Japan North – South : EP14 From Nagoya to Shirakawago

รู้จักภูมิภาคของญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นจะแบ่งเป็นภูมิภาคเหมือนภาคของไทยเรานั่นแหละค่ะ
แต่ละภูมิภาคก็จะมีชื่อเรียกต่างกันอย่างที่เคยได้ยินบ่อยๆคือ ฮอกไกโด คันโต
คิวชู แต่ละภูมิภาคก็จะมีเมืองใหญ่ๆตั้งอยู่ ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ภูมิภาค ชูบู (Chubu)
เมืองใหญ่ต้นๆของภูมิภาคนี้ก็คือ นาโงย่า จังหวัด ไอจิ เราก็ตะลอน+ตะลุยกันไปเรื่อย
เที่ยวทั่วญี่ปุ่น เหนือจรดใต้ ถึงคิวชู กันเถิด

 

14 พฤศจิกายน 2555 
เราออกเดินทางจากโยโกฮาม่า ตรงลิ่วด้วยชินคันเซ็น Hikari 519
ใช้เวลาข้ามภูมิภาค 100 นาทีพอดีเป๊ะ ตรงลิ่วเข้าเมืองนาโงย่าเลย
เวลาที่เราขึ้นชินคันเซ็นสถานีรถไฟจะมีส่วนเฉพาะชินคันเซ็นให้แลดูอภิสิทธิ์ขึ้นทันที
ไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะที่ขึ้นชินคันเซ็นได้เพราะแพงมาก แต่ JR PASS ขึ้นได้เป็นว่าเล่น ฮ่า

 

เมื่อถึงเมืองนาโงย่ายามค่ำคืน เมืองนี้เจริญเกินไปเราเจอเจริญมาเยอะนัก
มีเวลาเที่ยวเมืองนี้แค่คืนนี้เท่านั้น จากไกด์บุคแนะนำว่า
ควรไปห้างชื่อ oasis21 ที่อยู่สถานี Sakae เพราะเขาบอกล้ำสุดยอด พวกเราก็เชื่อหนังสือว่าไงว่าตาม

/ รถไฟใต้ดินเมืองนาโงย่ายังชนะกรุงเทพขาดเลยเลย T T

 

ถึงแล้วห้าง oasis21 ลองอ่านตามป้ายในห้างห้างนี้เปิดมานานละ
ตั้งแต่สมัยคอนเซ็ปอวกาศยังดัง (คิดภาพเซ็นทรัลพระราม 2 หน่ะ)
แต่ละชั้นมีชื่อเป็นอวกาศด้วยนะ

พวกเราขึ้นมาที่ชั้นดาดฟ้า เขาให้ขึ้นมาชมวิวได้ เห็นหอคอยไรงี้
แต่ห้างนี้ก็แอบน่ากลัว รู้สึกเป็นครั้งแรกว่าเจอเด็กเกรียนญี่ปุ่น

 

เรามาเดินในตัวห้างบ้าง ห้างร้างสุดๆ เหมือนเลิกฮิตไปแล้ว
หาข้าวกินก็แทบไม่ได้ ไปเจอร้านคาเฟ่เก๋ๆ แต่ทำข้าวห่อไข่ยังรสชาติเลวร้ายเลย
(ทุกคนในกลุ่มลงความเห็นว่าแค่น้ำเปล่าฟรี ร้านนี้ยังไม่อร่อยเลย มีกลิ่นไรไม่รู้)
คนก็ไม่่ค่อยเดินกัน แต่เราก็ยังสิ่งเกรียนๆของเราได้ นั่นคือ

โปเกมอนเซ็นเตอร์สาขา นาโงย่า ในภาพเป็นโซนเล่นเกมส์คือ
เขาก็จะเอาเครื่องเล่นเกมส์มาลิงค์สู้กันแลกโปเกมอนกัน เหมือนในโปเกมอนเซ็นเตอร์ในเกมส์เลย
ขนาดผู้ใหญ่ยังเล่น ประเทศนี้สุดยอด ดูหน้าพิคาชูหน้าตบชะมัด

เราว่าห้างนี้ เหมาะกับโอตาคุมาก สิ่งที่เรียกเสียงกรี๊ดได้มากสุดคือ
JUMP SHOP ดีๆๆมากๆๆๆสุดยอดๆๆๆๆ อยากได้ทุกสิ่ง

ข้ากินผลโกมุ เจ้าได้รับพลังจากดรากอนบอล ฮ่า

 

จริงๆแล้วถ้าอยากใฝ่หาร้านช็อปปิ้ง แบรนด์เนม ความเจริญ
อย่ามาสถานีนี้ ห้างนี้เลย เดินเล่นแถวสถานีรถไฟนั่นแหละ
ช็อปแบรนด์เนมเยอะมาก พวกเรากลับมาแล้วเงิบแล้ว
กูไปทำไมตั้งไกล (ไปเพื่อเจอผลโกมุ?)

เราเข้าที่พักชื่อ Eco Hotel จองจาก hostelworld หน้าตาโรงแรมดูผีสิงมาก
แต่เอาเข้าจริง ใกล้สถานีรถไฟมากๆๆๆ ใกล้เซเว่น โรงแรมเล็กแต่สะอาด
เครื่องอาบน้ำเป็น ชิเซโด้ ไฮโซเชียว
ข้อเสียเดียวคือไม่มีเนต
ข้อดีที่สุดคือ ถูกมวากส์ คนละ 935 บาท / คืน

 

ไร้สาระมาเยอะแล้ว ออกเดินทางกันต่อ
ตอนเช้าตรู่ เราออกจากเมืองนาโงย่าเพื่อมุ่งหน้าไปยัง เมืองทาคายาม่า
คืนนี้จะค้างคืนกันที่นั่น แผนของวันนี้คือ เอาของไปเก็บที่พักที่ทาคายาม่า
แล้วเช่ารถขับไป หมู่บ้านชิราคาวาโกะ กัน

รถไฟจาก นาโงย่า มีไปถึงใกล้สุดคือ ทาคายาม่า ไม่มีไปถึง ชิราคาวาโกะนะคะ
ถ้าจะไปต้องขับรถไป หรือ นั่งรถบัส จากทาคายาม่า หรือ ซื้อทัวร์จากโฮสเทลเอาค่ะ

ออกเดินทางกันต่อ

แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดที่สุดในทริปนี้ก็เกิดขึ้น
ไม่ได้วางแผนมารับสิ่งนี้เลย
ไม่คิดว่าช่วงเวลานี้จะเกิดสิ่งนี้ขึ้นด้วย
เสื้อผ้า หน้าผม อุปกรณ์ ไม่ได้เตรียมมาเพื่อรับมือชัดๆ

เรานั่งรถไฟ น้ำลายไหลกันอยู่
แล้วธรรมชาติงามๆ ฝนเริ่มตกและเป็นก้อนหิมะ

หิมะแรกของญี่ปุ่น ตกแล้ว 

อยู่ในรถไฟดูสวยนะ ออกไปข้างนอกมีตาย
เสื้อหนาวไม่พร้อม !! ชิปหายแล้ว

คือ สวย เกิดมา จขกท.ไม่เคยเห็นหิมะมาก่อน
แต่ตอนนี้ไม่พร้อมจริงๆ ตกตอนนี้รถไฟถึงสถานีเมื่อไหร่ กูตายแน่
สถานการณ์ตอนนี้คือ พอทุกคนเห็นหิมะ เสื้อผ้าไม่พร้อมกันมาก
ทุกคนยัดเสื้อหนาว ยัดถุงเท้า คือเรียกว่า ใส่เสื้อทุกตัวที่เตรียมมาให้หมด

ไม่พร้อมเอามากๆ อย่าเพิ่งถึง ทาคายาม่าเลย
ขอให้ถึงแล้วหยุดตกก็ได้
ใจนึงก็เสียดายความสวย
อีกใจ กลัวแข็งตาย

ถึง ทาคายาม่า แล้ว
(รถไฟญี่ปุ่นมีข้อเสียคือ วิ่งเร็วเกินไป)
ชิปหายแล้ว รองเท้ามีรู
ขากูไม่พร้อมค่ะ

แล้วพวกเราสุดท้ายก็สติแตก
หนาวช่างมัน ขาเปียกช่างมัน ยังไงก็ไม่มีทางไม่เปียกอยู่แล้ว
วิ่งให้เร็วที่สุด ไปที่เช่ารถ ขอฮีตเตอร์เขาเถอะ

 

เราขับรถไปชิราคาวาโกะกัน เนื่องจาก ถ้านั่งรถบัส ราคาคนละ 4300 เยน (ไป-กลับ)
พวกเรามี 4 คน เลยคิดว่าเช่ารถคุ้มกว่า

– ค่าเช่ารถ (โตโยต้า พรีอุส) 10000 เยน (ต้องเอารถมาคืนตอน 6 โมงเย็น)
– ค่าน้ำมัน 800 เยน
– ค่าทางด่วน 550 เยน

แพงกว่านิดหน่อย คุ้มกว่า ไปไหนต่อก็ได้ ชิวเลย
เดินออกจากสถานีรถไฟไปทางขวานิดเดียวก็เจอศูนย์เช่ารถแล้ว ของโตโยต้า ค่ะ
พนักงานก็แสนใจดี ถามเราไปไหน บอก ชิราคาวาโกะ ก็เซท GPS ให้เลย ดีจริงๆ

เหตุที่อยากขับรถไปเพราะ กระทู้นี้เลย http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11698086/E11698086.html
และเส้นทางเพื่อให้ไม่หลง กระทู้นี้เลย http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/04/E7711215/E7711215.html
และวิธีเช่ารถ กระทู้นี้เลย http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/01/E10185079/E10185079.html

ขอบคุณทุกท่านในพันทิพมากๆที่รีวิวไว้ก่อน : )

 

ได้เวลาซิ่งแล้ววววว
ป้ายทะเบียนสวยมะ ซื้อหวยไว้ก่อน ฮ่าฮ่า

 

จากกระทู้ที่บอกไว้ว่าวิ่งเส้นไหนบ้าง พวกเราก็ดูทางบ้างไม่ดูบ้าง
วิ่งตาม GPS เอาเป็นหลัก เปิดเพลงในมือถือ (เพราะฟังวิทยุญี่ปุ่นไม่ออก)
ฝ่าดงหิมะ ฮีตเตอร์อุ่นๆ หิมะตกเรื่อยๆ ขาวโพลน (เข้ากับอากาศร้อนๆบ้านเราตอนนี้นัก)

นี่สิ ชีวิตที่ต้องการ !

มันคุ้มแล้ว ทริปนี้
คนเราอยู่ใต้ธรรมชาติ
ไม่มีอะไรดีไปกว่า คอยดูความสวยงามของโลกนี้

ทางไป ชิราคาวาโกะ ผ่านเขาทั้งนั้น
ผ่านอุโมงค์เป็นล้านอุโมงค์ บางอุโมงค์ยาว บางอุโมงค์สั้น
ชีวิตคนเรา มีสว่าง มีมืด ยังไงชีวิตเราก็ไม่ลอดอุโมงค์ตลอดไปหรอก

เริ่มเข้าเขตหมู่บ้านแล้ว

นี่ไง รถพรีอุสคันงาม ประหยัดน้ำมันของเรา
(โตโยต้าไม่ได้เป็นสปอนเซอร์ให้นะ)

แค่เงยหน้ามอง
ภาพที่หายาก หิมะบนใบไม้แดง

จากจุดจอดรถ จะเข้าหมู่บ้านได้ต้องเดินข้ามสะพานนี้ก่อน
ฉากที่ทุกคนต้องถ่าย คือ หนาวมากแต่ก็สวย

หน้าตาดูร่าเริงนะ แต่จริงๆ ขานี่เปียก ตัวนี่สั่น
แต่ยอม เพราะสวย โอเค ชั้นไม่แคร์

 

เราไม่ได้ออกเดินทางเพื่อต้องการรูปสวยหยดย้อยหรือรีทัชซะจนไม่ใช่ของจริง
เราเห็นว่าธรรมชาติสวยอย่างไร ผ่านเรติน่าของเราเอง เห็นอย่างไรก็ถ่ายอย่างนั้น
เราคนธรรมดา ใครไปแบบเราก็จะเห็นภาพแบบนี้แหละ
เพราะงั้นก็เดินสะพานกับป้าญี่ปุ่น เราไม่มีภาพแบบไร้คน จัดคอมโพสงามๆให้นะคะ

เข้ามาในหมู่บ้านก็มีร้านขายของหลายอยู่
คนพลุกพล่านนะ (ประมาณ 30% คือคนไทย) แต่ทำไมทุกคนดูเตรียมพร้อมลุยหิมะมาก
อยากวิ่งไปตบแย่งรองเท้ามาจริงๆ หนาวเท้ามาก ถุงเท้านี่ถอดออกมาบีบน้ำได้

แก๊งสามช่าท้าหิมะ

หมู่บ้านไม่ใหญ่มาก เดินสบาย (ถ้าไม่หนาวขา)
หิมะก็ตกมาเรื่อยแบบไม่เกรงใจ
นักท่องเที่ยวก็ยังคงเดินกันต่อไป

 

ได้เวลาอาหารแล้ว หนาวเว้ย
จริงๆอาจจะไม่ได้หิวแต่ขอไปพึ่งใบบุญฮีตเตอร์สักร้านก่อนเถอะ
เกิดมาเป็นเด็กเมืองร้อนไม่คิดว่าฮีตเตอร์จำเป็นบนโลกมาก่อน
ตอนนี้เข้าใจแล้ว ว่าฮีตเตอร์ดีอย่างไร ชักโครกอุ่นก้น ดีอย่างไร
มันฟินมาก หนาวๆ อุด้งร้อนๆ

 

ของขึ้นชื่อที่นี่ มันโทโทโร่ – เพื่อนบอกมา

ร่างกายอุ่นก็ไปตากหิมะกันต่อ เอาให้กระดูกแข็งไปเลย
สิ่งที่อยากที่สุดคือ ถ่ายรูปด้วยไอโฟน คือ ต้องถอดถุงมือ
แต่เดี๋ยวนี้มีถุงมือที่ทัชสกรีนได้แล้ว (แต่ไม่ได้ซื้อมา) จะถ่ายอะไรก็ต้องถอดเข้าถอดออก
มือนี่เย็น ไอโฟนก็อึดนะทนความหนาวได้

 

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ในสายลมหนาว

เดินทางมาหลายภูมิประเทศ
เท่าที่รู้คือ ภูเขาโอบเราไว้อยู่

สาระสักนิด 
สิ่งที่ขึ้นชื่อที่สุดในหมู่บ้านนี้คือ สถาปัตยกรรมแบบกัสโซ (Gassho-zukuri) 
หลังคาจะชันมากถึง 60 องศา เพราะที่นี่หิมะตกบ่อยหลังคาแบบนี้ช่วยให้หิมะไหลลงมาเร็ว
พอไหลมากองๆข้างบ้านๆก็เป็นก้อนกันลมหนาวได้ดี 

บ้านในหมู่บ้านนี้สังเกตว่าจะหันหน้าไปทางเดียวกัน
เพราะเป็นทิศทางที่ลมเข้า เย็นสบายตอนฤดูร้อน
อบอุ่นตอนฤดูหนาว

หลังจากชินชากับความหนาวจนขาชา มือขาไปหมดแล้ว
จิตใจก็เลยด้านชา ไม่แคร์แล้ว ชั้นสนใจแต่วิวสวยเท่านั้น
หิมะอยู่ไหน จะย่ำจะลงไปนอนให้หมดเลย
เราก็เดินเล่นกับแถวๆหมู่บ้านนี่แล ถ่ายมุมไหนก็สวย จบ

พวกเรา เด็กเกรียน !

ลูกพลับเห็นน่ากินแบบนี้
ลองกินแล้วเด็ดจากต้นสดๆ เย็นฉ่ำ
โคตรฝาด

หิมะตกไม่หยุดยั้ง
ตกมาเลย เอาให้ขาวโพลน วะฮะฮ่า

 

ได้เวลาแดดออกแล้ว เย้

หมู่บ้านนี้คาดว่าทุกคนคงรู้กันแล้ว
ที่นี่คือหมู่บ้านชาวนา แต่ไม่ได้จนนะเขารวยกันมากๆ
สิ่งที่ขาดไม่ได้ของที่นี่ นาข้าว

ในชีวิตต้องการอะไร
ออกเดินทางเพื่ออะไร ยังไม่รู้
แต่ ณ เวลานี้ สิ่งที่อยู่ตรงหน้า
สวยขนาดนี้ พอใจแล้ว

 

แล้วหิมะตกก็ตามด้วยแดดออก
หนาวน้อยลง สว่างมากขึ้น
ทุกอย่างกลับสู่สมดุล

หมู่บ้านนี้น่ารัก สวยงาม ฤดูไหนก็สวย
หน้าหนาวยิ่งหน้ามา หิมะขาวโพลนตัดกับสีท้องฟ้า
ฤดูร้อนก็น่ามา สีเขียวตัดกับสีน้ำตาล

ญี่ปุ่นสุดยอดนะ เมื่อนึกถึงธรรมชาติ ก็ยังสวยงาม
เมื่อนึกถึงเทคโนโลยี เขาก็ทำได้
นี่แหละ สมดุล

 

ก่อนจะโดนค่าปรับคืนรถช้า
พวกเราต้องบอกลาหมู่บ้านน่ารักนี้แล้ว
อารมณ์ดี คึกคัก หิมะสร้างเซอร์ไพรส์ได้ดีมาก
แล้วการเดินทางก็บอกเราอีกครั้งว่า
อะไรที่เหนือความคาดหมาย อาจจะดีก็ได้

ลาก่อนชิราคาวาโกะ สักวันจะกลับมาเยี่ยมใหม่

 

ลาก่อน ขุนเขาแถวนี้
พบกันใหม่

เราซิ่งรถกลับทาคายาม่ากันใหญ่ หลงทางบรึม ฮ่่าฮ่า
แต่สุดท้ายก็กลับเข้าเมือง คืนรถทันเวลาจนได้
กว่าจะถึง กว่าจะเก็บของ ก็ค่ำมืดแล้ว ได้เวลาอาหารอีกครั้ง
อาหารวันนี้คือ เนื้อฮิดะ (เหมือนเนื้อโกเบ) รสชาติดีนะ ต้องมาลอง
แต่เหมือนเดิม มัวแต่กิน ไม่ได้ถ่ายรูป ฮ่าฮ่า

 

กินอิ่ม เดินเล่นยามค่ำคืน หนาวก็หนาว หิมะยังคงตก
แต่ยืมรองเท้าบูทจากโฮสเทลแล้ว เมืองนี้กลางคืนร้างเชียว

พรุ่งนี้เช้า อ้นจู (คนถ่ายภาพ) จะตื่นมาถ่ายเมืองทาคายาม่ายามเช้า
ส่วนแก๊งสาวๆ นอนอืดอยู่โฮสเทล ฮ่า
เส้นทางต่อไป ขึ้นสูงเหนือทาคายาม่าไปอีก Japan Alps เขื่อนคุโรเบะ !!

 

****

วิดีโอการเดินทางของเราค่ะ เที่ยวทั่วญี่ปุ่น เหนือจรดใต้ ทาง Youtube 
สำหรับตอนนี้

13. NAGOYA – SHIRAKAWAGO

Tags Cloud

แชร์เนื้อหา
Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest

RELATED STORIES