแรก Paradise Beach เจอเต่าประเดิมหลังจากทวนสกิลเลยจ้าาาา โชคดีแต่เช้า **บางรูปที่ไม่ชัดหรือภาพค่อนข้างแตก เราใช้กล้องฟิล์มลงไปถ่ายใต้น้ำน้า เนื่องจากความมืด ความลึกทำให้มันค่อนข้างสั่นและนอยต์แตก แต่ภาพออกมาก็จะมู้ดต่างจากพวกโกโปร
จุดที่ 2 North Rock อยากจะร้องไห้ที่ไม่ได้เอาเสี่ยวมี่ โกโปรลงไป แบบมันดีมากกกกกกกก สวยที่สุดตั้งแต่ดำมา Landscape หรือสภาพภูมิทัศน์ใต้น้ำเริ่มจากเป็น Reef Wall มีช่องเขาให้มุดว่าย แถมทุ่งประการังที่ขึ้นสูงต่ำกันแบบสวยมากกกก ฝูงปลาก็มา แถมสัตว์ทะเลเยอะมาก กระเบนลายจุดสีฟ้า ปักเป้ายักษ์ ปลาหมึกยักษ์ที่แอบใต้แผงปะการัง
จุดสุดท้าย Nat Nat ไล่ระดับจากเนินทรายลงไป สวยดี เจอกระเบนอีกแล้ว และจุดนี้น่าจะเน้นพวกส่องเจ้าตัวจิ๋วตามทรายพวกนูดี้ ปลากบ ก็ฟินกันไป
ขอย้ำอีกทีว่ารูปที่ได้ส่วนใหญ่มาจากไดฟ์สุดท้ายที่เอาเสี่ยวมี่ลงไป แต่ของจริงสวยกว่ามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อันนี้ขอบอกว่าเด็ดจริงเจ้า North Rock
06 El Nido Downtown
เราพักในย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองเลย มีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกเต็มไปหมด แถมหน้าหาดก็ขึ้นเรือไปทั้งทริปดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก ตัวเมืองมีถนนเส้นหลักคือถนนที่ขนานกับชายหาด สองข้างทางเป็นร้านค้า และเหล่าสามล้อที่รอให้บริการ แต่ถ้าเดินทะลุตึกร้านรวง จะเจอชายหาด ที่สวยทั้งตอนเช้าและตอนเย็นเลยนะ เป็นอีกหนึ่งที่ใกล้ๆ ที่ใช้นอนพักผ่อนได้ตามสบายเลย
Day 4 – เที่ยว Puerto Princesa ครึ่งวัน
จริงๆที่เที่ยวหลักที่ใกล้เมืองนี้คือ Underground River ที่เป็นระดับยูเนสโก แต่ต้องใช้เวลาเที่ยวทั้งวัน เราเลยอดไป ได้แค่แวะไปเที่ยวในตัวเมืองและนั่งเล่นสนามบินเท่านั้นเอง
07 PPS, Bay Walk Park
เดินเล่นสักหน่อย นั่งสามล้อมาจากโรงแรม 80 เปโซเอง แต่ระวังความร้อน เอาหมวกมาด้วย
จะได้วิวท่าเรือและท้องฟ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา ควรมายามเย็นบรรยากาศน่าจะชิลล์กว่านี้ แต่เดินต่อไปอีกนิดจะเจอโบสถ์ Immaculate Conception ก็เข้าไปแวะพักเย็นๆ ได้
Day 5 – Manila, มะนิลาเดย์ทริป
หากใครยังไม่เคยมาโดนมะนิลาคงต้องลองมาเจอสักครั้ง เมืองที่ขึ้นชื่อว่า รถติดไม่แพ้กรุงเทพฯ ที่เราควรหลีกเลี่ยงช่วง Rush Hour แต่ผ่านมาหลายปีคิดว่าถนนทำดีขึ้นเยอะนะ ไม่ติดมาก รอบนี้มีเวลาเที่ยว 1 วัน โดยจุดเด่นของมะนิลาคือเป็นเมืองที่มีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกกับตะวันออกโดยได้รับอิทธิพลอย่างมากจากประเทศสเปนในช่วงที่ตกอยู่ในอาณานิคม ซึ่งส่งผลทั้งวัฒนธรรมภาษาและสถาปัตยกรรมที่เห็นได้อย่างเด่นชัดในเมืองเก่าที่เรากำลังจะไปเที่ยวกัน
08 Intramuros เมืองภายในกำแพงแห่งประวัติศาสตร์
ตัวเมืองเก่าหรือ Intramuros อ่าน อินทรามูรอส ตามตัวเลย มีกำแพงเมืองล้อมรอบอยู่ ด้านในมีสถานที่เที่ยวกระจุกตัวค่อนข้างเยอะ เน้นไปทางสถานที่สำคัญ โบสถ์และป้อมใช้การเดินหรือปั่นจักรยานในนี้เป็นหลัก ใครมามะนิลาต้องแวะมานะ !!! ที่เที่ยวสำคัญๆ เราลิสต์มาให้แล้ว
- City Wall อยู่ตามขอบเมืองเก่า แวะเข้าไปดูและถ่ายรูปได้ แมวน่ารักเพียบ
- Casa Manila – สวย แต่ด้านในห้ามถ่ายรูป ลงมาถ่ายบริเวณคอร์ทและสวนที่ทำเป็นคาเฟ่ชื่อ Barbaras แทน จุดถ่ายรูปเพียบ แวะพักดับร้อนได้ดีมากก
- St.Agustin Church – โบสถ์ขนาดใหญ่กลางเมือง วันที่เราไปตัวโบสถ์ปิด แต่มีส่วนที่จัดแสดงงานศิลปะที่เดินชมได้ 2 ชม. (มีค่าเข้าชมและงดถ่ายรูปภายในบางส่วน)
- Plaza de Roma & Manila Cathedral – ลานกลางเมืองเก่า แวะเข้าโบสถ์ชมความงามด้านในและพักดับร้อนใต้ร่มไม้
- Fort Santiago – ป้อมปลายสุดชมวิวริมแม่น้ำ Pasig ผ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ (มีค่าเข้าชม 70 เปโซ)
- Silahis Arts & Artifacts เป็นร้านขายของที่ระลึกที่ใหญ่มากกก อยู่บนถนนเส้นหลักข้างในมีงานคราฟต์ งานไม้ ของกระจุ๊กกระจิ๊กให้เข้าไปชมเพียบ
สรุปงบประมาณ : รวม 17,500 บาท+
ค่าเดินทาง : ตั๋วเครื่องบิน (4 ไฟล์ท) + การเดินทางภายใน : 11,000 บาท
ค่าที่พัก 4 คืน รวมแล้ว : 3,500 บาท
ค่าอาหาร : เฉลี่ยประมาณมื้อละ 100-150 บาท : 2,000 บาท
ค่าแพคเกจเที่ยว ทัวร์ C (1,600 Peso) : 960 บาท
ค่าดำน้ำ (อันนี้แล้วแต่คน) : (3,000 บาท)
แนะนำ :
1. การเดินทางในเมือง
หากต้องการความสะดวกสบาย อยากแนะนำให้ใช้แอพ Grab ในมือถือในการเรียกรถถ้าต้องเดินทางในมะนิลา เพราะรวดเร็วและน่าเชื่อถือกว่าแท๊กซี่ธรรมดา ราคาก็แน่นอนไม่แพงเลยนะ หรืออีกทางก็จะเป็นการใช้รถไฟฟ้าแต่ในมะนิลายังค่อนข้างจำกัดเพราะมีเส้นทางไม่ได้เยอะมาก
2.สนามบิน
ฟิลิปปินส์มีสนามบินทั้งหมด 4 Terminal หลักๆคือ Terminal 3 ที่เป็น International Airport จะใหญ่และใหม่ที่สุด ส่วนเทอมินัลอื่นเป็นบินในประเทศ ค่อนข้างเล็ก แบบเล็กมากกเมื่อเทียบกับประชากรที่ใช้งาน รอบนี้เราบินกับแอร์เอเชียใช้เทอมินัล 4 ในการบินภายในประเทศจ้ะ อ้อ เค้ามีบัสเชื่อมจาก Terminal 3 ไปเทอมินัลอื่นนะแต่เปิด 6 โมง เราเลยใช้แกร๊บเดินทางระหว่างสนามบินจ้า
3. รถสามล้อ
ต้องลอง 555 เป็นการเอามอเตอร์ไซต์มาเติมข้างเป็นที่นั่ง นิยมมากตามเกาะต่างจังหวัดใน ฟิลิปปินส์
เราชอบทั้งบรรยากาศทะเลและความเป็นหมู่เกาะต่างจังหวัดของที่นี่ รวมไปถึงการเที่ยวเมืองเก่าที่มีการผสมผสานของวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก ซึ่งเราสามารถเที่ยวได้ในทริปเดียวกันเลยถ้ามาฟิลิปปินส์ก็ฟินอย่าบอกใคร แถมช่วงวันหยุดสั้นๆก็ไปได้ ลองออกไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนของเรากัน เพราะแม้ว่าเป็นการเที่ยวรอบที่ 2 ก็ยังมีที่เที่ยวให้ออกตามหาแได้ไม่หมดจริงๆ
อย่าลืม !! เที่ยวมะนิลา, ปาลาวัน ฟิลิปปินส์ ด้วย AirAsia บินตรงจากไทยราคาประหยัด รับรองว่าทะเลใสมาก มายังไงก็ไม่ผิดหวัง.
ถ้าใครตามรอยเราอย่าลืมเอารูปมาฝากกันบ้างนะ
#AirAsiaTravels #ไปมะนิลาไปกับแอร์เอเชีย #อาเซียนเที่ยวได้ไม่มีหมด
