First Time in South Korea by AirBnb

สวัสดีค่ะ อันยองค่ะ
รีวิวเกาหลี เที่ยวเกาหลี ครั้งแรก เวอร์ชันพวกเราชาวโกกราฟค่ะ
รีวิวนี้จุดประสงค์คือ เราทั้ง 3 คน ได้มีโอกาสไปเกาหลีในปีนี้
แต่คนละรอบกัน และ ไปคนละที่กัน จึงเกิดเป็น ” สามเงาในเกาหลี “
(ก็อปชื่อหนังสือพี่ก้อง สองเงาในเกาหลีมาสุดๆ)

เราจึงมานั่งคุยกันแล้วคิดว่าจะรวบรวมเกือบทุกที่ที่พวกเราไป เที่ยวเกาหลี ครั้งแรก มาไว้ในรีวิวเดียว อาจจะไม่ใช่เชิงเล่าบันทึกการเดินทางขนาดนั้น แต่ถือว่ารวบรวมสถานที่ใหม่ๆ ให้ทุกคนค่ะ

ดังนั้นรีวิวนี้จึงมีตั้งแต่ วัง ตลาด ช็อปปิ้ง ปีนเขา ชายแดน ย่านยอดฮิตที่ทุกคนไปกัน
ไปจนถึง ฮิป คาเฟ่เก๋ ร้านเสื้อผ้าเก๋ ที่น่าจะเป็นทางเลือกใหม่ให้ทุกคนได้ด้วย
แต่แต่ ไม่มีเกาะนามิ ชิมโสม ลานสกี กินปู นะคะ 5555555

ทริปนี้ต้องขอบคุณสปอนเซอร์เล็กน้อย (สำหรับบางช่วงของทริป) อย่าง AirBnB ค่ะ 
ส่วนวิธีการใช้งาน AirBnB เราจะรีวิวแยกเป็นส่วนของที่พักไป 
ส่วนในเกาหลีนั้น พวกเราจัดเต็มแน่นอนค่ะ
ตามนั้น เก็บกระเป๋าขึ้นเครื่องไปกับพวกเรากันค่ะ

 

เกาหลีสำหรับพวกเรา ขอแยกเป็นหัวข้อดังนี้ค่ะ

1. การเดินทาง (นั่งเครื่องบิน / นั่งรถไฟใต้ดิน / บัตรต่างๆ นู่นนี่นั่น)
1.1 เครื่องบิน
1.2 จากสนามบินอินชอนเข้าโซล + บัตร T-Money
1.3 การเดินทางในโซล รถไฟใต้ดิน รถบัสออกนอกเมือง

2. Seoul – Zone 1 : ย่าน Anguk วังเคียงบก วังด็อกชาน หมู่บ้านบุกชอน คลองชองเกชอน อินซาดง
2.1 วังเคียงบก
2.2 หมู่บ้านบุกชน Bukchon hanok village
2.3 วังชางด็อก Changdeokgung Palace
2.4 อินซาดง Insadong
2.5 ย่าน ซัมซองดง Samcheong Dong
2.6 ย่านโซซอน Seochon
2.7 คุกโซแดมุน Seodaemun Prison History Hall
2.8 คลองชองเกชอน Cheonggyecheon

3. Seoul – Zone 2 : Ewha / Hongik University / ผับเกาหลี
3.1 Ewha University
3.2 Hongik University หรืออีกชื่อคือ ฮงแด HongDae
3.3 Night Club ย่านฮงแด เป็นที่ตั้งผับดังทั้งหลาย

4. Seoul – Zone 3 : ทงแดมุน DDP เมียงดง หอคอยนัมซาน
4.1 ทงแดมุน Dongdaemun / DDP
4.2 นัมแดมุน Namdaemun
4.3 ตลาดกวางจา Gwangjang Market
4.4 เมียงดง Myeongdong
4.5 หอคอยนัมซาน N-Seoul Tower

5. Seoul – Zone 4 : ย่านฮิป อัปกูจอง ซินซา กังนัม อิเทวอน 
5.1 กังนัม Gangnum
5.2 กาโรซุกิล Garosu-gil
5.3 อิเทวอน Itaewon

6. นอก Seoul : โซรัคซาน / DMZ (ชายแดนระหว่างเกาหลีใต้ กับ เกาหลีเหนือ) 
6.1 โซรัคซาน
6.2 DMZ (Demilitarized Zone) เขตชายแดน

7. รู้จัก AirBnB ที่พักทางเลือกแนวใหม่

 

01 การเดินทาง 

อย่างที่บอกค่ะ ว่าพวกเราเดินทางกันคนละรอบ แยกกัน
บ้างก็ไปต้นปี บ้างกลางปี บ้างบินมาจากฟินแลนด์ (เพื่อนอีกคนไปเรียนต่อยุโรปค่ะ)
ตัดมาเหลือเวอร์ชันไทยค่ะ เราบินกัน 2 สายการบิน
คือ Jin Air และใหม่ล่าสุด AirasiaX ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีโปรโมชันมากมาย ราคาถูกมากไปจนถึงปกติ

AirAsia X 
น้องใหม่ล่าสุด เพิ่งเปิดหมาดๆ เราก็ไปลองใช้กันละ ทุกอย่างเหมือนปกติค่ะ
แต่บินตรง ขึ้นที่ดอนเมือง ราคาไปกลับอยู่ที่ 10000 บาท
ค่ะ ถ้าได้โปรโมชันที่เขาโปรโมทไว้ก็จะประหยัดลงไปอีก

Jin Air จินแอร์ 
เป็นสายการบิน Low cost ในเครือ Korean Air ดังนั้นคุณภาพโอเคค่ะ
มีอาหาร ผ้าห่มหมอนให้หมด พนักงานวัยรุ่นหน่อย (แต่ขนาดแอร์ก็หน้าตาดีแล้วนะ)
ขึ้นที่สุวรรณภูมิ ราคาไปกลับอยู่ที่ 12900 บาทค่ะ


*ภาพจาก http://img.planespotters.net

เกาหลีดีตรงไปง่าย ไม่แพง และไม่ต้องทำวีซ่าค่ะ
แถมสาวกมีเยอะมาก (จขกท.ก็นิดนึงนะ)
นั่งสักพัก ก็ถึงค่ะ สนามบินอินชอน

 

วิธีการเดินทางเข้าเมืองจากสนามบิน
มันจะมีรถไฟ หรือ รถบัสให้ วิธีการที่ประหยัดและสบายสุด
พวกเราเลือก Airport limousine bus ค่ะ คนละ 10000 วอน นั่งสบายกว้างใหญ่
ซื้อตั๋วจากเคาท์เตอร์ในสนามบิน (แถวประตูทางออก – ตามภาพ)

เดินตามป้ายจากสนามบินแล้วรอรถตามเบอร์ที่เราจะไปเลยค่ะ
(อย่างถ้าเข้าเมืองย่าน Anguk แถวที่พัก นั่งสาย 6011 นะคะ)
รถบัสวิ่งทุกวัน 4.30 – 22.00 นะคะ (แก้ไขโดยความเห็น 92 ค่ะ)

บัตร T-Money 
แทบในทุกรีวิวเขียนถึงบัตรนี้ บัตรนี้มันคือพระเจ้าในเกาหลีค่ะ
หาซื้อได้ตามเซเว่น เอาไว้ติ๊ดรถไฟใต้ดิน เซเว่น
ร้านนู่นนี่เต็มไปหมด รถเมล์ รถบัส ได้สบายแถมลดราคาด้วย

ค่าสมัคร 2500 วอน แล้วก็จ่ายตังค์อัดเข้าบัตรไป
บัตรนี้แนะนำค่ะ


*ภาพจาก http://4.bp.blogspot.com/

 

รถไฟใต้ดิน
ในโซลแทบจะเหมือนญี่ปุ่นค่ะ รถไฟใต้ดินยั้วเยี้ยมาก
ที่เที่ยวแทบทุกที่มีรถไฟใต้ดินไปถึง ใชับัตร T-Money จ่ายได้
ราคาเริ่มต้น 1000 วอนค่ะ ส่วนใหญ่ย่านเมืองก็ 1000 วอนหมด
ถ้านั่งไกลหน่อยเขาก็บวกเพิ่มไป ส่วนใหญ่ไม่เกิน 5000 วอนหรอกค่ะ ไม่แพงนัก

รถบัสนั่งออกนอกเมือง
มีรถบัสหลายสถานีหลัก (อารมณ์หมอชิต สายใต้ใหม่ เอกมัย ไรงี้)
อยู่ที่เราว่า เราจะเลือกเดินทางไปไหน
ราคาก็แล้วแต่ระยะทางใกล้ไกล สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.in1guide.com/index.php?topic=55.0

 

02 Seoul – Zone 1

ย่าน Anguk / วังเคียงบก /วังด็อกชาน / หมู่บ้านบุกชอน /คลองชองเกชอน / อินซาดง

โซนที่ 1 จะอยู่ในละแวกใกล้ๆ กันหมดค่ะ นั่งรถไฟสักป้ายสองป้าย หรือ เดินไปได้
เรามาเริ่มกันแต่ละจุดกันค่ะ

1 วังเคียงบก Gyeongbokgung Palace
วังนี้แทบจะเหมือนพระราชวังต้องห้ามในปักกิ่งอยู่แล้วค่ะ ทุกคนก็ต้องมากัน

ตัววังทุกวันจะมีเดินสวนสนามช่วง 11 โมง
และตอนกลางคืนก็จะมีการแสดงให้ดูด้วยค่ะ

แค่จากหน้าวังไปจนถึงหลังสุดก็แสนไกลมากมาย มีห้องหับต่างๆ เขียนบรรยายไว้
(เรื่องประวัติศาสตร์เราไม่เล่านะคะ หาอ่านเอาได้เยอะแยะ) ส่วนด้านหลังวังมี Folk Museum
อันนี้จะออกแนวพื้นบ้าน มีของชาวบ้านสมัยก่อนไว้ จับปลายันหุงข้าว ทอผ้า

ค่าเข้าวัง คนละ 3000 วอน ปิดวันอังคารนะเคอะทุกคน

ส่วนด้านข้างซ้ายของวัง จะเป็น National Palace Museum of Korea ค่าเข้าฟรีอันนี้
จะต่างจาก Folk Museum ตรงที่ของจะแบบราชวงศ์กว่า (ดูไปก็เกทบ้างไม่เกทบ้าง)
หมึกพิมพ์ ปิ่นปักผม ถ้วยชามไหหม้อราชวงศ์ ฯลฯ ไรงี้

วิธีการไปทั้งหมด 
รถไฟใต้ดินสายสีส้ม สถานี Gyeongbokgung ทางออก 5
หรือจากสถานี Anguk ถึกก็เดินได้ค่ะ

 

2 หมู่บ้านบุกชน Bukchon hanok village 
โซนด้านขวาของวังเคียงบก เป็นย่านหมู่บ้านเกาหลีโบราณ ด้านซ้ายของพระราชวังชางด๊อก
เป็นย่านที่มีร้านแนวๆอยู่เยอะ มีรร.หลายแห่งเพราะเห็นเด็กนักเรียนเดินไปมาเต็มไปหมด

ย่านนี้มีคาเฟ่อยู่เยอะมาก ร้านขายพวกงานดีไซน์ เครื่องปั่นบ้าง
และพวกร้านถ่ายรูปอยู่หลายร้านอยู่ แต่บรรยากาศก็ดูสงบๆปนวินเทจโบราณๆดี
เหมาะสำหรับคนอยากเดินชิวๆมาก แถวนี้

คาเฟ่เก๋ ย่านนี้
Dooroo Roasting House
ร้านขายกาแฟที่จะคั่วกาแฟใหม่ๆ จากทั่วทุกมุมโลก
และมีขนมวาฟเฟิลกับขนมปังอบขายด้วย

Blacksmith Pizza 
ร้านติดกับ Dooroo เขาว่าเป็นร้านพิซซ่าที่ อร่อยที่สุดแห่งหนึ่งในโซลเลยทีเดียว
เขามาในร้านจะแต่งแนว industrial เหล็กๆ คนเต็มร้านเลย รับประกันความอร่อย

ที่เรียกว่า Blacksmith Pizza เพราะเดิมเจ้าของเป็นช่างตีเหล็ก
แต่ดันอยากทำพิซซ่า เลยบินไปอิตาลีเพื่อเรียนทำพิซซ่าขายโดยเฉพาะ
จนมาเป็นร้านพิซซ่าร้านดังทุกวันนี้ เวลาเสริฟจะวางถาดเหล็กข้างใต้จุดไฟ
เพื่อให้พิซซ่าร้อน ชีสไหลเยิ้มตลอดเวลา และจะเสริฟคู่กับผักดอง ไว้แก้เลี่ยน
(ไม่ว่าอาหารประเภทไหน ชาติไหน ในเกาหลีมักจะมีผักดองเป็นเครื่องเคียงด้วยเสมอ)
อร่อยโคดดด นอกจากพิซซ่า ก็มีพวกสลัด พาสต้าด้วย

roam to roam
เป็นร้านที่อยู่แถวย่านจุดถ่ายวิวบ้านเก่า 8 จุด
เป็นร้านขายของดีไซน์ที่เน้นเป็นพวกเกี่ยวกับเดินทาง
พวกสมุดบันทึก แผนที่ ปกพาสปอร์ต พวกนี้

วิธีการไป รถไฟใต้ดินสีส้ม สถานี Anguk ทางออก 2 หรือ 3 เดินตรงโลด

 

3 วังชางด็อก Changdeokgung Palace

วังนี้ก็อยู่แถวสถานี Anguk เดินได้ อารมณ์เหมือนมาเคียงบกต้องมาชางด็อก
เอาเข้าจริง สองวังนี้หน้าตาคล้ายๆ กัน (แต่เคียงบกจะใหญ่ อลังการกว่า)
ถ้าใครสนใจมาทัวร์วังก็มีทัวร์อีกหลายวังมาก (แต่พวกเราขอข้ามนะคะ)
อีกอย่าง วังนี้เป็นมรดกโลกด้วยค่ะ

ค่าเข้าวัง คนละ 3000 วอน (ถ้าเข้าสวนด้านหลังเสียเงินเพิ่ม แต่มีคนบอกว่าสวยนะ)

 

4 อินซาดง Insadong

อินซาดงเป็นเหมือนย่านฮิประดับหนึ่ง เป็นซอยแห่งงานศิลป์ ของเก่า
กลางคืนมีดนตรีเปิดหมวก มีห้าง ร้านขนม คาเฟ่เก๋ๆ ขายของมากมาย
ถ้าจาก Anguk เริ่มเดินเข้า Insadong ไปจนสุดทางจะใกล้คลองซองเกชอนมากแล้ว

ทางเข้าจาก Anguk จะเจอพู่กันอันยักษ์ตั้งอยู่

Beautiful Tea Museum
เป็นร้านชา เดินเข้าไปในซอยตรงที่ขายเครื่องปั่นดิน
เผาเยอะๆ เป็นร้านชา ที่มีมิวเซียมชาของเกาหลีอยู่
กับพวกเครื่องปั่นเกี่ยวกับชา แล้วก็มีคาเฟ่ขายชาให้เลือกหลายแบบด้วย

Ssamziegil
ตึกขายของรวมๆ มีร้านขนมอุนจิ ร้านข้าวกล่องเขย่าด่านบนด้วย

 

5 ย่าน ซัมซองดง Samcheong Dong
ย่านทางขวาของวังเคียงบก ก่อนถึงบุกชอน ย่านนี้จะเป็นแกลเลอรี่เก๋ๆ เยอะ
ไปจนถึงมิวเซียมอย่าง MMCA (National Museum of Modern and Contemporary Art)
ย่านนี้สามารถเดินจากวังเคียงบกไปได้เลย
และรูปที่ทุกคนชอบถ่ายกันใน MMCA อย่าง Blueprint แสนฮิปจริง

ถ้ามีบัตรนักศึกษาเข้าฟรี หรือมีนิทรรศการพิเศษ 4000 วอน / คน

เกี๊ยวยักษ์ – Hwangsaengga Kalguksu (ฮวางแซงคา คาลกุกซู) 
ร้านขายเกี๊ยวยักษ์ กับก๋วยเตี๋ยวของหมู่บ้านโบราณ
เกี๊ยววังมันดู เกี๊ยวชิ้นใหญ่มาก
ข้างในมีเนื้อ ผัก กินแค่ 3 ลูก จุกแล้ว อร่อยมากกกกก

 

6 ย่านโซซอน Seochon

ย่านนี้อยู่ทางด้านซ้ายของวังเคียงบก จะมีพวกคาเฟร้านในตรอก อีกเหมือนกัน

Mk2 คาเฟ่สไตล์ยุโรปยุค 50’ มีเฟอร์นิเจอร์ขายด้วย

Ep.3 Black Essence 
ร้านกาแฟที่มีของขายเกี่ยวกับกาแฟทั้งหมด ตั้งแต่เครื่องชงยันเมล็ด
บรรยากาศร้านแบบทำให้กระบวนการของกาแฟทั้งหมด
ตั้งคัดเมล็ด คั่วเมล็ด มีรร.สอนชงกาแฟข้างในด้วย แถมพนักงานหน้าตาดีทุกคน

 

7 คุกโซแดมุน Seodaemun Prison History Hall

คุกนี้อยู่ไปทางซ้ายของวังเคียงบก ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากัน (คนน้อยก็ยิ่งหลอนมากขึ้น)
ตามประวัติคร่าวๆ คุกนี้สร้างสมัยเกาหลีตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น
พอญี่ปุ่นมาปกครองก็มีการเปลี่ยนระบบกษัตริย์ คุกนี้ส่วนมากจึงจองจำนักโทษทางการเมืองส่วนใหญ่


มีหลายห้อง และให้เราเดินเข้าไปได้ด้วย บางห้องก็เอารูปนักโทษที่เคยอยู่ที่นี่มาแปะเต็มกำแพง


ค่าเข้าชม 3000 วอน
วิธีการไป รถไฟใต้ดินสีส้ม สถานี Dongnimmun ทางออก 5 นะเคอะ
ตามไปดูเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.deeryarch.me/south-korea/seoul/

 

8 คลองชองเกชอน Cheonggyecheon

สมัยก่อนคลองนี้นี่เหมือนแสนแสบบ้านเราได้ แต่รัฐบาลเขาลงทุนกันใหม่ ปรับรูปแบบใหม่
ปัจจุบันเลยเป็นอย่างที่ทุกคนเห็น กลายเป็นพื้นที่ใหม่ๆ อากาศดี ให้นั่งพักผ่อนกัน

ถ้าเราเริ่มเดินจากหน้าวังเคียงบก มาทางพระเจ้าเซจง เดินมาเรื่อยก็จะเจอคลอง
ถือเป็นเส้นทางชื่นชมเมืองเลย ชิวๆ ริมคลอง





การที่เราจะลงทุนอะไรสักอย่างแล้วตั้งใจฟื้นฟูมันจริง มันทำได้และออกมาดี
บ้านเราทำอะไรกันดีนะ??



 

03 Seoul – Zone 2 

ย่านเด็กมหาลัย Ewha / Hongik University / ผับเกาหลี

โซนนี้ก็ยังฮิปเหมือนโซนที่แล้ว แต่ลาก่อนวัดวังอาราม เรามาดูเด็กเอ๊าะ
งานมหาลัยกันดีกว่า พร้อมด้วยชีวิตเด็กเที่ยวยามค่ำคืน จัดไป

1 Ewha University 
มหาวิทยาลัยสตรีชื่อดังสุดของเกาหลีแล้ว มาย่านนี้ก็จะเจอแต่หญิงเกาหลี
(ที่หน้าตาดีแทบทุกคน ผิวนี่งามจนอิจฉา) ยิ่งมาช่วงเช้า กำลังเข้าเรียนคนจะเยอะมาก
จุดพีคสุดของที่นี่คือ อาคารเรียนรวม ที่ฮวงจุ้ยดีสุดๆ แอบเดินเข้าไปได้ด้วยนะ





 

2 Hongik University หรืออีกชื่อคือ ฮงแด HongDae 
ย่านนี้มากเพราะนักศึกษาเยอะมาก จะมีร้านเก๋ๆ เยอะมากมาย และวัยรุ่นเยอะแยะ
ส่วนพวกเครื่องสำอางแบรนด์ดังก็มีทุกที่อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง


Softree 
ร้าน softcream เจ้าดัง หลายสาขา มีรังผึ้งวาง อร่อยดี แต่รังผึ้งติดฟันไปหมด


Handmade Flea Market
ตลาดนัดทำมือ มีทุกเสาร์อาทิตย์ มาเดินเล่นกันได้ ของเก๋




ร้านเสื้อผ้าสุดฮิต Style Nanda 
ดังมากในหมู่เพื่อนๆ ถึงขั้นฝากซื้อ
ตัวร้านเองมีถ่ายรูปสติกเกอร์ฟรี อย่าลืมไปเด็ดขาด

ช็อปออนไลน์ได้ที่ –  http://en.stylenanda.com/


ร้านเสื้อผ้า Select Shop – A Land
ใครชอบแฟชั่นมิควรพลาด มีสินค้าเก๋ๆหลายๆแบรนด์มารวมกัน และ แน่นอน
ราคาก็ไม่เบาเช่นกัน แต่ลองเดินเข้าไปชมแฟชั่นเกาหลีกันซักหน่อยเนอะ เ
ดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง 555 มีหลายสาขาตามแหล่งฮิปๆ ทั่วไปอย่าง Ewha เมียงดง Samcheong Dong มีหมด

ช็อปออนไลน์ได้ที่ –  http://www.a-land.co.kr/shop/main/index.php

 

3 Night Club ย่านฮงแด เป็นที่ตั้งผับดังทั้งหลาย
ถ้าใครเคยเซิสก็จะเจอเจ้าดังสุดคือ Cocoon แต่เราไม่พาไปหรอก

NB2 CLUB 
แหล่งเที่ยวของย่านเด็กฮงแด เสียค่าเข้าคนละ 15,000 won
เข้าตอนประมาณเที่ยงคืน แต่ถ้ามาเร็วกว่านี้เห็นบอกว่าจะถูกกว่า
เหลือประมาณ 12,000 won (อันนี้ไม่มั่นใจ)

ราคานี้สามารถเข้าไปเอา free drink ได้ beer 1ขวด
ที่นี้ให้ฟิวแบบมาข้าวสารบ้านเรานิดนึง คือ ไม่ต้องแต่งตัวดีมาก
ทุกคนมาเพื่อมาเต้นกันจริงๆ เปิดทั้งเพลงสากล และเพลงเกาหลี
มีช่วงเพลงช้าลงให้พัก ก่อนจะบิ้วอัพบีทขึ้นมาให้โชว์สเตปกันอีกหลายๆ รอบ

โซนพื้นที่ตรงกลางเอาไว้ให้เต้นรวนกัน แถมมีเวทีให้คนบางส่วนขึ้นไปยืนหันหน้าเข้าหากัน
เพื่อความมันส์ด้วย ร้านนี้เปิดถึง 7 โมงเช้า คือไม่ต้องรีบมากได้ เรียกว่า
นอนก่อนซักตื่นแล้วค่อยตื่นมาเต้นก็ยังทัน555

OCTAGON CLUB
เลิศเลอคะ ที่นี้ก็คงเปรียบอารมณ์ Falabella บ้านเรามั้ง
ทุกคนจัดเต็ม ทั้งหน้า ทั้งชุด เรียกว่าออกมาจากแมกกาซีนกันเลยทีเดียว
ทุกคนสวย หล่อเต็มที่ และแน่นอน ค่าเข้า ย่อมแพงกว่าอีกเท่านึง 30,000 won
แถม cocktail 1 แก้ว ที่นี่เป็นผับที่อยู่ใต้โรงแรม New Hilltop Hotel

เน้นเพลงติ๊ดเป็นหลัก แบ่งเป็นหลายๆ โซน ทั้งแบบมีโต๊ะ แบบบาร์
และแบบเต้นอย่างเดียวหน้าเวที ใครที่เต้นมันยับก็ระวังหนุ่มๆ เกาหลีไว้บ้างก็ดี
ไม่รู้ทำไมเข้าชอบมาประกบข้างหลัง เต้นมันส์ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยนะเค๊อะ
ควรไปกับกลุ่มเพื่อนๆ นะ กลับบ้านจะได้ขึ้นแท็กซี่ปลอดภัย
เวลาก็เปิดยันเช้าพอๆกัน ใครชอบแบบไหนก็ลองไปโชว์สเตปกันดูนะ

เพิ่มเติม
แท็กซี่ที่นี่ มี 2 เรท ถ้าเป็นตอนกลางคืน
จะเริ่ม มิเตอร์ที่ 2,800 won เวลาปกติ เริ่มต้นที่ 2,600 won
แต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือ มีเวลา peak time คือ ไม่คิดราคาตามมิเตอร์นะคะ คิดตามใจฉัน
ออกแนวเหมือนแท็กซี่บ้านเราเรียกราคาจากชาวต่างชาตินั่นแหละ

แต่อันนี้คนเกาหลีเองก็โดน ส่วนมากที่เจอจะประมาณ 20,000 won เหมาๆ กลับที่พัก
ช่วงเวลาก็ประมาณ เที่ยงคืน บวกลบ 1 ชั่วโมง แท็กซี่เค้าถือว่าเค้าเลือกได้นั่นเอง…
เพื่อนชาวเกาหลีบอกว่าคนเกาหลีเลยนิยมใช้วิธีโทรเรียกแท็กซี่แบบ call centre แทนถูกกว่า

ย่านนี้ รถไฟใต้ดินสีสายเขียว ลงสถานี Ewha University หรือ Hongik แล้วแต่ใจชอบค่ะ

 

04 Seoul – Zone 3 

ทงแดมุน / DDP / นัมแดมุน / ตลาดกวางจา / เมียงดง / หอคอยนัมซาน

1 ทงแดมุน Dongdaemun
บอกตรงๆ ว่า พลาตินัมบ้านเราชัดๆ ค่ะ (ไม่รู้ใครก็อปใคร)
ดังนั้นร้านเสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่บอกว่า อิมพอร์ตจากเกาหลี
ก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างนะคะ เพราะย่านนี้ไม่ใช่สวยทุกตัวค่ะ



แต่ความดีงามของย่านนี้คือ สถาปัตยกรรมล้ำอวกาศที่สุดในสามโลกอย่าง DDP
(ย่อมาจาก Dongdaemun Design Plaza) ที่ผ่านฝีมือการออกแบบกับสถาปนิกระดับโลก
Zaha Hadid คือหาไม่ยากมาก เดินออกรถไฟใต้ดินเดินนิดนึง
ตึกนี่ขัดกับพวกแก๊งพลาตินัมมากๆ




ข้างในตอนนี้มีนิทรรศการ โทมินจุนฉิ ด้วยค่ะ
เสียค่าเข้า 10000 วอน เข้าไปก็เป็นพวกฉากต่างๆ ฉากในห้องพระเอก รองเท้า กระเป๋า อะไรงี้
น่าจะฟินสำหรับสาวกมากเค่อะ





ห้องนอนโทมินจุน ห้องทำงาน ห้องนอนชอนซงอี (เห็นแบบนี้ดูทุกตอนนะคะ)

วิธีการไปทงแดมุน
รถไฟใต้ดินสายสีฟ้า หรือ สีน้ำเงินเข้ม สถานี Dongdaemun

 

2 นัมแดมุน Namdaemun

เป็นโซนตลาดขายของเก่า คล้ายๆคลองถมบ้านเรา ขายอุปกรณ์เครื่องครัว
ใครอยากได้เครื่องครัวเกาหลี แนะนำที่นี้ แล้วก็พวกอุปกรณ์ที่ทำจากโลหะต่างๆ
หลายประเภท แล้วก็มีร้านขายอุปกรณ์เดินป่าด้วย
มีหลายร้านอยู่ ราคาไม่แพง ลองมาดูกันได้


วิธีการไปนัมแดมุน
รถไฟใต้ดินสายสีฟ้า สถานี Hhoehyeon

 

3 ตลาดกวางจา Gwangjang Market

เป็นหนึ่งในตลาดสดขนาดใหญ่ที่สุดของโซล
ขายของพวกอาหารเกาหลี กิมจิ อาหารทะเล เยอะแยะ
และถ้าใครอยากกินอาหารเช้าแบบเกาหลี ก็แนะนำให้มาลองกินที่นี้ดูอยู่ใกล้ๆ Dongdaemun

จะมีร้านเป็นแผงลอยเกือบ 100 ร้าน แล้วก็มีอาจุมม่าขายอยู่ตรงกลางค่อยควักมือเรียกมากิน
ก็เป็นพวกกิมบับ ไส้กรอกเลือด ต๊อก ซุปเนื้อพวกนี้




คำเตือนอย่าหลงคารมป้า งั้นของกินบานแน่ กินไม่หมด
ป้าแกจะถามลองไหมๆ ตลอด เสนอขายของตลอด
ไปๆมาๆเยอะโคด กินไม่หมด งบเกินอีก 55

วิธีการไปตลาดกวางจา
รถไฟใต้ดินสาย1 สีน้ำเงินเข้ม สถานี Jongno 5-ga station ทางออก 8

 

4 เมียงดง Myeongdong
แทบไม่ต้องแนะนำแล้วย่านนี้ มันเปรียบเสมือนสยามบ้านเรา
แหล่งช็อปปิ้ง จะเข้าช็อปไหน มีหมดค่ะ (อ้าวแล้วเราจะแนะนำทำไม)
ไม่รู้จะแนะนำอะไร มันมีหมดอะ


ร้านไก่โสม ออริจินัล 
มาเกาหลีทั้งทีควรลอง แต่ดันจำพิกัดไม่ได้
อยู่แถวเมียงดง ต้องขึ้นตึกไปด้วย (ยากละ)
เอามาให้ดูละกัน ชามนี้ 14000 วอน

ร้านชาจากเกาะเจจู Osulloc 
อร่อยดี มีหลายสาขามาก ไปยังไงก็เจอ อย่าลืมไปลองนะคะ

Coin Cafe
ร้านคาเฟ่เก๋ๆ ที่เข้ามาเจอแต่ลูกค้าอาจุมม่า
ขอให้ลองน้ำแข็งไสชาเขียวถั่วแดง Green Tea BingSu
ถึงกับฟินมากกกก เพราะรสชาติแบบชาเขียวแท้ไม่หวานจนเกินไป
ทั้งไอติมและน้ำแข็งใสชาเขียวเข้ากันดี ตามมาด้วยโมจิเหนียวหนิบอยู่รอบๆ
และแอบมีถั่วซ่อนอยู่ข้างในก้อนภูเขาน้ำแข็ง
ดีงามมากร้านนี้

วิธีการไปเมียงดง
รถไฟใต้ดินสายสีฟ้า สถานี Myeongdong

 

5 หอคอยนัมซาน N-Seoul Tower
หอคอยนี้อยู่บนยอดเขานัมซาน เขาก็เลยมีหลายชื่อเหลือเกิน
ที่ชาวประชาแห่งโลกนี้ต้องมากัน
พร้อมโยนกุญแจแห่งรักตามกวนมึนโฮไปด้วยนะ




วิธีการไปหอคอยนัมซาน 
รถไฟใต้ดินสายสีฟ้า สถานี Myeongdong ทางออก 3/4 จากนั้นเดินจะเจอจุด Cable Car
แต่อีกวิธีเวิกคือ นั่งรถบัสจาก Itaewon (ขึ้นใต้ดินมาแล้วหาป้ายรถเมล์เลย แล้วหาว่ามีสายนี้ไหม)
นั่งสาย 03 Namsan Tour ลงป้ายสุดท้าย เดินนิดนึง ถึงหอคอยเลย ราคา 850 วอน
หรือจะเดินขึ้นเขากันก็ได้นะ โรแมนติกที่สุด

ค่าขึ้นหอคอยคนละ 7000 วอน (แต่บางทีมันจะชอบขายเป็นเซ็ท
คอมโบพร้อมป๊อปคอร์นไรงี้ ลองไปดูหน้างานเอา ราคาไม่ต่างกันมาก)

 

05 Seoul – Zone 4 
ย่านเด็กแนว ฮิปสเตอร์ กังนัม กาโรซุกิล อิเทวอน

1 กังนัม Gangnum
โอปป้ากังนัมสไตล์ แถวนี้ไม่มีใครเปิดเพลงนี้แล้วนะ
ย่านนี้ถือเป็นย่านไฮโซเชี้ยๆ ใครมีบ้านอยู่ที่รวยล้นมาก
ย่านนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นร้านอาหารเก๋ๆ ที่เรียนกวดวิชา กับคลีนิคศัลยกรรม

Bbiduri pocha, Hakdong-ro 2-gil
ร้านขาหมู! ร้านนี้ตั้งอยู่ในย่านของกินที่เรามาโดยบังเอิญ
ขณะเดินเลือกร้านอยู่ซักพัก ลูกค้าหน้าร้านนี้ถึงกับพูดภาษาอังกฤษกับเรา
ชักชวนให้เข้ามากินบอกร้านนี้อร่อย แถวยังบอกให้ดูจำนวนคนที่มากินซิ เยอะขนาดนี้อร่อยแน่นอน!


วิธีการกินก็ง่ายๆ เหมือนกินเนื้อย่าง คือ คืบหมู ห่อพัก ใส่กระเทียมและน้ำจิ้ม
ตบท้ายด้วย มักโกลี่ (Makguli) เหล้าที่ทำจากข้าวของเกาหลี อร่อยดีนะ ไม่แรงเท่าโซวจู

วิธีการไป : รถไฟใต้ดินสายสีเขียว สถานี Nonhyeon Station, Exit2

Charcoal Grilled Spareribs restaurant, 마포숯불갈비 [Mapo-sutbul-galbi]
เนื้อย่างเกาหลีดั้งเดิม กินห่อผักแถมเครื่องเคียงแน่น
ร้านนี้มีเพื่อนเกาหลีแนะนำให้มาทาน ดูจากภายในร้านคาดว่าดังอยู่
เพราะมีลายเซ็นดาราเกาหลีมากมายการันตรีความอร่อย
แฟนๆคลับเกาหลีก็ลองแวะกันไปทานได้นะ ทั้งอิ่มตาอิ่มใจกันเลยทีเดียว
เผลอๆอาจจะเจอตัวจริงก็เป็นได้

ที่ตั้ง : 62-6 Nonhyeon-dong, Gangnam-gu, Seoul
รถไฟใต้ดินสายสีเขียว สถานี Nonhyeon Station

Gangnam underground 
แหล่งช็อปปิ้งเหมือนพลาตินัมใต้ดิน อยู่ใกล้กับกังนัม
ของถูกมากๆ เหมาะแก่การช็อปเป็นอย่างยิ่ง

วิธีการไป ลงสถานี Central City Express Bus Terminal

 

2 กาโรซุกิล Garosu-gil

เป็นถนนระหว่างย่าน Sinsa และ Apgujeong แถวๆ กังนัม
ย่านนี้เพิ่งจะเริ่มฮิตสำหรับคนไทย เป็นอะไรที่ฮิปมากมาย
มีคาเฟ่เก๋ ช็อปเท่ๆ ตรึม ใครบ้าดีไซน์ควรมาอย่างยิ่ง




FIKA Scandinavian Design House
เป็นร้านขายของดีไซน์แนวสแกนดิแนเวีย พวกสวีเดน
มีแทบทุกประเภท ของน่ารักดี แล้วก็มีโซนคาเฟ่ด้วย

Le Alaska 
เป็นร้านเบเกอรี่แนวฝรั่งเศส ที่ร้านน่ารักมาก มีขนมปังหลากหลาย
เช้าๆจะมีแม่บ้านญี่ปุ่นพาลูกมากินเต็มไปหมด
สั่งขนมแล้วเขาจะเอาไปอุ่นนั่งกินในร้านได้
มีพวก brunch ด้วย(อาหารเช้า + เที่ยง กินตอนสายๆ)




Coffee Smith
ร้านกาแฟร้านดังของเกาหลีที่มีอยู่แทบทุกย่าน แต่สาขานี้ใหญ่มาก
เหมือนเป็นจุดนัดพบของคนที่มาเดินย่านนี้เลย


Jaju 
เป็นร้านขายของดีไซน์ที่เพิ่งเปิด เป็นตึกแบ่งเป็นชั้นๆ
เสื้อผู้หญิง เสื้อผู้ชาย ของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว


Mango Six
ร้านนี้ทุกคนน่าจะคุ้นเคยอยู่แล้ว ที่นางเอก The Heirs ไปเป็นพนักงานที่นั่น
ขายเครื่องดื่มจากมะม่วง สาขาเยอะไปหมด มาลองมะม่วง มะพร้าวปั่น
รสชาติคือข้าวเหนียวมะม่วงบ้านเรามาก 55 มากินที่บ้านเราเหอะ


Boto 
เป็นร้านขายประมาณขนมหวานเพื่อสุขภาพ เป็นกล้วยปั่น ผสมธัญพืช
แล้วก็ท๊อปปิ้งผลไม้เยอะๆ ถั่วๆ อร่อยดี คนเยอะ



La eskimo
คาเฟ่ขายพวก Brunch นั้นแหละ ร้านเก๋ดี




Soft Ice Cream
ร้านขายไอติม ที่เจ๋งต้องโปะสายไหมเพิ่มด้านบนด้วย โคดอ้วนเลยยยยยย


La Pomme
ร้านขายขนมอารมณ์ฝรั่งเศส มีเค้กโรลชาเขียวดัง



Paper Garden Allo &Talk Service 
paper garden เป็นร้าน brunch ที่ดังและเขาว่าอร่อยที่สุดในย่านนี้
แต่ราคาก็โหดตามไปด้วย แล้วก็มีร้านคาเฟ่เพิ่มขึ้นมา Talk Service ขายกาแฟ
จัดร้านได้อารมณ์นั่งชิวๆดี แนะนำลองไปนั่งดู




Around the corner
ร้านนี้มีหลายสาขา จะแบ่งเป็นโซนชายกับหญิงไปเลย แนวจะออกดีไซน์เกาหลี-อเมริกา


Korean Dessert Cafe SULBING
ร้านนี้ขอแนะนำให้มากิน เป็นร้านขนมสไตล์เกาหลี
ที่เด่นที่โทรสที่โรยด้วยผงถั่ว กับน้ำแข็งไสผสมโมจิ
โรยด้วยผงถั่วแล้วก็ราดด้วยนมข้น อร่อยมากกกก อยากให้ลอง



จขกท. ไม่ได้ไปพร้อมกับอีก 2 คน มันดันเจอกัน !!!!

วิธีการไป นั่งรถไฟใต้ดินสายสีส้ม ลงสถานี Sinsa หรือ Apgujeoung ก็ได้หมด

 

3 อิเทวอน Itaewon
อยากมาหอคอยนัมซานก็มาที่แถวนี้ได้
ย่านนี้จะอารมณ์ร้านแบบไปทางยุโรปๆซักส่วนมาก
เป็นย่านแนวๆอีกย่านมีผับ ร้านสวย และร้าน Brunch ดีๆอยู่เยอะ
คือใครมาหาความเกาหลีย่านนี้ ไม่ต้องมา
เวลาที่เหมาะสุดคือ บ่ายเย็นๆ เพราะเช้าๆ เขาก็ยังไม่ตื่นกัน



Leeum Museum
เป็นมิวเซียมของซัมซุง ถ้าเป็นหนึ่งในเด็กเรียนอาร์ทก็มิควรพลาด
ตัวตึกและอินทีเรียข้างในสวยงามดี

ข้างในมีมิวเซี่ยมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
คือ 1 ส่วน ถาวร ออกแนวเป็นของโบราณ ถ้วย แจกัน ภาพวาดในสมัยก่อน
ค่อนข้างใหญ่และมีหลายชั้นมาก ถ้าจะอินต้องใช้เวลานิดนึง

ส่วนอีกอันเป็น นิทรรศการหมุนเวียน จะเน้นเป็นแนวงาน Contemporary Art
มีขนาดเล็กกว่าอันถาวร ประมาณ 2 ชั้น ซึ่งทั้งหมดไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป
และ ต้องฝากกระเป๋าด้วย (อย่าลืมบัตรนักเรียนเช่นเคย)





Pizzeria D’ Buzza
ร้านพิซซ่าน่าสนใจ น่าจะดังมากพอสมควร
เพราะเดินผ่านไปและผ่าน คนก็ยังต่อคิวเต็มหน้าร้านเลย

MMMG
คือร้านขายเครื่องเขียนแบรนด์เกาหลี มีดีไซน์สุด
MMMG มาจาก millimeter/milligram
ที่มีความหมายว่า “Mind the small differences and true hearted”
สาขาอิเทวอน จะมีร้านแบ่งเป็นชั้นๆ มี กระเป๋า Freitag ร้านขายหนังสือ และร้านจักรยานด้วย



วิธีการไป : รถไฟใต้ดินสายสีน้ำตาล สถานี Itaewon

 

06 นอก Seoul 
โซรัคซาน / DMZ (ชายแดนระหว่างเกาหลีใต้ กับ เกาหลีเหนือ)

1 โซรัคซาน 
เป็นอุทยานแห่งชาติ คนเกาหลีเขาก็นิยมมาท่องเที่ยว ปีนเขา (อารมณ์ตามซีรีย์)
ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยพบวัยรุ่น จะเจอแต่อาจุมม่าทั้งนั้น (พร้อมพรอพที่จัดเต็มมาปีนเขา)

ค่าเข้าอุทยานคนละ 3000 วอน
แต่ถ้าอยากจะนั่งกระเช้าขึ้นไปชมวิวก็เสียเงินอีก 9000 วอน (ไปกลับ)

เรามาเริ่มกันตั้งแต่วิธีการไป
นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Gangbyeon สายสีเขียว exit 4
ตรงนั้นจะมีขนส่ง Dong Seoul Bus Terminal อยู่ ก็เดินไปซื้อตั๋วได้ ราคาตั๋ว 17300 วอน

ซื้อตั๋ว DongSeoul ไป Sokcho (เมืองซกโซ) นั่งไปประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที

เมื่อถึง ให้นั่งรถเมล์หน้าสถานีขนส่งสาย 7-1 นั่งไปเลย สุดสาย ก็ถึงโซรัคซาน
ขากลับก็ทำแบบเดียวกัน

** รายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติม ดูที่
http://korea-guides.blogspot.com/2012/04/blog-post_2604.html

ถึงแล้ว ก็มาถ่ายฉากหมียักษ์ที่ทุกคนมาถ่ายหน่อย

ขึ้นกระเช้าไปชมวิวและปีนเขา (ถ้าตอนมีหิมะจะสวยมาก แต่ก็ปีนแล้วลื่นมาก)


เห็นยอดธงลิบตานั่นมั๊ยคะ เราจะปีนขึ้นไปถึงนั่นกัน

ปีนขึ้นไป วิวนี่ ถ้าหิมะนี่นอร์เวย์ละ





ขอไปรวมแจมกับคุณลุงเขาด้วย บอกแล้วทุกคนชุดจัดเต็มมาก

โซนอื่นๆ ของที่นี่ก็เป็นเชิงไหว้พระไหว้เจ้า น่าจะมีรีวิวไว้เยอะมากแล้ว

สรุปว่า ที่นี่ถ้ามีเวลาก็อยากให้ลองมา เพราะปีนเขาสนุกดี
เป็นประสบการณ์ใหม่เผื่อเบื่ออะไรที่ชิคๆ ชิวๆ ในเมืองแล้ว
มาแอดเวนเจอร์บ้าง สนุกดี ยิ่งหิมะตกจะสวยงามมาก

 

2 DMZ (Demilitarized Zone)

DMZ ชื่อเต็มคือ Demilitarized Zone มันคือเขตปลอดทหาร
เป็นพื้นที่ระหว่างชายแดนเกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือค่ะ
ซึ่งแต่ละประเทศเขาก็วัดกันออกมา 2 กิโล อิ 4 กิโลนี้แหละคือ DMZ

การมาที่นี่ได้คือ มาเองไม่ได้ค่ะ ต้องซื้อทัวร์มาอย่างเดียวเท่านั้น
คืออยากรู้ว่ามันเป็นยังไง ก็เลยลองไปดู แถมหลายที่ห้ามถ่ายรูปอีก

เราซื้อทัวร์ออนไลน์เอา (จองไว้ จ่ายเงินหลังจบทริป) เขาก็จะมารับเราที่หน้าโรงแรม
เข้าไปจองที่ http://www.dmztours.com/seoul_dmz_tours.htm
เราเลือกแบบครึ่งวันพอ ที่ไปหลักๆ ครบหมด ราคา 40000 วอน

หรือจะจองกับโรงแรมก็ได้นะคะ ส่วนใหญ่มีโบรชัวร์เต็มไปหมด ชาวต่างชาติไปกันเต็ม
รถบัสมารับ นั่งจากโซลไปชายแดนไม่ไกล ไกด์ก็พูดไปเรื่อย นู่นนี่นั่น

จุดที่ 1 สถานีรถไฟ IMJINGAK 
เป็นรถไฟที่ใช้งานจริงสถานีสุดท้ายก่อนชายแดนค่ะ
ตรงนี้ก็จะมีหัวรถจักรที่ถูกยิงจนพรุน อนุสรณ์ต่างๆ ผ้าผูกขอพร
ขายของที่ระลึกเยอะแยะ เขาก็มีเวลาให้ไปเดินชมได้





จุดที่ 2 อุโมงค์ที่ 3 The 3rd infiltration Tunnel
เกาหลีเหนือขุดพยายามอุโมงค์เพื่อมาทะลุเกาหลีใต้หลายครั้ง (ตอนนี้เขาหาเจอ 4 อุโมงค์)
ซึ่งแต่ละอุโมงค์ก็ฝังไดนาไมต์เต็มๆ อุโมงค์ที่ 3 คือใกล้กับโซล มากที่สุด
ห่างแค่ 50 กิโล ในนี้เขาห้ามถ่ายภาพ นักท่องเที่ยวก็เข้าไป
ใส่อุปกรณ์เซฟตี้เรียบร้อย แล้วก็เดินลงอุโมงค์กันไป (ชันมาก)


แถวนั้นก็มี Pavillion บรรยายประวัติความเป็นมา พวกของเก่าต่างๆ ให้ดู พร้อมถ่ายรูปจ้า


ภาพจาก http://www.seoulcitytour.net/
และ http://www.f-106deltadart.com

จุดที่ 3 หอสังเกตการณ์โดรา Dora observatory
เป็นจุดที่ใกล้เกาหลีเหนือที่สุดแล้วที่เราได้เห็น หอคอยนี้จะมีกล้องส่องทางไกล(เสียเงิน 500 วอน)
ให้หยอดแล้วก็ส่องไป เราก็จะได้เห็นเกาหลีเหนือไกลๆ มีสร้างเสาธง(ที่ใหญ่ที่สุดในโลก)
ตึกปลอมต่างๆ เพื่อบอกเกาหลีใต้ว่าเจริญ


หลังจากนี้ เขาก็ห้ามถ่ายภาพแล้ว (มีเส้นขีดไว้ห้ามเกิน)

จุดที่ 4 สถานีรถไฟ Dorasan 
สถานีรถไฟที่สร้างทุกอย่างเหมือนจริงหมดแล้ว พร้อมใช้งานแล้ว แต่เหลืออย่างเดียวคือ
เมื่อทั้งสองประเทศเปิดประเทศเข้าหากัน รถไฟก็พร้อมออกเดินทาง


ประโยคหนึ่งในสถานีรถไฟที่กินใจอย่างมากคือ
Not the last station from the South, but the first station toward the North


จากประวัติศาสตร์ ประเทศอื่นมาแบ่งแยกประเทศนี้ให้แยกออกจากกัน แล้วก็กลายเป็นทำสงครามกัน
ครอบครัว พี่น้อง ต่างพลัดพรากอยู่คนละประเทศ ไม่สามารถพบเจอหน้ากันได้อีก
มันคงจะดีที่สุด ถ้าเราได้มีโอกาสนั่งรถไฟสายนี้ไปสู่เกาหลีเหนือ

อ่านรายละเอียดมากขึ้น เข้าที่
http://seororolover.wordpress.com/2012/09/17/seoul-2012-%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89/

การเที่ยวนอกเมืองของเกาหลีก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
ถ้ามีเวลา นอกจากโซลแล้ว อยากให้ลองมากันดูค่ะ

 

07 รู้จัก AirBnB ที่พักทางเลือกแนวใหม่ 

และแล้วรีวิวเกาหลีมหากาพย์ก็จบลง ได้เวลาขายของแล้วค่ะทุกคน
คิดว่าทุกท่านคงคุ้นเคยกับโลโก้ Airbnb มาเยอะละ (เพราะเล่นแปะทุกรูป)
เขาเพิ่งเปลี่ยนโลโก และ rebranding ด้วย เราก็จัดอันใหม่เลย

ของเก่าเป็นอันสีฟ้าค่ะ

ขอเล่าก่อนว่า Airbnb คือ เว็บไซต์ www.airbnb.com ค่ะ
เว็บนี้มีเพื่อเชื่อมโยงคนทั่วโลกเกี่ยวกับที่พัก พูดง่ายๆ คือ เอาไว้แชร์ที่พักกัน

เหมาะกับใคร 
Backpacker ที่เบื่อการนอนโรงแรม โฮสเทลแล้ว อยากลองแบบวิถีชีวิตคนในประเทศนั้นจริงๆ
Traveller ใครก็ได้ ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ เบื่อโรงแรม อยากลองของใหม่
คนปกติที่มีบ้าน ก็สามารถเข้าเครือข่ายให้เพื่อนต่างชาติมานอนบ้านเราได้

ทีเด็ดกว่านั้นไม่ใช่แค่ตัวบ้าน โรงแรมค่ะ
Airbnb มีให้เรานอนตั้งแต่ ในเรือ ยันเครื่องบินก็มี อยู่ที่ว่า งบถึงมั๊ยและเจ้าของเปิดกับเราไหม

พวกเราจึงลองกับทริปเกาหลีนี่แหละ มันเวิกจริงรึเปล่า

STEP 1 เข้าที่ www.airbnb.com ค่ะ เข้าค่ะเข้า
หรือเข้าที่  https://th.airbnb.com/?af=2100566&c=th_blogger_gograph
(ถ้าเราสมัครไว้ แล้วแชร์ลิงค์แบบนี้ให้เพื่อน เราจะได้เงินเพื่อเอาไปลดราคาที่พักเราได้ค่ะ)

STEP 2 ก็เหมือนพวกเว็บจองที่พัก พิมพ์สถานที่ที่จะไปค่ะ วันเวลาไรงี้

STEP 3 เข้ามาก็จะเจอที่พักพร้อมหน้าตาเจ้าของมากมาย เลือกที่ชอบ ตรงใจและราคาค่ะ

STEP 4 เลือกที่ชอบแล้ว ดูรายละเอียดเรียบร้อย (เจ้าของหน้าตาเกาหลีมากค่ะ)
สมมติเราเลือกห้องนี้ เว็บเขาดีไซน์สวยงาม แถมรูปใหญ่อีก ตัดสินใจง่ายขึ้นเยอะ

STEP 5 เช็คราคาที่ด้านขวา กดจองที่ปุ่มสีชมพูเลย

STEP 6 กรอกข้อมูลบัตรเครดิต ก็เหมือนเว็บโรงแรมทั่วไป
แต่ดีตรงที่ เราจะสามารถสนทนากับเจ้าของบ้านได้เลย

STEP 7 เมื่อเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะส่งเมล์มาหาเรา พร้อมแนบเอกสาร แผนที่จัดเต็มมาก
บริการกันดีสุดๆ ค่ะ

ส่วนเรื่อง กรอกเข้าตม. คิดว่าไม่มีปัญหาค่ะ เพียงกรอกที่อยู่ที่พักเราลงไป
หรือปรินท์อีเมล์ที่เขาแนบมาให้ เป็นอันปลอดภัย : )

บางที่หน้าตาดีแค่ในรูปรึเปล่า มาลองดูของจริง พักจริง ทริปจริงค่ะ

เราเลือกย่าน Bukchon (ใน Zone 1) พักแบบบ้านเกาหลีโบราณมาก

เจ้าของบ้านก็เป็นมิตรมาก เหมือนมาอยู่โฮมสเตย์ครอบครัว
เขาก็สอนการใช้กุญแจบ้าน มีเมลอนมาต้อนรับ
พร้อมเล่นกับลูกเจ้าของบ้านด้วยนะ น่ารักจริงๆ



ไปเล่นห้องใต้เพดานกันด้วย
สิ่งเหล่านี้ที่โรงแรมให้ไม่ได้จริงๆ เจ้าของบ้านน่ารักกันมากๆ




มาลองอีกแบบนึงบ้าง เราเลือกพักย่าน กาโรสุกิล ย่านฮิป
ที่นี่เราไม่เจอเจ้าของบ้าน แต่ในเมล์เขาจัดรหัสประตูมาให้หมดแล้ว
อุปกรณ์ในห้องก็ครบหมด ไมโครเวฟ จานชาม คือทำกินเองได้เลย

ห้องน่ารักมาก ในราคาประหยัดที่อยู่ย่านใจกลางเมืองขนาดนี้



คิดว่าอันนี้เราไม่ได้ขายของขนาดนั้น เพราะในตัว Airbnb เองเขาดีอยู่แล้ว
และคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักกันมากค่ะ ถ้ามีโอกาสได้เที่ยวสักครั้ง ลองใช้ดูไม่สาย
หรือจะเอาบ้านตัวเองทำเป็นที่พัก เพิ่มโอกาสรู้จักเพื่อนใหม่ได้เยอะอีก
มีแต่ได้กับได้ค่ะ : )

คิดว่า Airbnb เป็นทางเลือกใหม่ให้คนได้ ไม่มากก็น้อย ยังไงลองใช้กันดูค่ะ

ทริปเกาหลีของพวกเราก็ขอจบเพียงเท่านี้ เป็นรีวิวที่ร้านและรูปและย่านเยอะมาก ในรีวิวเดียว
ขอบคุณทุกคนมากที่อ่านมาถึงตรงนี้

ถ้าสอบถามเพิ่มเติม มีอะไรสนทนากันได้
ที่ http://www.facebook.com/gograph ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ คัมซามิดาค่ะ

Tags Cloud

แชร์เนื้อหา
Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest

RELATED STORIES