เที่ยวปักกิ่ง 2023
ข่าวดีสำหรับคนรักจีนตอนนี้ก็คือ ตอนนี้จีนกลับมาเปิดประเทศ เปิดวีซ่าท่องเที่ยวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากปิดประเทศในช่วงโควิดไป 3 ปีเต็มๆ กลับไปครั้งนี้เราเลือกไป ปักกิ่ง (Beijing) ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่มีทุกอย่างให้เที่ยวครบ ทั้งพระราชวังต้องห้าม และกำแพงเมืองจีนสุดยิ่งใหญ่ ย่านอาร์ตๆ ที่มีทั้งคาเฟ่สวยเอย แกลอรี่เอย เปิดใหม่เพียบ เดินเที่ยวกันได้แบบไม่มีเบื่อเลยทีเดียว
การกลับไป เที่ยวปักกิ่ง ครั้งนี้ ค่อนข้างว้าวกับหลายๆ อย่างมาก ทั้งเรื่องการเดินทางที่สะดวกสบาย ทางเดินเท้าที่ร่มรื่น City Walk สนุก การสแกนจ่ายเงินด้วย Alipay ก็แสนง่ายดายอีกด้วย แถมตอนนี้ร้านสตรีทฟู้ดต่างๆ ถูกจัดระเบียบใหม่ ดูสะอาดและเรียบร้อยมากกว่าเดิม บอกเลยว่าต้องลบภาพจำการจีนที่คนบอกเที่ยวยากบ้าง ไม่ทันสมัยบ้าง แพงบ้างไปให้หมดเลยล่ะ
เราเดินทางไปกับสายการบิน Air Asia บินตรงจาก สนามบินเชียงใหม่ (CNX) สู่ ท่าอากาศยาน ปักกิ่ง ต้าซิง (PKX) นั่งแปปๆ หลับเพลินๆ 5 ชั่วโมง 45 นาที ก็ถึงสนามบิน Beijing Daxing สะดวกมาก ไม่ต้องไปต่อเครื่องให้วุ่นวาย
FD 600
เชียงใหม่ (CNX) – ปักกิ่ง ต้าซิง (PKX)
23:15 – 04:40
กดจองตั๋วเครื่องบินได้ที่: https://www.airasia.com/en/gb
การเตรียมตัวก่อนไปจีน
เที่ยวจีนเที่ยวไม่ยาก แค่ต้องเตรียมตัว กับทำข้อมูลเยอะหน่อย
(1) ทำ Visa จีน
หลังจากจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรมเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ต้องทำ วีซ่า ท่องเที่ยว
วิธีทำ Visa จีน แบบ Step by Steps
เช็คราคาค่าธรรมเนียม
(2) QR Health Declare
อีกหนึ่งสิ่งที่นักท่องเที่ยวจะต้องทำทุกคนก็คือ การกรอกข้อมูลคัดกรองสุขภาพ ทั้งขาเข้า และขาออกทุกครั้ง โดยใส่ข้อมูลตามจริง ทั้งไฟล์ทบิน ที่อยู่โรงแรม อยู่กี่วัน ไปเมือองไหนบ้าง และกลุ่มอาการผิดปกติที่มี เช่น เจ็บคอ ไอ (ถ้ามี) จากนั้นจะได้ QR Code มา ให้แคปรูปเอาไว้โชว์เจ้าหน้าที่ตอนถึงสนามบิน ก่อนเข้าตม.
Link: https://htdecl.chinaport.gov.cn/htdeclweb/home/pages/healthDeclare/declare.html
ปล. กลุ่มอาการเสี่ยงให้ใส่ตามจริงนะ เพราะพอถึงสนามบินเขาจะมีเจ้าหน้าที่มาคอยสุ่มตรวจด้วย
(3) ผูกบัตรเครดิตกับ Alipay
ตอนนี้ทุกการใช้จ่ายในปักกิ่ง สามารถใช้แอพ Alipay สแกนได้หมด บางร้านไม่รับเงินสดด้วยนะ ล่าสุดก็สามารถผูกกับบัญชีไทยได้แล้ว ทำให้สะดวก และ เที่ยวปักกิ่ง ง่ายมากขึ้นเยอะเลย
วิธีผูกบัตรเครดิตกับ Alipay
(4) แอพที่ควรมีติดเครื่อง
แอพสื่อสารที่คนจีนใช้มากที่สุด อยากให้มีติดเครื่องไว้ เพราะใช้ติดต่อกับที่พัก และจองคิวเข้าสถานที่บางแห่ง เช่น National Museum ได้ แนะนำว่าให้สมัครให้เรียบร้อยตั้งแต่ไทยไปเลยนะ เพราะจะต้องมีการ Verified 2 – 3 ชั้นเลย
App Store: https://apps.apple.com/th/app/wechat/id414478124
Google Play: https://play.google.com/store/apps/details?id=com.tencent.mm&hl=en&gl=US&pli=1
Metroman
แอพดูผังรถไฟใต้ดินของจีน ใช้งานง่าย เป็นภาษาอังกฤษทั้หมด จำเป็นมากต่อการเดินทาง
Apple Store: https://apps.apple.com/us/app/metroman-china/id466351433
Google Play: https://play.google.com/store/apps/details?id=com.xinlukou.metroman&hl=en&gl=US
Baidu Map
เนื่องจาก Google Map ไม่สามารถใช้นำทางในจีนได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งที่เที่ยวใหม่ๆ ก็ยังไม่ขึ้นในกูเกิ้ลแมพ การใช้ไป่ตู้แมพเลื่อนหาร้านอาหาร ร้านกาแฟรอบๆ ก็พทดแทนกันได้อยู่ ถ้าจะให้ดีต้องใช้เทียบกัน 2 แอพ เพราะไป่ตู้แมพเป็นภาษาจีนล้วนเลย
Google Play: https://play.google.com/store/apps/details?id=com.baidu.BaiduMap&hl=en&gl=US
Pleco
แอพ Dictionary ภาษาจีนที่สามารถแปลศัพย์ได้รวดเร็ว สามารถใช้แก้ปัญหาเรื่องการสื่อสารได้ในระดับนึง
App Store: https://apps.apple.com/us/app/pleco-chinese-dictionary/id341922306
Google Play: https://play.google.com/store/apps/details?id=com.pleco.chinesesystem&hl=en&gl=US
(5) แบ่งเที่ยวตามโซน
ปักกิ่งเป็นเมืองที่ใหญ่มาก ที่เที่ยวต่างๆ จะค่อนข้างห่างกัน เพื่อให้การเดินทางง่ายขึ้น และไม่ย้อนไปย้อนมาจนเหนื่อย เราจึงควรจะวางแผนเที่ยวเป็นโซน โดยยึด พระราชวังต้องห้าม เป็นจุดกึ่งกลาง ก็จะแบ่งออกได้เป็น 5 โซนเที่ยวตามนี้
โซนกลางเมือง และรอบๆ พระราชวังต้องห้าม
เป็นโซนที่นักท่องเที่ยวเยอะที่สุด เพราะมีแลนด์มาร์คดังๆ หลายที่อยู่ติดกัน
- พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden city)
- ถนน หวางฟู่จิง (Wangfujing Pedetrian Street)
- จตุรัสเทียนอันเหมิน (Tianmen Square)
- Galaxy SOHO
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (National Museum)
โซนซ้ายบน (ตะวันตกเฉียงเหนือ)
โซนนี้ไกลจากกลางเมืองออกมาหน่อย ที่เที่ยวดังๆ ไม่เยอะ แต่สามารถมาเดินเล่นดูสวน ดูห้างก็ใช้เวลาทั้งวันได้อยู่
- พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace)
- National Stadium
- Beijing Olympic Park
โซนขวาบน (ตะวันออกเฉียงเหนือ)
โซนอาร์ต Chaoyang District ที่ถูกเรียกว่า International Arts Hub เพราะกำลังมีการทำโปรเจคขยาย Art Space อยู่ ถ้าเดินไปตามถนนเรื่อยๆ ก็จะเจอมิวเซียมใหม่ๆ ที่ยังไม่มีข้อมูลในอินเตอร์เน็ตอยู่นะ
- Red Brick Arts Musuem
- 798 Art District
โซนเหนือของพระราชวัง
โซนนี้วัยรุ่นจะมาแฮงค์เอ้าท์ เดินชิลล์กัน เพราะพวกร้านบาร์ และคาเฟ่ จะมารวมกันอยู่ตามซอย Hutongs แถวนี้
- โซน Hutongs ใหม่ๆ (Nan Luo Gu Xing,Fang Jie, Wudaoying)
- ทะเลสาบ Qianhai
- วัดลามะ (Lama Temple)
โซนใต้ของพระราชวัง
นอกจากจะมีแลนด์มาร์คดังอย่าง หอสักการะเทียนถัน แล้ว ก็มีถนนสายของกินที่ใหญ่ที่สุด และตลาดเก่าแก่ที่สุด อยู่ในโซนนี้นะ ใครเล็งจะกิน จะซื้ออะไรไว้ ก็ต้องมาที่นี่เลย มีทุกอย่าง
- ถนนคนเดิน Qianmen Street
- ตลาดของกินเก่า Dashanlan Snack Street
- ถนนสายกาแฟ Yangmeizhuxie
- หอสักการะเทียนถัน (The Temple Heaven)
ถ้าแบ่งโซนเที่ยวประมาณนี้ ก็จะเที่ยวครบใน 1 วันได้แบบไม่เหนื่อยเลย
แต่ถ้าใครจะไป กำแพงเมืองจีน หรือ สวนสนุกยูนิเวอซัล ที่ค่อนข้างอยู่นอกเมือง ก็ต้องเผื่อเวลาไปเลย 1 วันเต็มวิ
วิธีเดินทางจาก สนามบินนานาชาติ Beijing Daxing (PKX) เข้าเมือง ปักกิ่ง
การเดินทางจะมีอยู่ 2 วิธี คื รถไฟ Airport Express กับ รถเมล์สนามบิน (Beijing Airport Bus)
Airport Express
รถไฟด่วนจากสนามบินเข้ากลางเมือง สิ้นสุดที่สถานี Caoqiao ซึ่งจะสามารถไปต่อได้ทั้ง Line 10 และ Line 19
ค่าตั๋ว: 30 ¥
รถไฟเปิดให้บริการตั้งแต่: 6:00 – 22:30
รถเมล์สนามบิน (Beijing Airport Bus)
สามารถขึ้น และดูสายรถต่างๆ ที่วิ่งผ่านได้ที่ ประตูทางออกที่ 20 มีทั้งหมด 10 สายให้เลือกนั่ง (แต่สายไหนวิ่งผ่านที่ไหนบ้างต้องถาม Infomation กันอีกที)
สายที่วิ่งผ่านกลางเมืองคือ Tamzhou Line รอบแรก 4:15 (45 ¥) และ Zhongguancun รอบแรก 4:15 (35 – 45 ¥)
รถเมล์จะใช้เวลาวิ่งราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง ตอนนั่งแนะนำให้เปิดแมพดูไปด้วยนะ
(6) เลือกโซนที่พัก
โซนที่นักท่องเที่ยวจะนิยมพักกันก็คือ บริเวณรอบๆ พระราชวังต้องห้าม อย่าง Wangfujing, Qianmen, Chaoyang,Houhai ก็จะมีที่พักให้เลือกเยอะ แต่เราเลือกพักที่เขต Chongwenmen โซนนี้จะขยับออกห่างจากที่เที่ยวมานิดหน่อย แต่ว่าราคาถูกกว่ามาก มีห้าง มีมินิมาร์ต ร้านอาหารเปิดครบเลย แถมมีรถไฟใต้ดินวิ่งผ่าน 2 สายเลย เรียกได้ว่าจ่ายถูกลง แต่สบายเหมือนเดิม
Beijing Xinqiao Hotel
โรงแรมที่เราเลือกพัก อยู่ในย่าน Chongwenmen ติดกับสถานีรถไฟใต้ดิน ราคาไม่แพง ห้องสะอาด นอนสบาย พนักงานพูดภาษาอังกฤษคล่อง อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลกับที่เที่ยวอย่าง พระราชวังต้องห้าม และหอเทียนถันอีกด้วยนะ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน 2-3 สถานี ระแวกใกล้เคียงกัน ก็มีร้านขายของชำ ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้าอีกด้วย ถ้าเทียบกันในเรื่องความสะดวกสบาย และราคาแล้ว ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่าสุดๆ
ราคา: ห้อง Deluxe Room Twin Bed ราคา 2,000 บาท ต่อคืน
วิธีเดินทาง: ลงสถานี Chongwenmen (Line 2 และ Line 5)
Location: https://goo.gl/maps/Atq2Ah3UGuFR59288
ข้อควรรู้ก่อนนั่งรถไฟฟ้า เที่ยวปักกิ่ง
- บัตร IC Card (บัตรเดินทางแบบเติมเงิน) นักท่องเที่ยวจะยังไม่สามารถนะ ต้องรออีกหน่อย
- บางครั้งจะพบว่าตู้ขายบัตรบางสถานีขึ้นหน้าต่างให้ Register หรือใส่เลข ID ก่อนซื้อ ทำให้เราซื้อไม่ได้ ดังนั้นจะต้องเปลี่ยนไปซื้อกับเค้าน์เตอร์แทน (ถ้าที่เค้าเตอร์ไม่มี ให้เรียกพนักงานแถวนั้น) ใครกลัวเรื่องการสื่อสารก็เปิดแมพจิ้ม แล้วทำนิ้วตัวเลขได้เลย ไม่ได้ยากอะไร
- แนะนำให้ใช้แอพ Metroman เสริชสถานีว่าปลายทางคือ Line อะไร จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาที่ตู้
- ตู้ขายบัตรจะเป็นระบบสแกนจ่ายทั้งหมด (Alippay) ใครพกเงินสดมาล้วน ต้องไปที่เค้าน์เตอร์นะ
เตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็ไปเริ่มเที่ยวกันได้เลย
โซนกลางเมือง (City Center)
Forbidden City
พระราชวังต้องห้าม พระราชวังเก่าหลายร้อยปี ที่สะท้อนประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของจีนได้เป็นอย่างดี เป็นแลนมาร์คที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองปักกิ่ง เรียกได้ว่าถ้าใครมา เที่ยวปักกิ่ง ก็เป็นต้องมาที่นี่อย่างแน่นอน ทำให้จุดนี้มีนักท่องเที่ยวจีนและต่างชาติเยอะตลอดทั้งปี
ค่าตั๋ว: 85 ¥
ซื้อผ่าน Klook สะดวกกว่า จิ้มเลย!: https://bit.ly/3PjwIwt
วิธีเดินทาง: ลง MRT Tianmen’Xi (Line 1)
แผนที่: https://goo.gl/maps/4QbfSaszxMgHHroE6
ตอนนี้ใครที่จะขึ้นชมวิวชั้น 2 ของรอบๆ พระราชวังจะต้องลงทะเบียนผ่าน Wechat นะ ซึ่งจีนล้วนเลยแต่ใครมีแแอพอยู่แล้ว ก็เข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่เขาได้เลย
Wangfujing Pedestrian Street
หวางฟู่จิง หนึ่งในถนนคนเดินชื่อดังสุดในปักกิ่ง ที่นี่เป็นย่านช้อปปิ้งสุดฮอตที่สองข้างทางเป็นห้าง และร้านอาหาร ฟีลคล้ายกับสยามบ้านเรา ถ้าใครที่เคยไปมาแล้วคงคุ้นเคยกับ ตรอก Wangfujing ที่ขายสตรีทฟู้ด คนแน่นๆ ซึ่งตรงนั้นปัจจุบันไม่มีแล้วนะ เพราะเขามีการจัดระเบียบใหม่ โดยย้ายร้านต่างๆ ไปอยู่รวมกัน คล้ายๆ ฟู้ดคอร์ทแทน
วิธีเดินทาง: ลงสถานี Wangfujing (Line 1)
แผนที่: https://goo.gl/maps/Lna1Ez8MJMXAkz236
Galaxy SOHO
โครงการ Mix Use ที่ดีไซน์ตึกสวย เหมือนหลุดออกมาจากหนัง ตอนกลางวันมาเดินเล่น ถ่ายรูปหาของกินได้ จะมีร้านฟาสต์ฟู้ด มินิมาร์ท มีโซนสตรีทฟู้ดออยู่บริเวณชั้นใต้ดิน ส่วนตอนกลางคืนเขาก็จะเปิดไฟสวยเลย แต่ว่าเขาเริ่มปิดไฟตอน 3 ทุ่มนะ ถ้าไปช่วงหน้าร้อนพระอาทิตย์ตกช้า ก็อาจจะไม่เต็มอิ่มเท่าไหร่
เวลาเปิด – ปิด: 10:00 am – 10:00 pm (ร้านเริ่มทยอยปิดตอน 3 ทุ่ม)
วิธีเดินทาง: สถานี Chaoyangmen (Line 2 และ Line 6) จากนั้นเดินขึ้นบันไดมาชั้นบน
แผนที่: https://goo.gl/maps/LDK3A7n1GJoP9PEb9
โซนเหนือของพระราชวัง
Nan Luo Gu Xiang Hutongs
ย่าน Hutong ที่อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวังต้องห้าม เต็มไปด้วยร้านอาหาร ขนม ของหวาน ระยะทางราวๆ 1 กิโลเมตร เป็นเหมือนแหล่งแฮงค์เอ้าท์ของวัยรุ่น ที่ครึกครื้นมากในช่วงค่ำๆร้านบะหมี่ซอสดำชื่อดัง Fang Zhuan Chang สาขาแรกก็ตั้งอยู่ที่นี่
วิธีเดินทาง: ลงสถานี Shichahai (Line 8)
Location:https://goo.gl/maps/wyyiSkSZzdMgJpHu9
ถนน Gu Luo E Ave
ถนนที่อยู่ติดกับย่าน Nan Luo Gu Xiang เส้นนี้มีคาเฟ่ดีไซน์สวยๆ ใหม่ๆ ตั้งอยู่ติดๆ กันหลายร้านเลย เช่น Still Water Cafe, Alba Cafe, Cafe Zarah
Location: https://goo.gl/maps/23qrHpmnTYYcJzZq9
Still Water Cafe
คาเฟ่กึ่งเวิร์คกิ้งสเปซ บรรยกาศโล่งโปร่งสบาย มีให้เลือกนั่งกัน 3 โซน คือ ห้องกระจก ดาดฟ้า และในสวน เมนูหลากหลาย ซิกเนเจอร์คื ขนมปังอบเพรทเซล
ขนมเพรทเซลกรอบนอกนุ่มใน กินกับกาแฟเพลินๆ
แผนที่: https://goo.gl/maps/ysyF7a5ohq71wkzr7
Alba Cafe
ร้านกาแฟสไตล์ฝรั่งเศส มีความเรโทร ชั้น 2 เป็นดาดฟ้า มีต้นไม้ปกคลุม ไม่ร้อน และยังมีเคาน์เตอร์บาร์นั่งจิบกาแฟมองวิวถนนอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 7:30 – 22:30
แผนที่: https://goo.gl/maps/ZmrXuGZPKXmDTvB57
Cafe Zarah
Brunch Cafe เน้นขายอาหารตะวันตก มีทั้งกาแฟและม๊อกเทลให้เลือก ที่นี่จะพบชาวต่างชาติค่อนข้างเยอะเลย พนักงานในร้านยังสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีอีกด้วยนะ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 8:30 – 19:00
แผนที่: https://goo.gl/maps/DdEjaWE93YBMbXiK8
Voyage Coffee
แฟรนไชร์ส Speccialty Coffee ที่มีเมล็ดกาแฟเบลนด์ต่างๆ ให้เลือกเยอะ เน้นชงแบบ Drip เหมาะสำหรับคอกาแฟสายลึก มีเครื่องชงแบบ Syphon ให้เลือกสำหรับคนที่สนใจด้วยนะ
Qianhai Lake
คอมมิวนิตี้รอบทะเลสาบ Qianhai ตรงนี้มีพวกร้านบาร์ ร้านกาแฟ ที่เป็นตึกสูง 2-3 ชั้นเยอะ วัยรุ่นนิยมมา Hang Out ตอนกลางคืนกัน เพราะบรรยากาศดีมาก
วิธีเดินทาง: ลงสถานี Beihaibei (Line 6)
แผนที่: https://goo.gl/maps/977BL3qKdDP7R2dY9
Sugar Bar & Cafe
คาเฟ่และบาร์ ที่ไฮไลท์คือวิวบนชั้นดาดฟ้า เมื่อมองลงมาจะเห็นทั้งทะเลสาบ Qianhai และหอระฆังเมืองปักกิ่ง
แผนที่: https://goo.gl/maps/MURNeuZVQuNVo3ru5
Wudaoying Hutongs
ถนนสายศิลปะและกาแฟ เส้นนี้จะมีแกลอรี่อาร์ตๆ กับร้านกาแฟดีไซน์สวยๆ มีอีกหลายร้านที่กำลังสร้างหรือรีโนเวทอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นย่านใหม่ที่เพิ่งเปิด มีร้านสวยๆ เช่น Metal Hands, Barista Coffee Roaster, Mumu Cafe
วิธีเดินทาง: ลงสถานี Gulou Dajie (Line 2) ข้ามถนน แล้วเดินต่ออีก 20 นาที
แผนที่: https://goo.gl/maps/bPKKY8ayfvDy1USBA
Metal Hands
ร้านกาแฟแฟรนไชร์สที่กระจายตัวอยู่ตามย่าน Hutongs ต่างๆ เด่นในเรื่องการใช้นมพิทตาชิโอ้ มาเป็นส่วนประกอบของกาแฟ ซิกเนเจอร์คือ Metal Hands Pitachio
แผนที่: https://goo.gl/maps/LrR8vPwkdB72geKX6
Xian Lao Man Restaurant
ร้านเกี๊ยวโลคัล ในย่าน Fang Jia Hutongs ที่คนพื้นที่ และนักท่องเที่ยวพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยจริง ไส้เกี๊ยวแน่นๆ แป้งนุ่มๆ มีความฉ่ำ กินแล้วละลายในปาก ที่สำคัญราคาไม่แพงเลย อีกเมนูนึงที่ขึ้นชื่อของร้านก็คือ ไก่กังเปา (Kung Pao) เมนูจีนเสฉวนที่โด่งดังอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด: จันทร์-ศุกร์ 11:00 – 22:00
วิธีเดินทาง: ลงสถานี Qiaowan (Line 7)
แผนที่: https://goo.gl/maps/LpCztbvBa1nQG3SL7
Tomatato Dumpling – 8 ¥
เกี๊ยวไส้มะเขือเทศสับ เป็น 1 ในเมนูติดดาวของร้าน ถึงชื่อจะฟังดูไม่น่ากินแต่ขอบอกว่าเด็ดมาก จิ้มกับจิ๊กโฉ่วสูตรของท้างร้านแล้ว แทบไม่รู้สึกว่ากินมะเขือเทศอยู่เลยด้วยซ้ำ
Kung Pao Chicken – 46 ¥
เป็นไก่ผัดกับซอส และพริกแห้ง รสชาติคล้ายๆ ไก่สามรสบ้านเรา แต่มีความเผ็ดและกรอบมากกว่า เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน ที่ใครมาก็ต้องสั่งกิน จานนึงกินได้ 3 – 4 คน เลยนะ ใหญ่มากใครมา เที่ยวปักกิ่ง ก็มาชิมเมนูนี้
Egg with Crab Flavor – 38 ¥
เมนูซุปปู และไข่น้ำ เอาไว้กินตัดเลี่ยนจากเมนูอื่นๆ ก็เข้าท่ามากเลยแหละ
โซนขวาบน (ตะวันออกเฉียงเหนือ)
Red Brick Art Museum
แกลอรี่อิฐแดงใจกลางย่าน Art District ของกรุงปักกิ่ง ที่โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปป์ง่ายๆ อย่างการดีไซน์ตัวอาคาร กำแพง ทางเดิน ด้วยอิฐแดงทั้งหมด สามารถมาเดินชม เดินถ่ายรูปเล่นเพลินๆ ในสวนได้
ค่าตั๋ว: 120 ¥
วิธีเดินทาง: ลงสถานี Datun แล้วเดินต่ออีกราวๆ 20 นาที แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Chaoyang
แผนที่: https://goo.gl/maps/9YpmA8PptCQCPemP9
798 Arts Zone
ย่านศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในปักกิ่ง รีโนเวทจากโรงงานอุตสาหกรรมเก่า ตรงจุดนี้ป็นจุดศูนย์รวมแกลอรี่ และห้องนิทรรศการมากกว่า 200 แห่ง และยังคงมีการต่อเติมสร้างโซนอื่นๆ เพิ่มอยู่เรื่อยๆ พื้นที่ใหญ่มากๆใครที่ชอบศิลปะสามารถมาเดินเล่นได้ทั้งวันเลย
ค่าเข้า: ไม่เสียค่าเข้าในเขตโครงการ
วิธีเดินทาง: WangjingXi / Wangjing South (Line 13) แล้วเดินต่ออีก 20 นาที
ไม่เสียค่าเข้าชมโครงการ แต่แกลอรี่ต่างๆ ก็เข้าฟรีบ้าง เสียเงินบ้าง ใครสนใจอันไหนก็ต้องเดินเข้าไปถามพนักงานเขาได้เลย ซึ่งต้องบอกเลยว่าการมีพื้นที่ศิลปะแบบนี้ทำให้การมา เที่ยวปักกิ่ง ดูมีมิติขึ้นเยอะเลย
โซนซ้ายบน (ตะวันตกเฉียงเหนือ)
พระราชวังฤดูร้อน (The Summer Palace)
พระราชวังกึ่งอุทยานที่สวยที่สุดปักกิ่ง อายุราว 800 ปี พื้นที่ใหญ่มาก มี 2 ส่วนประกอบกันก้คือ เขาโซ่วซาน เป็นที่ตั้งของตำหนักและวังจีน, ทะเลสาบคุนหมิงฮู ที่มีระเบียงยาวโค้งเรียบไปตามแนวทะเลสาบ
ค่าบัตรเข้าชม: 30 ¥ (High Season / APR – OCT) 17 ¥ (Low Season / NOV – MAR)
เวลาเปิด – ปิด
- เดือนเมษายน – ตุลาคม 6:00 – 20:00
- เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม 6:30 – 19:00
วิธีเดินทาง: ลงสถานี Beigongmen (Line 4)
แผนที่: https://goo.gl/maps/zhWcvDG6h4zqGyhTA
ตำหนักบนเขาโซ่วซาน ทางเดินขึ้นค่อนข้างชัน แต่มองเห็นวิวเมืองสวยงาม
โซนเดินริมน้ำ ใครอยากลงไปถ่ายรูปจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 15 RMB
ทะเลสาบจะมีเกาะเล็กๆ เกาะนึงเชื่อมด้วย สะพาน 17 โค้ง (Seventeen Arch Bridge) ที่จะสามารถมองเห็นวิวตำหนักบนเขา และเวิ้งทะเลสาบได้อย่างชัดเจน
Olympic Park
สวนสนามกีฬาโอลิมปิค ที่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งนัดพบของวัยรุ่นปักกิ่ง มีห้าง สวนต้นไม้ จุดถ่ายรูปอย่าง Bird’s Nest Stadium (สนามบอลรังนก) และ National Aquatic Centre (ศูนย์กีฬาทางน้ำแห่งชาติ) ที่ตอนกลางคืนเขาจะมีการเปิดไฟสวยเลย
เวลาเปิด-ปิด: จันทร์-ศุกร์ 6:00 – 21:30 (เริ่มเปิดไฟตอน 19:00)
วิธีเดินทาง: สามารถขึ้นรถไฟ Line 8 และเลือกลงได้ 2 สถานี
- Olympic Sports Centre (Aoti Gongyuan) : สำหรับคนที่อยากไปดูสนามบอลเลย
- Olympic Park (Aolinpike Gongyuan) : สำหรับคนที่อยากไปเดินเล่นห้าง และสวนต้นไม้ก่อน
แผนที่: https://goo.gl/maps/mzSzxAUxX8KfkVbd9
โซนใต้ของพระราชวัง
หอสักการะฟ้าเทียนถัน (The Temple Heaven)
หอบูชาฟ้าเทียนถัน ที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ราชวงศ์หมิงขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 1403 ถูกขึ้นเป็นมรดกโลกในปี 1998 ถึงจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่ผ่านมาราวๆ 600 ปีแล้ว แต่ที่นี่ก็ยังดูสภาพสมบูรณ์และสวยงาม เหมือนกับเพิ่งสร้างได้ไม่นานเลยนะ ไม่ว่าจะไปกี่ครั้งๆ ก็ยังเป็นอีกที่หนึ่งที่ประทับใจ และได้รูปสวยๆ กลับบ้านเสมอ
ราคาบัตรเข้าชม
- 34 ¥ (High Season) / 17 ¥ (Low Season)
- เข้าชมได้ทุกโซน (Tiantan Hall Prayer, The Echo Wall, Circular Mound Altar)
เวลาเปิด-ปิด: หยุดทุกวันจันทร์
เมษายน – ตุลาคม 6:00 – 22:00
พฤษจิกายน – มีนาคม 6:30 – 22:30
วิธีเดินทาง: ลงสถานี Tianqiao (Line 8)
แผนที่: https://goo.gl/maps/qvGbCfS3AkNXyqAH8
พิธีบูชาฟ้าของจีนเนี่ย มีมาอย่างยาวนานเกือบ 3000 ปี เลยทีเดียว สร้างขึ้นจากความเชื่อเรื่องความศักกดิ์สิทธิ์ของท้องฟ้า ที่ว่าถ้าสร้างตำหนักขึ้นมา จะทำให้มนุษย์สามารถทำพิธี แลกเปลี่ยนเครื่องบูชากับความศิริมงคลจากเทวดาบนท้องฟ้าได้
แท่นบูชาหยวนซิว เป็นแท่นบูชาที่ตั้งอยู่บนฐานหินอ่อน 3 ชั้น เมื่อเดินขึ้นจากทางไหน ก็จะเสมือนกับว่ากำลังเดินเข้าสู่จุดศูนย์กลางจักรวาล เหตุผลที่ไม่มีหลังคาเพราะต้องการทำให้รู้สึกเหมือนเข้าใกล้ท้องฟ้ามากขึ้น
The Echo Wall
กำแพงเสียงสะท้อน ถ้าใครไปพูดใส่กำแพง ในเสียงปกติ คนที่อยู่อีกฝั่งหรือตามแนวกำแพงก็จะได้ยินอย่างชัดเจน
บริเวณรอบๆ ก็จะเป็นสวนสาธารณะที่ร่มรื่น เราาจะเห็นคนพื้นที่มาเดินเล่น นั่งเล่นกันเยอะเลย
Qianmen Street
ถนนคนเดินชื่อดัง อยู่ทางตอนใต้ของพระราชวังต้องห้าม เป็นที่ๆ รวมทุกอย่างไว้ คิดว่าน่าจะมีร้านต่างๆ รวมกันเกิน 100 ร้าน ทั้งร้านอาหาร แนวภัตตาคารและสตรีทฟู้ด ร้านขายของฝาก และยังมีการก่อสร้างขยายพื้นที่เพิ่มอยู่อีกด้วย
วิธีเดินทาง: ลงสถานี Zhushikou (Line 7)
Location: https://goo.gl/maps/UG3Ng1osJbMjtNkf8
Yang Mei Zhu Xie Jie
โซนที่อยู่ตรงข้ามกันกับ Qianmen Street ร้านต่างๆ ยังเปิดไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็มีร้านกาแฟดีๆ ที่ซ่อนตัวอยู่อย่าง Soloist Coffee และ Berrys Beans
Location: https://goo.gl/maps/Ac2PPrWZT3qkjwPF6
Soloist Coffee
คาเฟ่เล็กๆ ตกแต่งในสไตล์ Antique เจ้าของร้านเป็นคนทำเองทั้งหมด ทั้งชงกาแฟ คิดเงิน เสิร์ฟ เก็บกวาด มีเมล็ดกาแฟเบลนด์เป็นของตัวเองด้วยนะ
เวลาเปิด-ปิด: จันทร์ – ศุกร์ 9:00 – 22:30
วิธีเดินทาง: ลงสถานี Zhushikou (Line 7) เดินตัดถนน Qianmen แล้วข้ามถนนมาทางซ้าย
แผนที่: https://goo.gl/maps/m4Vf7KJqnFM4Q8Vy6
-ร้านเล็กๆ ไม่ใหญ่ แต่สัมผัสได้ถึงความเป็นตัวของตัวเอง
Berry Beans
ร้านกาแฟลับที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอกเล็กๆ ของย่าน Yang Mei Zhu เน้นขายกาแฟ Specialty และกาแฟ Dirty ที่รสชาติดี ร้านไม่ใหญ่ ที่นั่งไม่เยอะ ถ้าไปช่วงคนเยอะ อาจจะต้องรอคิวหน่อย
Li Qun Roast Duck Restaurant
ร้านเป็ดปักกิ่งเก่าแก่ ที่มีชื่อเสียงเรื่องความอร่อยมาก จนนักแสดงดัง อย่าง เจ๊ท ลี และบุคคลสำคัญๆ ของจีนยังมากินกันเพียบ มีรูปติดโชว์ไว้ตรงทางเข้าเลย ร้านแอบอยู่ในซอย Xiangfeng Hutongs ดูลึกลับหน่อยๆ แนะนำให้ไปตอนบ่ายๆ นะ คนจะน้อย ถ้าไปเย็นละก็ ต้องต่อคิวแน่นอน
วิธีเดินทาง: ลงสถานี Zhushikou (Line 7) แล้วเดินต่ออีก 20 นาที
แผนที่: https://goo.gl/maps/73Gn6uhd2vt9Jk6WA
Peking Roast Duck
ใครมาปักกิ่งไม่มากินเป็ดปักกิ่งที่นี่เขาบอกว่ามาไม่ถึงนะ เพราะที่นี่ใช้เป็ดที่มีไขมันใต้หนังเยอะหน่อย พอจิ้มซอสกินแล้วจะนุ่มละมุนลิ้น ละลายในปากสุดๆ กินไปยิ้มไป ใครอยากอิ่มหน่อยก็ม้วนกับแป้งจีนกินกับผักได้นะ
วิธีสั่งเป็ดปักกิ่ง
เผื่อใครงงกับการสั่งก้คือ ในหน้า Main Couse จะเป็นหน้าเกี่ยวกับเป็ดทั้งหมด แล้วจะมีให้เลือก 3 เซ็ทก็คือ
- One Duck for Three Ways – 320 ¥
เซ็ทนี้มี: เป็ดปักกิ่ง,แผ่นแป้ง,ผักเครื่องเคียง, ซุปกระดูกเป็ด
- One Duck for Two Ways – 295 ¥
เซ็ทนี้มี: เป็ดปักกิ่ง,แผ่นแป้ง,ผักเครื่องเคียง,เนื้อเป็ดติดกระดูก
- One Duck for One Way – 270 ¥
เซ็ทนี้มี: เป็ดปักกิ่ง,แผ่นแป้ง,ผักเครื่องเคียง
ในหน้าเมนูก็คือเรียงตามนี้เลย ใครพูดจีนไม่ได้ก็จิ้มเอาเลย มาเป็นเซ็ท เป็ด 1 ตัว กินได้ 4 คน อิ่มๆ
Deep Fried Duck Intestines & Pepper – 58 ¥
ไส้เป็ดชุบแป้งทอด กรอบกรุบ เคี้ยวเพลิน ตัดเลี่ยนกับพริกหยวกคั่ว จานนึงใหญ่มาก กินได้หลายคน
เวลาเปิด-ปิด: จันทร์ – ศุกร์ 10:00 – 22:00
โซนนอกเมือง
Great Wall of China Mutianyu
กำแพงเมืองจีนด่านดังๆ อย่าง ปาต้าหลิง คนไปกันเยอะแล้ว รอบนี้เราก็เลยลองมาเที่ยว กำแพงเมืองจีน ด่าน Mutianyu บ้าง ซึ่งเป็นด่านที่กำแพงสมบูรณ์ที่สุด วิวสวย เดินเพลิน แต่คนไม่ค่อยมากันเท่าไหร่
Admission Ticket (ค่าเข้าอุทยานอย่างเดียว)
- 40 ¥
Cable Car (Roundway)
- 140 ¥
- รอบสุดท้าย จันทร์ – ศุกร์ ปิด 17:30 / เสาร์ – อาทิตย์ 18:30
Chair Lift (Roundway)
- 140 ¥ / เด็ก 70 ¥
- ถ้าซื้อไป – กลับ สามารถเลือกได้ว่า ขาลงจะไปลง Chair Lift หรือ Slide Rail
- รอบสุดท้าย จันทร์ – อาทิตย์ 17:00 / เสาร์ – อาทิตย์ 18:00
กำแพงเมืองจีนค่อนข้างอยู่ไกลจากตัวเมืองนะ ราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง แนะนำว่าให้ซื้อแพ็คเกจทัวร์ของ Mubus ราว 120 ¥ (570 บาท) ซึ่งราคานี้ รวมค่ารถ ค่าไกด์แล้ว คิดความคุ้มดูแล้ว ราคาไม่ต่างกับเดินทางไปเองเลย (ค่ากระเช้าจ่ายเพิ่ม)
ทั้งหมดนี้ สามารถจองผ่าน Klook ได้เลย: https://bit.ly/3PctjQa
กำแพงเมืองจีน เป็นสถานที่ที่ ถ้ามา เที่ยวปักกิ่ง ยังไงก็ต้องหาเวลามาชมให้ได้
จุดไฮไลท์ของด่านนี้คือ ป้อมปราการ หมายเลข 20 ที่ตั้งอยู่บนเขา และเป็นป้อมปราการที่สูงที่สุดของแนวกำแพงเมืองจีนเลยด้วยนะ
ด่านนี้แบ่งออกเป็น 2 เส้นทางให้เลือกเดินก็คือ เส้นทาง West Route เป็นเส้นทางที่เปิดใหม่ กับ East Route เป็นเส้นทางดั้งเดิม ใครจะเลือกเดินยาวๆ จากฝั่งนึงไปอีกฝั่งนึง อาจจะต้องใช้เวลาเป็น 5 ชั่วโมงเลย
West Route
เส้นทางฝั่งตะวันตก ทางเดินยาวราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง ฝั่งนี้เป็นเส้นเปิดใหม่ เน้นเดินชิลล์ ทางไม่ชัน ป้อมปราการหมายเลข 20 อยู่ที่ฝั่งนี้ แต่ทางขึ้นชันสุดๆ เลยแหละ ใครที่จะขึ้นจุดชมวิวก็ต้องเช็คร่างกายตัวเองดีๆ เลยนะ เตรียมน้ำไปกินด้วยย อย่าลืม
East Route
เส้นตะวันออกเป็นเส้นทางดั้งเดิม Classic Route ที่คนนิยมมากกว่า ทางเดินสั้น มีความชัน แต่ว่าวิวกำแพงสวยกว่าฝั่งตะวันตก จุดสูงสุดของฝั่งนี้คือ ป้อม หมายเลข 1 ที่มองลงมาจะเห็นโค้งของกำแพงเมืองจีนด่านนี้ทั้งหมด
มี Chair Lift นั่งห้อยขา คล้ายๆ กระเช้าสกี สำหรับขึ้น-ลง
ส่วนขาลงสามารถเลือกได้ว่าจะลง Chair Lift หรือจะลง Slide Rail รถสไลด์ลงจากเขา ทางไม่โหด ไม่อันตราย
Universal Beijing Resort
สวนสนุกยูนิเวอซัล สาขาที่ 5 ของโลก และเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย โซนดังๆ ที่ทุกคนชื่นชอบมาครบ ไม่ว่าจะ แฮรี่พอตเตอร์, ทรานฟอเมอส์, จูราสสิคเวิล์ด, มินเนี่ยน และโซนใหม่ ที่มีที่นี่ที่เดียวก็คือ กังฟูแพนด้า การมีสวนสนุกสเกลยักษ์ขนาดนี้เกิดขึ้น ทำให้การมา เที่ยวปักกิ่ง นั้นมีตัวเลือกในการเที่ยวเยอะมากขึ้นจริงๆ
ขนาดใหญ่กว่าที่สิงคโปร์ 5 เท่า แถมเพิ่งไม่นาน เครื่องเล่นทุกอย่างยังใหม่กริบอยู่ นักท่องเที่ยวไม่เยอะ ต่อคิวแปปๆ ก็ได้เล่นแแล้ว
โซนกังฟูแพนด้า มาพร้อมกับเครื่องเล่นใหม่ ตีมใหม่ ในโซนอินดอร์ติดแอร์เย็นฉ่ำ ไม่ว่าทั้งเด็กหรือผู้ใหญ่เห็นเป็นต้องชอบแน่นอน
พื้นใหญ่มาก เครื่องเล่นว้าวๆ มีอีกเพียบ เราไปลองนั่งทุกเครื่องเล่น เก็บข้อมูลมาระเอียดยิบๆ แล้ว
ใครที่สนใจ สามารถอ่านรีวิเต็มๆ ต่อได้ที่ : รีวิว Universal Beijing Resort สาขาใหญ่ที่สุดในโลก
ต้องบอกเลยว่าการ เที่ยวปักกิ่ง ในปี 2023 เนี่ย เป็นปักกิ่งในเวอร์ชั่นที่น่าเที่ยวขึ้นมากเลย ทั้งความทันสมัย ความสะดวกสบายในการเดินทาง ถนนหนทางที่สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย สวนทางกับค่าครองชีพที่ถูกเหลือเชื่อ แถมยังได้เที่ยวสไตล์ใหม่ๆ อย่างการ คาเฟ่ฮ้อปปิ้ง และเสพศิลป์ที่ย่านอาร์ตอีกด้วยนะ อยากให้ทุกคนสลัดภาพเก่าๆ ของจีนทิ้งไปให้หมด แล้วออกเดินทางมาสัมผัสความสวยงามของประเทศนี้้กันเถอะ
#RevisitTheBeautifulChina #แอร์เอเชียตัวจริงเรื่องบินจีน #ไปจีนไปกับแอร์เอเชีย #airasiatravel #airasiasuperapp