[Go!Graph x JNTO] กินเที่ยวโอซาก้า (Gourmet Osaka)
เราต่อจากตอนที่แล้ว เรานั่งบัสกลางคืนจากฟุกุโอกะ ตอนนี้ก็ถึงโอซาก้าแล้วววว
เรามาถึงแต่ 7 โมงเช้า เราเลยไม่ได้อาบน้ำกันเลย เลยมาที่ Spaworld เออมาลองออนเซนที่เขาว่าเป็นที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลย
Spaworld
- ลงสถานี JR Shin-Imamiya
- หรือใต้ดิน สถานี Dobutsuen-Mae
เดินจากสถานีไม่ไกลก็ถึง Spaworld แล้ว อยู่ใกล้ๆกับย่านกินดื่ม Shinsekai
ที่นี้เปิด 10 โมงเช้าสำหรับ คนที่ไม่ได้มาพักที่นี้ ถึงจะใช้บริการได้
ความเจ๋งที่นี้คือมีหลายสิบบ่อ ให้แช่ มีโซนยุโรป โซนเอเชีย คือแช่บ่อละ 3 นาทีก็หมดไปแล้วเป็นชั่วโมง แล้วมีชั้นที่เป็นสวนน้ำด้วยนะ เป็นสไลเดอร์ไหลลงมาในออนเซนเลย (แต่โซนนี้ให้ใส่ชุดว่ายน้ำนะ งั้นจะ… ฮ่าๆ)
มาถึงซื้อตั๋วที่หน้าทางเข้า ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1200 เยน แต่ถ้าแช่เกินเวลาที่กำหนดเพิ่มอีก 1300 เยนคืออยู่ทั้งวันแหละ
ใหญ่ไม่ใหญ่ที่นี้มีถึง 8 ชั้นเลย
พอเข้ามาด้านในก็เก็บของตัวเองตามล๊อกเกอร์ แล้วขึ้นข้างบนเลย
มีชั้นที่เป็นร้านอาหารอย่างเดียวให้บริการด้วย
ชั้นนี้เป็นยิม กับ นวด
แล้วก็ถึงเวลาเข้าไปในออนเซนแล้ว เสียดายถ่ายให้ดูไม่ได้ 55 ข้างในมีหลายบ่อมาก ใครอยากแช่ออนเซนราคาไม่แพงเลย 1200 เยนเท่านั้น แถมอยู่ในเมือง ไม่ต้องออกไปไกล มาที่นี้เลย
สนใจเพิ่มเติมดูได้ที่ http://www.spaworld.co.jp/english/
Shinsekai
เดินลงมาจาก Spaworld ก็จะเจอย่านกินดื่มชื่อดังของโอซาก้าที่มีร้านคุซิคัตซีหลายสิบร้านเต็มไปหมด คุชิคัตซึคือไรเดี๋ยวลงไปอ่านล่างๆก็เจอ
ใครมาก็ต้องถ่ายมุมนี้ทั้งนั้น เรามาช่วงเช้าคนเลยไม่ค่อยมีเท่าไร ต้องมาดึกๆ คนเต็มไปหมดเลย
หอคอย Tsutenkaku เหมือนเป็น 1 ในสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า สร้างมาตั้งแต่ปี 1912 เกือบร้อยปีแล้ว สร้างในช่วงฟื้นฟูเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ด้วยกันแนวคิดสร้างจุดเด่นให้เมืองโอซาก้า เลยสร้างหอคอยนี้ขึ้นด้วยเหล็กแบบเดียวกับหอไอเฟล สูงถึง 64 เมตร ถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออก ในสมัยนั้นแล้ว ต่อมาก็สร้างเพิ่มเติมอีก จนสูงถึง 103 เมตร
บนหอคอยสามารถขึ้นไปชมวิวได้ และที่ชั้น 5 จะมี Billiken หุ่นที่เป็นรูปเด็กอยู่ตามหน้าร้านต่างๆ ทั่วโอซาก้า เป็นความเชื่อของคนโอซาก้า ว่าเป็นเทพแห่งความโชคดี ขอให้อะไรจะได้ตามนั้น ทางมีไว้หน้าร้านจะทำให้ร้านขายดี เหมือยกุมารทองบ้านเรามั้ง เวลาขอให้ลูบที่เท้า Billiken แล้วขอว่าอยากได้สิ่งใดก็ขอไป
ช่วงเช้า พวกร้านกินดื่มยังไม่ค่อยเปิดกัน เราเลยเข้าไปที่คาเฟ่แห่งหนึ่งในย่านนี้
เป็นคาเฟ่ย้อนยุคแบบเห็นในหนังเป๊ะๆ มีเสน่ห์มากๆ คาเฟ่มีคุณป้าดูแลอยู่
ช่วงเช้าเมื่อสั่งเครื่องดื่ม จะได้ขนมปังและไข่ต้มฟรีด้วย
กาแฟเวียนนา หน้าตาดีมาก
หรือพวกนม กล้วยปั่นก็มี อาหารเช้าง่ายๆ แบบคาเฟ่ญี่ปุ่น ร้านหาไม่ยากอยู่แถวตรงกลางย่านเลย
ปราสาทโอซาก้า
คงไม่ต้องแนะนำอะไรที่นี้ให้มาก เชื่อว่าเคยไปกันหลายคนแล้ว มาถึงโอซาก้าก็ต้องแวะซิ บรรยากาศดีมาก ช่วงที่ไป ฟ้าใส เห็นตัวปราสาทชัดเจนเลย
มีบริการเรือพายรอบๆปราสาท แต่ช่วงหน้าหนาวจะปิด
ด้านหน้าปราสาทก็มีร้านขายของกินเยอะแนะ จัดซอฟครีมกล้วย อร่อยมากกกกกก
Hokoku Shrine
มาตรงที่หลายคนอาจไม่เคยมาอยู่ด้านหลังของปราสาท เป็นศาลเจ้า Hokoku Shrine เป็นศาลเจ้าสร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่ Toyotomi Hideyoshi
เป็นศาลเจ้าที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่มีความขลังและสวยงามอยู่
ความน่าสนใจของศาลเจ้านี้ คือด้านหน้าหน้าจะมีการวาดรูปอวยพร ตามปีนักษัตรที่จะเปลี่ยนไปทุกๆปี น่ารักมากกก
ด้านหน้าศาลเจ้ามีร้านของกินด้วยนะ เมืองโอซาก้านี้หาของกินง่ายจริงๆเลย
Nifrel ,Interactive Aquazoo
- สถานี EXPOCITY
- ค่าเข้า 1900 เยน
ที่นี้อ่านว่ายังไงเราก็ยังงงๆ นิเฟเอะ นิเฟล นิเฟเอล แต่ช่างมันเถอะ แต่เราอยากจะแนะนำๆๆๆๆๆ ว่าใครมาโอซาก้าครั้งหน้าต้องมาให้ได้ มันดีมาก!! แบบอวยเลย ที่นี้เป็นอควาเรียมแห่งใหม่ของโอซาก้า แต่มีสัตว์บกด้วยเลยเป็น ควาซู แต่ความเจ๋งที่นี้เป็น สวนสัตว์แบบอินเตอแอคทีฟ หรือแบบหลายระบบสัมผัส ให้สัมผัสสัตว์ได้ด้วย เออออ เจ๋งซิ
มาถึงด้านหน้า ตึกไม่ใหญ่มาก เป็นทรงโมเดริ์น ซื้อตั๋วด้านหน้าแล้วเข้าไปเลย
แค่เข้ามาถึงห้องแรกเราก็ตื่นเต้นสุดๆแล้วกับการออกแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คือเหมือนอยู่ในแกลลอรี่งานศิลปะมากกว่าสวนสัตว์อควาเรียมอ่ะ
ที่นี้จะแบ่งเป็น 7 โซนแต่ไม่แบ่งแบบทั่วๆไปตามประเภทสัตว์นะ ที่นี้เขาแบ่งตามประสาทสัมผัส เห้ย แค่คอนเซปก็เจ๋งแล้ววว
ห้องแรก Colors ตามชื่อห้องนี้ต้องการให้เห็นความหลากหลายของสีสันของสัตว์ต่างๆ ว่ามีสีที่น่าสนใจขนาดไหน ทำไมสัตว์ต้องมีสีสันแบบนี้ บ่งบอกอะไร ดีมาก
ตู้แมงกระพรุนน่ารักมากก
ห้องที่สอง Ability ห้อง นี้มีให้สังเกตว่าสัตว์แต่ละตัวมีความสามารถอะไรที่เฉพาะ เช่นแอบตามทราย พ่นน้ำได้ พรางตัว ชอบมาก
เด็กมาที่นี้ตื่นเต้นทุกคน ไม่ใช่แค่เด็ก เรา ผู้ใหญ่ ก็ตื่นเต้น ที่นี้ไม่ธรรมดา
ปลาดูดๆ ตามสปาปลา มีให้เล่นด้วย แต่ที่นี้ดูตัวใหญ่พิเศษนะ 55
ห้องที่สาม Shapes ห้องนี้เราตื่นเต้นมาก กับการจัดเหมือนแกลลอรี่ดีๆเลย ห้องนี้แสดงสัตว์ในรูปทรงแปลกๆ แตกต่างกันไป ว่าสัตว์มีทรงเหลี่ยม กลม ยาว เรียว
ตู้นี้เราชอบที่สุดเลยก็ว่าได้ เป็นงูทะเลที่ปกติเราจะไม่เห็นตัวมันในทราบ แต่ที่นี้ใช้เป็นก้อนกลมใสๆ ให้มันฝังตัวข้างใน เราเลยเห็นตัวฝังอยู่ข้างใน
ห้องที่สี่ Waterside ห้องแสดงสัตว์ที่อาศัยอยู่ริมน้ำ มีสัตว์หน้าตาแปลกๆ อยู่เยอะ
อึ่งอ่างยังดูน่ารักได้
เดินเข้าไปอีกจะเป็นสัตว์ตัวใหญ่ขึ้นมา
เสือขาวที่ดูน่ารักผิดปกติ 55
ฮิปโปแคระ ตัวน้อย
จระเข้ที่นอนนิ่ง แต่เด็กๆดูเหมือนจะชอบกัน
ห้องที่ห้า Behavior ห้องนี้ความเจ๋งคือสัตว์ทุกตัวถูกปล่อยอย่างอิสระ บางตัวก็ได้มาหาคน คือเดินทั่วทั่งห้อง เป็นห้องที่สนุกมาก ชอบ
ตัวลีเมอร์ก็ขี้สงสัยชอบเดินมาดูใกล้ๆ
ตัวนากน่ารักมากกกก
ที่นี้ถือว่าเป็นสวนสัตว์+น้ำ เปิดใหม่ที่ควรมา มันดีมากๆ จริงๆ นอกจากที่นี้ใน Expocity ยังมีสิ่งอื่นๆอีกมาก โปเกม่อนเซนเตอร์ หรือ โรงหนัง 4D ที่ภาพสัตว์ต่างๆ แต่ได้เสียง ได้กลิ่น เหมือนอยู่ใกล้สัตว์นั้นจริงๆ เสียดายเวลาเราน้อยไป งั้นได้ลองทั้งหมดในแถวนั้นแล้ว
สนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nifrel.jp/en/
Dontoburi
ย่านนี้เราไม่พูดมากแล้ว ทุกคนคงรู้จักที่นี้เป็นอย่างดี เผลอๆมากกว่าพวกเราอีก 55 ไม่ต้องพูดมาก เราจะพากินซักที ที่กินเยอะมากกกกก เราไปกินไหนดีมาดูกัน
Takoyaki
เราขอบอกตรงๆเลยว่า เราก็ไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อยกว่ากัน ฮ่าๆ คือเรามาที่นี้ 3-4 รอบ ลองทาโกระยากิมาเกือบ 10 ร้านได้ เราคิดว่ามันไม่แตกต่างกันเลยจริงๆ คืออร่อยเหมือนๆกันหมด แต่มีความแตกต่างกันตามแต่ละร้านที่มีเทคนิคต่างกันไป ใส่ข้าวพอง ต้นหอม ขิง แล้วแต่สูตรเลย สรุปไปกินร้านี่คนเขาต่อแถวกัน อร่อยแน่ แต่เราก็บอกเลยว่าพูดไม่ถูกว่าร้านไหนอร่อยกว่ากัน
Kanidoraku
ของขึ้นชื่อของโอซาก้าอีกอย่างคือปู!! และเรามาย่านนี้ คงเห็นปูตัวใหญ่ๆ ขยับได้ คือร้านคานิโดราคุ นั้นเอง เป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทำจากปู เพราะทั้งร้านมีแต่เมนูปูนั้นแหละ แต่อาหารจากปูนี้ราคาก็โหดเอาเรื่องเหมือนกัน แต่เรามีวิธีทานอาหารเซตปูในราคาที่ถูกลง จากร้านนี้ด้วยเหมือนกัน
คือร้านนี้มีอาหารเซตกลางวันด้วยในราคา 3,888 เยน ปกติราคาเซตหนึ่งก็ราคา 5,000 – 10,000 เยนเลยทีเดียว เซตกลางวันจะขายตั้งแต่ 11 โมง ถึง บ่าย 3
ไม่พูดมาก เรามากินกันเลยดีกว่า ปู!!
เมนูแบบปกติ ราคาแบบ อื่อหื้ออออออ
นี้คือเซตกลางวัน ที่ราคาลงมาแบบพอรับได้หน่อย สำหรับคนอยากกินปูจริงๆ
เข้ามาในร้านจะแบ่งเป็นห้องๆ แบบญี่ปุ่น
จานแรกมาแล้ว ชุดรวมปูแบบต่างๆ ทีเด็ดอยู่ซาซามิปู เด็ดมากกกกกก หวานมากกกกก
ค่อยๆแกะเนื้อออกจากก้าม
จิ้มปอนซึเบาๆ ใส่ปาก หวานนน
กราแตงเนื้อปู จานนี้ก็ดี ได้รสเนื้อปูเต็มๆ
ปูผัดเนยมันปู จานนี้ดูเหมือนธรรมดา แต่ความเด็ดอยู่ที่เนยมันปูนี้เลย รสอร่อยของปูมาเต็ม
ข้าวอบปู ที่เขาจุดไฟให้เราแต่แรก ค่อยๆรอไป พอเรากินอาหารทุกจานจนอิ่มแล้ว เราก็ได้ข้าวอบปูพอดี คลุกให้เข้ากัน กินได้!! จะกินแบบเฉยๆ หรือข้าวต้มชาก็ได้ อร่อยเหมือนกัน
สุดท้ายมีไอติมราดมัทชะ ตบท้าย มัทชะที่ชงใหม่ๆ หอมๆรสขมราดบนไอติมวานิลลา เข้าก็พอดีมากกกก ฟินสุดๆ อาหารเซตนี้ดูเหมือนมีนิดเดียว แต่ทุกอย่างมาอย่างละนิดอย่างละหน่อย หลายสิบอย่าง เล่นเอาเราจุกเหมือนกัน เป็นมื้อที่ฟินมาก กับการกินมื้อนี้เลย มาลองกันๆ ดี
Kushikatsu
นี่ก็เป็นอาหารท้องถิ่นของโอซาก้า แต่ปกติคนไทยไม่รู้จักกัน เป็นอาหารเสียบไม้ชุบแป้งทอด เรียกคุชิคัตซึ อาหารดูง่ายๆ แต่อร่อยมากกกกก ช่วงเย็นๆ คนโอซาก้ามักอยู่ที่ร้านพวกนี้กัน ทานคู่กับเบียร์นี้ฟินมากๆ
ร้านที่เราไปกินคือร้าน Daruma เป็นร้านคุชิคัตซึชื่อดัง ที่เราจะเห็นหลายที่เป็นลุงหน้าโหดๆถือไม้คุชิคัตซึ
เมนูมีให้เลือกเกือบ 50 อย่างได้ มีเมนูอังกฤษที่เราอ่านเข้าใจได้ อยากกินไรก็จิ้มๆ เลย หรือไม่รู้สั่งไร สั่งเป็นเซตมาก็ได้ 10 ไม้ 20 ไม้ คืออยากบอกว่า ตอนแรกนึกว่าจะเฉยๆ ไม่อะไร แต่พอกินไปแต่ละไม้ มันหยุดไม่ได้จริงๆ เนื้อ หมู เบคอน ไข่ หอยเชลล์ ปลาหมึก โมจิ หอยนางรม คืออร่อยทุกไม้ เพลินจนไม่รู้ตัวเลยทีเดียว
เครื่องเคียงง่ายๆ บุกตุ๋นกับเนื้อ อร่อย
เวลากินคุชิคัตซึ จะมีถ้วยน้ำจิ้มอยู่กลางโต๊ะ คือใช้ร่วมกันเวลาทานก็ให้จิ้ม แต่ให้จิ้มครั้งเดียวต่อครั้งเท่านั้น ไม่ให้กัดแล้วจิ้มอีก เพราะมันเป็นถ้วยที่กินร่วมกับคนอื่น ไม่ควรจิ้มหลายครั้ง
เผลอๆ หมด 20 ไม้ไม่รู้ตัว คืออร่อยมากกกกกกกกกกก เรามากิน 2 รอบเลยอร่อยๆ มาโอซาก้า ไม่รู้กินอะไรแล้ว ก็มาลองนี้กัน อร่อย อร่อยทุกร้านเลย ฮ่าๆ
Mizuno
มาถึงโอซาก้าอาหารอีกอย่างห้ามพลาด โอโคโนมิยากิ เราพาไปร้านนี้เลย ร้านที่เพิ่งได้รางวัลมินชาลินสตรีทฟู๊ดมา Mizuno ร้านอยู่ในซอยที่มีมังกรหน้าปากซอยอ่ะ มาถึงหน้าร้านช่วงบ่ายแต่ก็มีคิวรอยาวแล้ว แต่รอไม่นานมาก ไม่เกินครึ่งชม.
เป็นร้านดังที่ทำให้โอโคโนมิยากิ เป็นอาหารอีกระดับหนึ่งขึ้นมา มีไส้ที่หลากหลายขึ้น ใส่ของดี อย่างหอยเชลล์ กุ้ง ปลาหมึก เนื้อ เมนูอันดับ 1 ก็เป็นหอยเชลล์ โฮตาเตะตัวใหญ่ๆ
มาถึงสั่งๆ ไปทั้ง 5 แบบ กับ ยากิโซบะอีก 2 เมื่อสั่งแล้วจะมีพนักงานมาทำให้กินเลย แต่ที่นี้เขามีกฎระเบียบเยอะ ห้ามถ่ายรูปเวลาเขาทำให้กินงี้ สั่งได้ครั้งเดียวคือต้องนึกเลยเลยว่ากินไรมั้ง ดูจู้จี้เยอะมาก ฮ่าๆ แต่เราบอกเลยว่าถ้าได้กินจะลืมความเรื่องมากนี้ไป
มาถึงพนักงานค่อยๆบรรจงลงโอโคโนมิยากิ
ตามด้วยเนื้อลงไป
เสร็จกลับด้าน ทาซอส เข้ามีให้เลือกซอสแบบปกติ หรือเผ็ด ถามว่าใส่มายองมั้ย
โรยผงสาหร่าย ต้นหอม แล้วแต่เราสั่ง
รอจนสุก ระหว่างนั้นก็มีพนักงานคอยดู ห้ามเราไปแตะเด็ดขาด เขาดุ 555 เราก็นั่งเกร็งและหิวไปด้วยดิ อยากจะเอากลิ่นมาให้ดมด้วย หอมมากกกกก
สุกแล้วพร้อมมมม ตักแบ่งกินกันเลย
กินนนน กัดแบบบบบบบ อร่อยมาก ประทับใจ เป็นโอโคโนมิยากิที่อร่อยที่สุดที่เคยกินมาเลย รสกลมกล่อมกำลังดี มีความกรอบนิดๆ ข้างในนุ่มๆ ดีงามมาก
หมดในพริบตา ตาด้วยยากิโซบะ ตอนแรกเราคิดว่ากินไม่หมดแล้ววว สั่งมาแบบเพราะหิว พอมาถึงแบบผัดมาพร้อมแล้ว เจอกลิ่นเข้าไป ใครจะยอม
อร่อยมากกกกกก แบบดีงาม อย่าพลาด ต้องสั่ง มาถึงโอซาก้าห้ามพลาดๆ ร้านนี้ดี รอคิวนิดหนึ่ง กับกฎระเบียบนิดหน่อย แต่เจอความอร่อยเข้าไป เราให้อภัยทันที ต้องมา!
Kuromon Market
ต่อมาช่วงเช้า เราแนะนำว่ามาที่นี้เลย ตลาดปลา Kuromon Market เป็นตลาดเช้าใกล้ย่านนัมบะ ใครพักแถวนี้รอเดินมาหาอาหารเช้าแถวนี้เลย ฟินแน่นอน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาเช้าก็ได้ กลางวัน บ่าย ก็ยังขาย
บรรยากาศตลาดคึกคักมาก
ของสดเต็มให้เลือกเยอะมาก
ของหมัก ของดองก็มี
ทีเด็ดของตลาดนี้ คือจะมีร้านที่ให้บริการย่างของทะเลสดๆกันหน้าร้านเลย
ดูโฮตาเตะะะะ
โอเด้งก็มี
โฮตาเตะนึ่งก็หน้ากินมาก ไม่แพงด้วย 300-500 เยน
แนะนำว่าให้มาที่ Information Center มีห้องน้ำ มีที่ทาน และสำคัญมีบัตรลดราคาด้วย
คือซื้อ 900 เยน แต่ได้ราคา 1000 เยนไปที่ร้านที่ร่วมรายการ ซึ่งก็เกือบทั้งตลาด
เรามากินที่ร้านนี้ เป็นร้านข้าวหน้าทะเล
ความเจ๋งคือมีหน้าให้เลือกเยอะมาก คือเราเลือกเครื่องอะไรก็ได้ แล้วก็เพิ่ม 300 เยนกลายเป็นข้าวหน้าได้
แล่ทุกอย่างกันสดๆ
เราสั่งไคเซนด้ง ข้าวหน้าทะเลรวม แบบสดมาก ดีมากกก หมดนี้ราคา 1200 เยนเท่านั้น
แล้วสั่งซาซิมิหอยแครง แบบไม่แพงเลย ดีมาก อร่อยมาก สด มากินเถอะคุ้มค่า แนะนำที่นี้อกีเช่นกัน อาหารทะเลดีๆ ไม่แพง มีร้านปลาไหล 1000 เยนก็มีนะ ลองหาดู
เสร็จแล้วเราก็มาเดินทางต่อด้วยรถบัสที่สถานี Umeda Willer Express เพื่อไปต่ออีกเมืองของกินเหมือนกัน! เมือง นาโกย่า นั้นเอง แล้วเจอกันต่อรีวิวหน้า ของกินอีกเยอะะะะ