สวัสดีเรากลับมาอีกแล้วที่ประเทศที่เราหลงรักมากๆ หรือบางคนอาจจะเกลียดไปเลย ฮ่า นั้นคือ จีน!
เราไปมาหลายที่ หลายเมืองมาก มีที่หนึ่งที่ใฝ่ฝันมานานแล้วว่าต้องมาให้ได้ซักครั้ง คือ เที่ยวจีน คุนหมิง กับ อุทยานแห่งชาติย่าติง นั้นเอง ตั้งอยู่บริเวณมณฑล หยูนาน กับ เสฉวน เขาว่าที่นี้เดินทางไปค่อนข้างยาก คนส่วนมากจบลงแค่แชงกรีล่าเท่านั้น แต่เราจะไปทั้งทีก็ต้องให้ถึง ย่าติงซิ! ยังไงก็ต้องไปให้ถึง
การเดินทาง
การเตรียมตัวไปจีน วีซ่า เงิน เรื่องพื้นฐานเราขอข้ามไปเลยนะเพราะอันนี้มันรีวิว เที่ยวจีน คุนหมิง แบบแอดวานซ์! ไปอ่านรีวิวจีนก่อนๆเนอะมีเขียนไว้หมดแล้ว เรามาที่แผนการเดินทางเลยดีกว่า
การเดินทางเพื่อไปย่าติง ตอนนี้มีหลายทางมาก เส้นทางหลักๆ 2 เส้น แผนของเราเดินทางทั้งหมด 8 วัน โดยถ้าอ่านจากข้อมูลอื่นๆแล้วมีหลายแผนมาก 8 – 12 วันเลยทีเดียว แผนนี้สำหรับคนเคยไปลี่เจี่ยง กับ ต้าลี่มาแล้วนะ เราเคคือ
- คุนหมิง – แชงกรีล่า – เต้าเฉิง – ย่าติง ประมาณ 8 วันทางรถ (สามารถต่อเครื่องบินไปลงแชงกรีล่า หรือ เต้าเฉิงได้)
- เฉิงตู – เต้าเฉิง – ย่าติง ทางนี้อาจใช้เวลาแค่ 5 วันแต่ต้องนั่งรถบัสจากเฉิงตูไปเต้าเฉิง 24 ชม. (สามารถนั่งเครื่องลงเต้าเฉิงได้)
แต่เราขอแนะนำเส้นทางที่เหมาะกับคนอยู่ใต้ระดับน้ำทะเลแบบพวกเราชาวไทยกรุงเทพ เราเลือกแผนเที่ยวจีน คุนหมิง – แชงกรีล่า – เต้าเฉิง – ย่าติง ดีกว่า เลือกแบบค่อยๆไป เราได้ค่อยๆปรับตัวให้ชินกับที่สูงได้ เพราะที่นี้สูงตั้ง 3000 จนถึงเกือบ 5000 เมตรเลยทีเดียว สูงมาก เพราะงั้นค่อยๆไปเถอะ ป้องกันโรคแพ้ความสูง เพราะเราอ่านมาว่าถ้ากินยาแก้แพ้ความสูงมันจะมีผลข้างเคียงสำหรับบางคนด้วย เลยไม่ทานยาดีกว่า ซึ่งจากที่เราเลือกแผนนี้ เราไม่พบอาการแพ้ความสูงเลย มีวันแรกๆที่ไปถึงแชงกรีล่านี้แหละ ที่มีอาการเหนื่อยง่าย แต่พอวันหลังๆแล้ว เรารู้สึกปรับตัวได้ และเดินได้ค่อนข้างปกติเลย
แผนการเดินทางแบบสรุป เอาไปลอกได้เลยนะ (แต่เที่ยวรถอาจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดตามฤดูกาล)
BKK – Kunming – Shangri-la – Yading
Day 1
- เดินทางด้วยสายการบิน Airasia จากดอนเมือง FD 582 0800 BKK – 1125 KMG
- นั่งรถบัส (13 หยวน) ไปสถานีรถบัสสายตะวันตก ซื้อตั๋วรถนอน (208 หยวน) ไป แชงกรีล่า (香格里拉) ฝากกระเป๋า เรามาถึงสถานีตอนบ่ายโมง จองรถได้รอบสองทุ่ม
- เที่ยวตัวเมืองคุนหมิง
- กลับมานั่งรถบัสนอน 20.00 – 10.30 ใช้เวลาประมาณ 20 ชม.
Day 2
- 10.30 ถึงแชงกรีล่า(จงเตี่ยน) Zhong dain ซื้อ ตั๋วรถไปเต้าเฉิง(109 หยวน) เช้าพรุ่งนี้ **มีแค่ 1 รอบต่อวันห้ามพลาด! รถออก 6.30
- นั่งแท็กซี่เข้าเมืองเก่า จงเตี่ยน (10 หยวน)หรือรถบัส (1 หยวน) แนะนำว่าให้ปริ้นตั๋วโรงแรมภาษาจีนมา เพราะส่วนมากไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเลย มีเข้าใจบ้าง และถ้าพูดอังกฤษได้ คิดเงินเราแพงประมาณ 20 หยวนเลย
- ***อย่าไปทัวร์ที่ขายเหมาทัวร์เที่ยว หน้าสถานี เพราะแพงมาก ให้ไปหาที่โรงแรม เขาจะจัดการให้เราในราคาถูกกว่าได้
- ฝากกระเป๋าที่พัก
- ออกเที่ยว วัด จงซานหลิง (ค่าเข้า 115 หยวน)
- วัด ต้าฝอ กลางคืนสวย
- นอนพัก 1 แชงกรีล่า 1 คืน Kevin’s Trekker Inn จ่ายตอนพัก
Day 3
- 6.00น. เดินทางไปท่ารถ (ชิ เช้อ จ้าน)ไปเต้าเฉิง (daocheng 稻城) ถึง 5 โมงเย็น
- เราจะอยู่ย่าติงทั้งหมด 3 วัน การหาที่พัก มี 2 แบบ
- 1.นอนที่เต้าเฉิงก่อน แล้วเช้าพรุ่งนี้ค่อยไปนอนที่ในอุทยานย่าติงเลยที่ขายตั๋วมา 45 นาที (Yading village) หรือ ตัวเมือง Shangri-la อยู่ก่อนที่ขายตั๋ว 1 กม. (คนละอันที่เรามา เรียกเหมือนกัน หรืออีกชื่อ Riwa Town แต่คนที่นี้เรียกแชงกรีล่ากันหมด)
- 2.นั่งรถไป Shangri-la แล้วพักที่นั้น จะ 2 คืน หรือ นอนข้างในอีก 1 คืนก็ได้
- เราเลือกแผน 2 เดินทางไปย่าติงเลย
- นั่งรถแท็กซี่ (100หยวน/ถ้าหาคนอื่นได้หารถูกลงอีก ) หรือรถตู้ (50 หยวน) ถ้าหาได้ ต่อ ไป ย่าติง (yading 亚丁) ลง yading center หาที่พัก (Shangri-la town คนละที่กับอันแรก) **เราหาได้จ่ายคนละ 50 หยวนไป 2 คน แชร์กับชาวจีนอีก 3 คน คิดว่าถ้า 4-5 คนอาจต่อได้เหมาไม่เกิน 150 หยวนเลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- นอนพัก ย่าติง (yading 亚丁) ** ซื้อของกินเตรียมเข้าอุทยาน จ่ายค่าเข้าอุทยาน
Day 4
- ออกจากที่พักไปอุทยานย่าติง (รวมค่ารถในอุทยาน (150+120) = 270 หยวน *ได้ 2 วัน) ค่ารถวันแรก 120 หยวนวันสองเหลือ 60 หยวน ถ้าใครนอนด้านในอุทยาน เสียค่ารถแค่ครั้งเดียว ใช้เวลาเดินทางไปถึงจุดวัดชงกู่ 1 ชม.
- รถ กอล์ฟ ไปกลับ(80 หยวน) ไปทะเลสาบน้ำนม ลดระยะทางได้ 7 กม. บอกเลยว่าซื้อเหอะ ประหยัดแรงไว้เดินขึ้นดีกว่า
- ทุ่งหลัวหลง (洛绒牛场)
- เที่ยวทะเลสาบน้ำนม (牛奶海หนิวหน่ายไฮ่ )
- ทะเลสาบห้าสี (五色海อู่เซ่อไห่)เดิน 0.5 km จากทะสาบน้ำนม (สั้นๆแต่โหดสุด)
- นอนพักอุทยาน ย่าติง Yading Village (ตอนแรกเรากะนอนข้างในแต่เข้าใจ เลยนอน riwa town 2 คืน)
Day 5
- เดินทางไปอุทยานย่าติงวันที่ 2
- ลงตรง วัดชงกู่(冲古寺)
- เดินไปไม่ต้องรถกอล์ฟแล้ว ทะเลสาบไข่มุก (Zhen Zhu Hai 珍珠海) (แต่ป้ายอุทยานเขียน Zhoumala Lake 卓马拉措)
- บ่ายกลับไปนอนที่เต้าเฉิง (100 หยวน)
- จองรถกลับแชงกรีล่าตอนเช้าพรุ่งนี้ (111 หยวน)
- นอนเต้าเฉิง Douchengdao Home Inn (138หยวน)
Day 6
- เดินทางเช้าออกจากเต้าเฉิง (มีรอบเดียวเหมือนเดิมห้ามพลาด! ) ไปแชงกรีล่า ถึง 5 โมงเย็น
- ซื้อตั๋วรถกลับคุนหมิง (250 หยวน) รถ VIP
- นอนแชงกรีล่า Kevin’s Trekker Inn จ่ายตอนพัก (120 หยวน)
Day 7
- ถึงคุนหมิงประมาณ เที่ยงคืน
- นั่งแท็กซี่ประมาณ 100-120 หยวน ไม่มีรถบัสแล้ว
- นอนโรงแรมใกล้สนามบิน Jinjiang Inn มีของกิน ของฝาก ขายไม่ปิดเลย
Day 8
- กลับบ้านด้วยสายการบิน Airasia
- FD 583 1230 KMG – 1400 BKK
แผนประมาณนี้ถ้าใครอยากเที่ยวลี่เจี่ยงก็แวะได้ ก็เพิ่มวันไป ลี่เจี่ยงควรนอนค้างซักคืน บรรยากาศดี
และเราขอแนะนำเทคนิคจองเที่ยวบินและที่พักที่ทำให้ได้ราคาที่ถูกลงถึง 10-20% ด้วย AirAsiago กัน เข้าไปที่ https://thailand.airasiago.com/ หรือ App Airasiago ใครยังไม่มีก็โหลดมาใช้ดูนะ
เริ่มจากวิธีจองให้ราคาเที่ยวบิน และที่พักถูกลง บางครั้งเที่ยวบินราคาจะขึ้นแล้วแต่โปรโมชั่น แต่การจองผ่าน AirAsiago จะทำให้ได้ราคาที่ถูกลงมาประมาณ 10 เลยที่เดียว ประมาณได้ที่พักฟรี 1 คืนเลยทีเดียว
วิธีจองไม่ยากเข้าไปที่เว็บไซต์ https://thailand.airasiago.com/ กดเลือกเที่ยวบิน+โรงแรม อย่าลืม Log in สมาชิกก่อนด้วยนะเพราะบางโรงแรมจะได้ลดอีก 10% และสะสมแต้มด้วย
แล้วในทริปนี้เรานอนหลายเมือง ก็ให้ไปติ๊กเลือกว่า นอนโรงแรงสำหรับบางวันเท่านั้น
เราเลือก 1 คืนวันกลับที่คุนหมิง จะเห็นว่าได้ราคาที่ถูกลงมาอีกหน่อย ถ้าเราจองเที่ยวบินพร้อมโรงแรม เมื่อเทียบกับเว็บจองอื่นๆ
ราคานี้รวมเที่ยวบินแล้ว เหมือนได้โรงแรมฟรีมา 1 คืนเลย
เลือกพวกที่ +0 บาทให้หมด ถ้าอยากเพิ่มน้ำหนักกระเป๋ากดเพิ่มนะ แค่นี้ก็ได้ตั๋วบินพร้อมโรงแรมในราคาที่ถูกลงมาแล้ว
หรือ เราจะใช้ตัว App AirAsiaGo ก่อนเลือกที่พักต้อง Login สมาชิกก่อน เพราะจะได้ลง 10% ด้วย
การจองไม่ยากเลยแต่พิมพ์ชื่อเมือง และวันที่จะพัก พอ ก็จะมีโรงแรมให้เราเลือกมากมาย
เทคนิคการจองง่ายๆ แล้วราคาลดอีกด้วย แถมบางทีก็มีโปรโมชั่นดีๆด้วยนะ ลองมี App AirAsiaGo ติดไว้ในเครื่องก็ดี รับรองมีประโยชน์
เริ่มเดินทางเลยดีกว่า เราเดินทางด้วยสายการบิน Airasia จากดอนเมือง FD 582 0800 BKK – 1125 KMG ใช้เวลาถึงคุนหมิงแค่ 2 ชั่วโมงนิดๆเท่านั้น เร็วมาก
เมื่อถึงสนามบิน และผ่าน ตม. แล้วก็ออกมาที่ป้ายรถบัสกัน ไปตรงแถวป้ายที่ 4 จะเจอกับตู้ขายตั๋ว บอกคนขายว่าสาย 5 เพื่อไปลงที่ West Bus Terminal คนละ 25 หยวน นั่งสุดสายเลย
ถามว่ารถจอดไหนบอกเลยว่ายาก ให้เดินข้ามฝั่งที่รถบัสจอดเยอะแล้วถามเลย ว่าคันไหน เพราะไม่มีเลขเขียนอยู่ ไปถึงรถบัสก็ยื่นตั๋วเลยถ้าใช่เขาก็บอกให้ขึ้นเอง
เราถึงสถานีรถบัสประมาณบ่าย 2 โมง ก็ตรงไปซื้อตั๋วเลย บอกว่าแชงกรีล่า คนขายตั๋วพอได้อังกฤษนิดหน่อย เขาจะบอกเวลาให้เราเลือก รถบัสไปแชงกรีล่าจะมีทุกชั่วโมง ช่วงกลางวันจะเป็นแบบนั่ง กลางคืนจะเป็นนอน สรุปเราได้รอบ 2 ทุ่ม เป็นรถนอน ราคา 208 หยวน
เราไปฝากกระเป๋า ค่าฝากราคา 10 หยวนต่อใบ ฝากได้ทั้งวันถึง 4 ทุ่ม
จากนั้นเราก็เดินไปฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหาร
เราเลือกร้านที่อยู่ตรงกลาง ร้านที่ดูเลือกลูกค้าไม่รุนแรง ฮ่าๆ ได้กินก๋วยเตี๋ยวแห้งเต้าหู้กับซอสรสเผ็ด กับก๋วยเตี๋ยวน้ำรสเผ็ด ราคาแค่ชามละ 10 หยวนเท่านั้น ก็อร่อยดี แต่ก็รสออกจืดๆเผ็ดๆตามแบบจีน
หลังจากกินอิ่มเรามีเวลาเหลือรอรถรอบ 2 ทุ่ม เราดูว่ามีที่เที่ยวอะไรใกล้ๆ เปิดดูในอากู๋เกิ้ลแมพเลย เห็นสวนใกล้ๆ Kunming Grand View Park ก็ไปเลย โบกแท็กซี่ประมาณ 15 หยวนเท่านั้นถึง
สรุปเจอคนเยอะมาก ไม่คิดว่าคนเยอะขนาดนี้ เราไปช่วงที่เขาจะจัดงานบัวนานาชาติพอดี ค่าเข้า 26 หยวน
สรุปเจอของดีเข้าให้ ดอกบัวบานทั่วทั้งสวนเลย แล้วสวนใหญ่มากๆ เดินขาลากกันทีเดียว มีดอกบัวหลากหลายพันธุ์ ดอกใหญ่แบบพอๆหัวเด็กก็มี งาม
นอกจากดอกบัวแล้ว ยังมีดอกไม้ชนิดต่างๆ อีก สวยงามสมชื่อว่า คุนหมิง เมืองแห่งดอกไม้
อีกด้านของสวนสาธารณะเป็นสวนสนุก มีหลายอย่างจนเราตกใจ ฮ่าๆ ไม่คิดว่าสวนจะใหญ่ขนาดนี้
แวะกินเนื้อมาล่ากัน เราจะเจอพวกนี้ทุกที่เลยในมณฑลยูนนาน
ซัก 6 โมงเย็นเรากลับมาที่สถานีรถบัส ตามเวลาควรมาถึงก่อนซัก 1 ชม. และจะเรียกขึ้นรถก่อนเวลาประมาณครึ่งชม. รถบัสจีนออกตรงเวลามาก และขอย้ำไม่ควรมาเกือบถึงเวลาออก เพราะจะมีคนจีนมามั่วที่เรา ยิ่งเป็นตั๋วนอนด้วย ไปๆมาๆ เรามานั่งรอก่อนจริง แต่เราดันไม่รู้ว่าประตูไหน เพราะงงๆกับตัวเลข กว่าเราจะขึ้นก็อีก 15 นาทีจะออกล่ะ พอขึ้นปั๊บคนจีนเต็มรถแล้ว นอนเต็มทุกที่เลย เราก็งงว่าที่นั่งเราขึ้นตรงไหนเพราะที่ตั๋วเขียนเป็นภาษาจีนหมดเลย ถามคนขับก็งงๆ เพราะที่นอนเต็มทุกที่ พูดไปพูดมา สรุปสุดท้ายโดนส่งไปนอนหลังสุดเตียงคิงไซส์ ฮ่าๆ นอนเบียดกับลุงชาวจีนอีก 3 คน สรุปเบียดกันไป 5 คน ฟินไหมล่ะ…… เข็ดจนตายไม่ขึ้นช้าอีกแล้ววววว
ระหว่างทางก็จะมีแวะเข้าจุดพักรถประมาณตี 2-3 ได้ เป็นร้านกินข้าว มีห้องน้ำค่อนข้างสะอาดให้รีบเข้าเลย รถจอดนานประมาณชั่วโมงกว่าได้ แถมปิดแอร์อีก ลงมายืดเส้นยืดสาย หาของกินก็ได้ เพราะอยู่ในรถร้อนมาก อากาศไม่พอหายใจ **อย่าลืมหยิบกระเป๋าเงิน ของสำคัญลงไปด้วย มีเคสเคยโดนขโมยด้วย**
ประมาณ 9 โมงเช้าเราถึงแชงกรีล่าแล้ว ถึงสถานีเรารีบไปซื้อตั๋วรถไปเต้าเฉิง ก่อนเลย ออกเช้าวันพรุ่งนี้ มีแค่รอบเดียวต่อวันเท่านั้น ราคา 109 หยวน
พอออกจากสถานี ก็หาแท็กซี่ไปที่ตัวเมืองเก่า ประมาณ 10 หยวน เท่านั้น หาให้ได้ราคานี้ จะมีพวกมาขายทัวร์ 1 day trip พาเที่ยวอย่าเพิ่งเอา แพง ไปถามโรงแรม จะถูกกว่า (คือเราโดนมาแล้วไงแพงกว่าให้โรงแรมเรียกเกือบ 100 หยวนเลยทีเดียว)
คืนนี้เรามาพักที่ Kevin’s Trekker Inn เป็นที่พักราคาถูก ออกมานอกตัวเมืองเก่านิดเดียว ข้อดีของที่นี้คือเจ้าพูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก และสามารถแนะนำที่เที่ยวได้ทุกสิ่งอย่างพร้อม แถมบริการดีมากมีอาหารด้วยนะ สั่งได้เลยว่าจะกินอะไร กี่โมง บอกเขาไว้แล้วจะเตรียมให้เรา ให้คะแนน
บริการเต็มสิบๆ เลย
ส่วนเรื่องห้องพัก เราว่าดีกว่าราคาที่จ่ายไปเยอะ แค่ 500 บาท แต่ได้ห้องนอนแบบนี้ถือว่าคุ้มค่ามากมาย นอนได้ 2 คนสรุปคนละ 250 บาทเท่านั้น ถูกมาก
เราถามเรื่องสถานที่เที่ยวต่างๆ เขาก็ส่งกระป๋องอากาศมาให้เลย ราคา 28 หยวน เขาบอกพกไว้ก่อนเพื่อไว้กันตาย ฮ่าๆ ถ้าไม่ได้ใช้ก็เอามาคืน เขาจะคืนเงินให้ เราก็พกเพราะน้ำหนักเบามาก
ดูวิวเมืองจากด้านบนโรงแรม จะเห็นว่าเมืองเจริญไปมากแล้ว
เราสั่งบะหมี่เนื้อของที่โรงแรมมากิน อร่อยใช้ได้เลย ไม่แพงด้วย
ทานเสร็จเราก็ออกเดินทางไปวัด จงซานหลิง ด้วยรถที่เราจองไว้ตั้งแต่สถานีซึ่งแพงมาก ตอนแรกเราไม่รู้ว่าการเดินทางไปวัดเป็นยังไง สรุปคนขับรถแค่ไปส่งหน้าที่ซื้อตั๋ว แค่นั้นนนนน คิดเรา 100 หยวน เจ็บมากบอกเลย ถ้าให้โรงแรมเรียกให้แค่ 30 หยวนเท่านั้น ไปกลับ เราโง่แล้วอย่าโง่ตามเรานะ
ตั๋วค่าเข้าวัด 115 หยวน
ด้านหลังที่ซื้อตั๋วจะมีรถรับส่งไปที่วัดจงซานหลิง นั่งไปประมาณ 10 นาที
จากทางเข้าไปตรงขึ้นบันไดประมาณไม่กี่ร้อยขั้น เตี้ยกว่าดอยสุเทพอีก แต่ด้วยความสูงกว่า 3000 เมตร ทำให้เราเหนื่อยกว่าปกติ แต่ก็ไปถึงตัววัดได้ ก็ค่อยๆเดินไป เหนื่อยก็พัก ไม่ต้องรีบนะ
ตัววัดจะแบ่งหลายวิหาร มีองค์พระพุทธรูป องค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ ด้านในไม่ให้ถ่ายรูปจ้า แต่องค์พระสวยงามมากจริงๆ
ตรงวิหารหลัก เราสามารถขึ้นไปด้านบนได้แล้วชมวิวรอบๆวัด สวยๆ
เราออกมาด้านหน้าวัด จะเป็นทะเลสาบ แนะนำว่าต้องเดินมาเลย เพราะเป็นมุมที่สวยจริง ระหว่างทางก็เจอเณรเป็นกลุ่มๆ
บางก็เจอป้าๆ เดินเล่น
วิวฝั่งตรงข้ามจะเห็นวัดทั้งหมด สวย
รอบๆก็จะมีประดับธงสีๆ ลมพัดอ่อนๆ สวย
วิวสะท้อนน้ำ เดินเรื่อยๆสบาย
แต่ตรงทางเดินริมทะเลสาบ จะมีวัวด้วย ระวังให้ดี มันไล่ขวิดเลย วงแตก ฮ่าๆๆๆ
กลับมาที่ตัวเมืองเก่า ตอนนี้คนยังไม่ค่อยคึกคักเท่าไร หลายปีก่อนมีไฟไหม้ใหญ่ไป ตอนนี้กำลังสร้างขึ้นมาใหม่อยู่ เสร็จแค่บางส่วนเท่านั้น
เนื้อจามรีตากแห้งมีขายทั่วไป
บรรยากาศลานในเมือง
วัดต้าฝอ เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในตัวเมืองเก่า
ด้านหน้าวัดเป็นลานกว้าง มีให้เช่าชุดถ่ายรูป หรือพวกของกินพื้นเมืองจากชาวบ้าน
โยเกิร์ตจากนมจามรี อยากให้ลอง มีความข้นและเปรี๊ยวที่แปลกดี
เนื้อเสียบไม้มาล่า อร่อยเลย เนื้อนุ่มออกรสเผ็ดหน่อยๆ ไม่แพงด้วย
ขึ้นไปด้านบนวัดต้อฝอ จะมีกงล้อสวดมนต์ขนาดยักษ์ตรงใช้คนกว่า 20 คนเพื่อหมุน หนักมากจริงๆ ทุกคนต้องออกแรงพร้อมกันถึงจะหมุน เป็นกิมมิคของที่นี้ที่เราชอบมากจริงๆ ใครก็ไม่รู้ ไม่รู้จักกันเลย ทั้งคนจีน ชาวบ้าน คนต่างชาติ อยู่ดีๆก็มาร่วมมือกันหมุนกงล้อนี้ ชอบ
วิวตัวเมืองเก่า จากบนวัด หลังคาไม้แบบเดิมเริ่มหายไปเรื่อยๆแล้ว แทนที่ด้วยหลังคากระเบื้อง
ในตัวเมืองเก่ามีคาเฟ่อยู่หลายร้านมาก เราแนะนำร้าน Compass เลย กาแฟเขานำเสนอจริง แถมของหวานก็อร่อยมากด้วย
บรรยากาศร้านทำจากไม้ทั้งร้าน
เค้กมีให้เลือกหลายแบบ และทางร้านก็ทำเองหมดด้วย
ร้านนี้เป็นสาขาใหม่ ด้านบนมีพื้นที่นั่งชิว มีโต๊ะสนุ๊ก เหมาะแก่การมานั่งชิวๆมาก
แต่ช่วงเย็นแล้วเราสั่ง ชาเครื่องเทศ กับ ชีสเค้ก ชาหอมๆกับชีสเค้กเนื้อแน่น
เราเดินมาที่ลานกลางเมือง จนเจอความน่ารักของเมืองนี้ คือช่วงเย็นประมาณ 6 โมง ชาวบ้านจะมีการมาเต้นเพลงพื้นเมืองกัน ตอนแรกมานิดเดียว ซักพักค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อย นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ ก็ร่วมกันอีก เป็นภาพที่น่ารักมาก ดูทุกคนมีความสุข ถึงจะผ่านเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ไป แต่ชาวบ้านก็พยายามให้เมืองนี้มันกลับมีชีวิตอีกครั้ง
เรากลับไปที่ด้านบนของวัดต้าฝอ ชมแสงเย็นสวยๆ ก็ยังมีคนหมุนกงล้อยักษ์อยู่ตลอด
อาหารที่ห้ามพลาดเลยเมื่อถึงที่นี้ คือหม้อไฟจามรี อร่อยมาก แต่ก็มันพอสมควร กินเยอะๆเลี่ยนเหมือนกัน ปากนี้มันมาก เหมาะกับทานเวลาอากาศหนาวๆมาก แนะนำว่าให้สั่งหม้อเล็ก หม้อเล็กของเขา คือหม้อไฟบ้านเราเนี่ยแหละ กินได้ 2-3 คนสบายๆเลย ถ้าสั่งใหญ่ บอกเลยว่ามาเป็นหม้อไฟยักษ์กินได้มากกว่า 5 คนเลยทีเดียว
เนี่ยหม้อเล็ก เนื้ออัดมาเต็มหม้อ สั่งข้าวสวยมาคนละถ้วย กินกัน 2 คนอิ่มจุกกันเลยทีเดียว
บรรยากาศในเมืองช่วงค่ำ เรามาฤดู Low season คนเลยน้อยๆ แนะนำว่าซื้อไม้เท้าเดินเขาที่นี้ด้วย ต่อได้เหลือประมาณ 20-25 หยวน บอกเลยว่าช่วยชีวิตมากสำหรับการปีนเขาที่ย่าติง
เราจะเห็นผับแอบตามบ้านต่างๆ มีหลายร้านอยู่
เช้า เรารีบมาที่สถานีรถออก 8 โมงเช้า เผื่อไปเมือง ต้าเฉิง (เวลารถนี้จะไม่เหมือนกันในแต่ฤดู ต้องดูตอนซื้อตั๋วเองนะ)
ด้านหน้าสถานีมีของกินเต็ม แนะนำว่าซื้อเลยเป็นเสบียงระหว่างทาง อร่อย เพราะต้องเดินทางถึง 10 ชม.เลยทีเดียว แนะนำว่าอย่ากินน้ำเยอะ เพราะตลอด 10 ชม.แวะจอดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น กินน้ำเฉพาะคอแห้งจริงๆ จิบพอ งั้นทรมาณแย่ จริงก็จะมีแวะเติมน้ำรถบ้างระหว่างทาง บางจุด แต่ถ้าเป็นผู้หญิงลำบากแน่ๆ ไม่มีห้องน้ำ ก็อยากกินอะไรเยอะเลยระหว่างทางเนี่ย
บรรยากาศระหว่างทาง สวยยยยยย
เมื่อถึงครึ่งทางก็จะถึงจุดแวะ มีร้านอาหารของชาวบ้านบริการอยู่ เหมือนร้านข้าวแกงบ้านเราเลย อยากกินไรก็ตักๆ เราไม่ได้กิน เรามีเสบียงเตรียมมาไว้แล้ว
ส่วนเรื่องห้องน้ำ… เรียกว่าสยอง ไม่มีประตู บอกเลยว่าเข้าไปในป่าดีกว่า ฮ่าๆๆๆ แม้แต่ผู้ชายแบบเรายังไม่อยากเข้าเลย
ออกเดินทางก็ต่อ ถนนจะวิ่งไต่เขาไปเรื่อยๆ เลี๊ยวไปเลี๊ยวมา แต่วิวนี้งามจริง
เราถึงสถานีรถเต้าเฉิงประมาณ 6 โมงเย็นนี่ถือว่าเร็วแล้ว ถ้าเจอฝนตกระหว่างทางจะช้ายิ่งกว่านี้อีก แผนของเราคือเดินทางไปที่เมืองย่าติงเลย เราเลยหาพวก บางครั้งได้ชาวต่างชาติก็ดี แต่เรามามีแต่คนจีน ก็เจอ 3 คนพอดี รวมกับเราอีก 2 เป็น 5 คน คิดราคาคนละ 50 หยวน ก็โอเคอยู่ ปกติเหมารถไปประมาณ 100-200 หยวน
รถส่วนมากเป็นแบบจิ๊ป ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
มีบริการแวะจอดถ่ายรูปด้วย แต่ก็แล้วแต่รถนะ พอดีคนจีนที่มาด้วยบอกเขาว่าให้จอด เราเลยได้ลงมาถ่ายรูป
นั่งอยู่ดีๆ คนขับเปลี่ยนเป็นพระเฉย ฮ่าๆ คืนคนขับเหมือนแวะรับญาติที่เป็นพระ แต่รถมันเต็มพอดี เขาเลยให้พระขับไปแทนเลย ตลกดี ฮ่าๆ
มาถึงเมือง Riwa Town หรือ แชงกรีล่า (คนละที่กับที่เรามานะ) เป็นเมืองก่อนถึงอุทยานประมาณ 1 กิโล แผนคนที่เป็นสายลุย หรืออยากอยู่ในอุทยานเย็นๆ คือ นอนในเมือง 1 คืน แล้วอีก 1 คืนไปนอนหมู่บ้านในอุทยานอีก 1 คืน แต่เราไม่รู้ไง เราเลยจองที่นี้ 2 คืนเลย แต่ไม่เป็นไรนะ ในเมืองถือว่าสะดวกดีเพราะของกินมีเต็มเลย ด้านในของกินจะไม่ค่อยมี
เรานอนที่ Riwa Youth Hostel เรานอนแบบห้องนอนรวม ราคาถูกมาก คนละ 50 หยวนเองมั้ง
ห้องน้ำแบบจีน ถ้าไม่ซีเรียสมาก ถือว่าโอเคอยู่ จริงก็มีห้องแบบมีห้องน้ำในตัวนะ แต่เราไปแล้วเต็มหมดเลย
ออกมาหาอะไรกินที่ตัวเมือง มีร้านอาหารอยู่หลายสิบร้านอยู่ เราเลือกร้านหมาล่าปิ้งย่าง จะมีให้เลือกหลายอย่าง เนื้อ หมู ไก่ ผัก แล้วแต่เลย เราก็หยิบๆใส่ถาด เขาก็เอาไปย่างต่อ ราคาไม่แพง 5-15 หยวนต่อไม้แล้วแต่ชนิด อย่างไก่ตก 10 หยวน อร่อยด้วย
**ข้อแนะนำว่าให้ซื้อเสบียงพวกน้ำเปล่า อาหารเพิ่งพลังงาน ช๊อกโกแล็ค สำหรับปีนเขาด้วย ในอุทยานระหว่างปีน ไม่มีขายนะ เตรียมให้พอ
ตอนเช้าอีกวันเรา ต้องหารถเพื่อไปที่ขายตั๋วของอุทยาน ปัญหาแรกคือรถจากเมืองไปที่อุทยานนั้นแหละ คือมันไม่มีรถรับส่งสาธารณะ เออ เราก็งงนะ ทำไมไม่มี ถามคนนู่นนี่ก็งงๆ สรุปวิธีเดินทางไปง่ายที่สุด คือยืนริมถนนแบบนักท่องเที่ยวงงๆ เนี่ยแหละ ประมาณ 7 โมงเช้า จะมีรถชาวบ้านเนี่ยแหละ มาถามว่าจะไปไหน เราก็บอกย่าติง เขาก็ให้ขึ้นรถ ตกคนละ 5-10 หยวน ตลกดีวิธีเดินทาง (เราออกมาตั้งแต่ 6 โมงยังไม่มีรถซักคัน ฮ่าๆ เดินงงไปมาอยู่นั้นล่ะ)
**พกกระป๋องออกซิเจนไปด้วย ช่วยชีวิตมากสำหรับคนที่รู้สึกหายใจไม่ทัน มีอาการหน้ามืด ช่วยได้จริงๆ จำเป็นต้องพกไว้ฉุกเฉิน**
เราวางแผนสำหรับย่าติงไว้ 2 วัน
Day 1
- ออกจากที่พักไปอุทยานย่าติง (รวมค่ารถในอุทยาน (150+120) = 270 หยวน *ได้ 2 วัน) ค่ารถวันแรก 120 หยวน วันสองเหลือ 60 หยวน
- รถ กอล์ฟ ไปกลับ(80 หยวน)
- ทุ่งหลัวหลง (洛绒牛场)
- เที่ยวทะเลสาบน้ำนม (牛奶海หนิวหน่ายไฮ่ )
- ทะเลสาบห้าสี (五色海อู่เซ่อไห่)เดิน 5 km
- นอนพักอุทยาน ย่าติง Yading Village
Day 2
- เดินทางไปอุทยานย่าติง
- ลงตรง จาก้วนเปิง(扎灌崩)
- วัดชงกู่(冲古寺)
- ทะเลสาบไข่มุก (Zhen Zhu Hai 珍珠海) (แต่ป้ายอุทยานเขียน Zhoumala Lake 卓马拉措)
- บ่ายกลับไปนอนที่เต้าเฉิง (100 หยวน)
- จองรถกลับแชงกรีล่าตอนเช้าพรุ่งนี้ (111 หยวน)
- นอนเต้าเฉิง Douchengdao Home Inn
ค่าเข้าอุทยานย่าติง (รวมค่ารถในอุทยาน (150+120) = 270 หยวน ตั๋วเข้าได้ 2 วัน) ค่ารถวันแรก 120 หยวน วันสองเหลือ 60 หยวน
ใช้เวลาไปถึงตัวอุทยานประมาณ 50 นาที ทางค่อนข้างโค้งไปโค้งมารถบัสเลยเตรียมถุงไว้ทุกที่นั่ง ระหว่างนั่งรถไปเรื่อยๆก็จะเริ่มเห็นยอดเขาแล้ว สวยมากกกกก
รถบัสจะจอดถึงด้านหน้าอุทยาน เดินอีกประมาณ 200 เมตรถึงจุดแยกวัดชงกู่ จะแบ่งทางเดินเป็น 2 ทาง ทางเดินไกลไปที่ทะเลสาบน้ำนม กับ ทางใกล้ไปทะเลสาบไข่มุก วันแรกเราเลือกไปทางไกลก่อนเลย
แค่ทางเข้าก็สวยมากกกก
ค่ารถกอล์ฟ ขาเดียว 50 ไปกลับ 90 บอกเลยว่าซื้อไปกลับเลย ล่นระยะทางได้ 5 กิโล อย่ายอมเดินเลย ออมแรงไว้ปีนเขาดีกว่า ขากลับ รับรองว่าทุกคนจะบ่นขอไม่เดินอีกแล้ววววววว
เข้ามาถึงด้านในมีที่พักด้วย!! แต่เราไม่รู้ว่าจองยังไง คงเป็นภาษาจีนล้วนๆ ระยะทางเดินไปถึงทะเลสาบน้ำนมประมาณ 5 กม. ดูเหมือนไม่ไกลมาก แต่ปัญหาคือมันเป็นทางขึ้นชันไปเรื่อยๆ จาก 3000 กว่าจน 4000 กว่าเมตรเลยทีเดียว เพราะงั้นหายใจลำบากแน่นอน
เดินมาช่วงแรกทุ่งลั่วหลง ยังกับอยู่ยุโรป หรือ นิวซีแลนด์ เป็นวิวที่สวยเว่อร์มากกกกกก ทุ่งสีเขียว ดอกไม้ขึ้นเป็นย่อมๆ หลังเป็นเขาหิมะ แบบแค่อยู่ตรงนี้ก็ก็ประทับใจตายไปเลยยย เราอยู่ถ่ายที่นี้ประมาณชั่วโมงกว่าเลยทีเดียว
สำหรับคนที่คิดว่าเดินไม่ไหวแน่ๆ เพราะทางเดินก็โหดเอาเรื่องอยู่ จะมีบริการขี่ลาอยู่ ตกคนละ 300 หยวน แต่ก็จะมีให้เดินช่วงที่ชันมากด้วย ตรงงนั้นแหละ โหดสุด ชันจนขี่ลาไม่ได้ ต้องเดินขึ้นเอง
วิวสะท้อนน้ำแบบงามมากกกกกกก (ตรงนี้ห้ามเข้านะ ตอนแรกเราเดินตามคนจีนไป พอออกมาเราเพิ่งเห็นป้ายห้าม แต่ก็ถ่ายมาแล้วเอามาให้ดูนะ )
นี้แค่วิวทางเข้านะ ไม่บอกว่าจีน คงไม่เชื่อจริงๆ วิวสวยแบบหยุดหายใจเลยจริง สวยมากกกก
ระหว่างทางเดินก็มีดอกไม้ป่าขึ้นอยู่ตลอด ข้อดีของมาฤดูใบไม้ผลิเลย
ระหว่างทางก็จะเจอบ้านของชาวบ้านท้องถิ่นตั้งอยู่ตลอดทาง
จุดแรกที่ถึง เป็นทะเลสาบ อันนี้ยังไม่ถึงนะ เห็นหลายคนเฮแล้ว คิดว่าถึง แต่มันไม่ใช่แค่กิโลเดียวเท่านั้นนน ฮ่าๆๆๆ แล้วตรงนี้ส่วนมากแค่เป็นเนิน ยังไม่ใช่ทางชัน
เริ่มมาถึงจุดทางชันแล้ว จะเจอกับลาตลอดทาง ตรงไหนที่ลาไม่มีคนแปลกว่าตรงนั้นชันมาก
วิวระหว่างทางปีน บอกเลยว่าเหนื่อยมากกกกกกกกกก ใครเหนื่อยก็นั่งพักนิดหนึ่ง แต่แนะนำว่าอย่าพักนานเกิน กล้ามเนื้อจะคลายตัวทำให้เดินไม่ไหวเหนื่อยกว่าเดิม
ไม่ต้องห่วงมีเพื่อนนั่งพักทุกจุด ทุกที่ระหว่างทาง ฮ่าๆ
เมื่อถึงจุดที่ธงเยอะๆ แปลว่าหมดช่วงทางชันแล้ว แต่เหลือทางให้เดินไปเรื่อยๆอีก ประมาณ 2 กิโล แต่เดินสบายขึ้นแล้ว
ถึงจะเหนื่อย แต่วิวก็สวยมากเช่นกัน ค่อยๆเดินไปเดี๋ยวก็ถึง
ถ้าเจอน้ำตกแปลว่าใกล้ทะเลสาบน้ำนมแล้วววววว แค่กิโลเดียวเท่านั้น
ถึงแล้วทะเลสาบน้ำนม สวยมากกกก เรานั่งพัก นั่งกินอาหาร ใช้เวลานั่งอยู่ที่นี้เฉยๆ แบบนั่งมอง เกือบ 2 ชั่วโมงเลย แบบเรามาถึงที่นี้จนได้ หลายคนเดินมาไม่ถึงด้วยซ้ำ หรือบางวันอากาศแย่มากๆ ก็เดินไปไม่ได้เหมือนกัน แต่เรามาถึงจุดๆนี้ได้ แบบว่าฟินมาก! สวยแบบชีวิตนี้ต้องมาให้ได้ซักครั้ง
ค่อยๆดูภาพเราไปล่ะกันว่าที่นี้มันสวรรค์ขนาดไหน
มีทางไปต่อถึงทะเลสาบห้าสีด้วยอีก 500 เมตร แต่ทางชันแบบ 45 องศาเลยทีเดียว ใครมีแรงก็เดินขึ้นไปต่อได้
ตอนนี้ประมาณบ่าย 2 แล้ว เราดูพยากรณ์ไว้ว่าฝนจะตกหนัก เราเลยรีบเดินลงดีกว่าเพราะก็เห็นเมฆดำมาแต่ไกลแล้ว เดินขึ้นใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ขาลงประมาณชั่วโมงกว่า สบายกว่าขึ้นเยอะ และพอเราเกือบถึงจุดขึ้นรถกอล์ฟ ฝนก็ตกหนัก มีลูกเห็บตกด้วย เรารอดแล้ว สงสารคนที่ยังอยู่ด้านบน ไม่รู้เป็นไงบ้าง เพราะงั้นเวลาต้องเดินป่า ขึ้นเขา ดูพยากรณ์อากาศด้วยนะ ได้วางแผนเดินถูก งั้นแย่แน่
จบวันแรก ขานี้ตึงมาก ไปถึงโฮสเทลแล้ว หลับแบบตายเลยยยยยยย
**คนพื้นราบแบบเรา ไม่ควรดื่มเบียร์นะ อาจทำให้เกิดอาการแก้ความสูงได้ เพราะความดันสูงขึ้น
วันที่สอง วันนี้เราไม่โง่แบบเมื่อวานแล้ว ไม่รีบออกเลย รอเวลาเกือบ 7 โมงเช้าค่อยไปยืนข้างถนนซักพัก็มีคนเรียกขึ้นรถ ตกคนละ 5 หยวนเท่านั้น ฮ่าๆ
วันที่สองซื้อตั๋วรถบัสอย่างเดียว แค่ครึ่งราคา 60 หยวนเท่านั้น เตรียมตั๋วอันเก่าไว้โชว์ด้วยนะ
วิวจอดรถระหว่างทาง งาม
วันที่สองเราเดินไปทะเลสาบไข่มุก (Zhouma La Lake) มาแต่เช้าเลยดีมาก คนไม่เยอะ ตอนขาลงคนเริ่มขึ้นมาเต็มเลย ถ่ายรูปไม่สวยแน่ ระยะทางประมาณ 1.2 กิโล
ทางเดินฝั่งทะเลสาบไข่มุก ทำทางไว้ดีมาก เดินสบาย แต่ก็มีทางขึ้นไปเรื่อยๆตลอดทาง
ใกล้ถึงทะเลสาบไข่มุกแล้ว งาม
แล้วก็ถึงแล้วทะเลสาบไข่มุก ช่วงเช้าอากาศยังดี เห็นวิวสะท้อนน้ำ ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ร่วงคงสวยกว่านี้มาก
เราเดินออกมาด้านนอก ตรงช่วงทางเดินไปทะเลสาบห้าสี ที่เรานั่งรถกอล์ฟไปนั้นแหละ เราเดินไปอีกหน่อยจะเจอกับทุ่งแล้วมีลำธารไล่ผ่าน วิวตรงนี้แบบสวยที่สุดในชีวิตแห่งหนึ่งเลย สวยมากๆ เราแบบนั่ง นอนถ่ายรูปเป็นชั่วโมง สวยแบบมาเห็นด้วยตาเหอะ นี้มา CG เปล่าเนี่ย เหมือนทุกอย่างสร้างขึ้นมาให้สวยกว่าปกติ อยากให้ทุกคนเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ แล้วจะรู้สึกว่าชีวิตนี้คุ้มค่ามากที่มาถึงจุดนี้ได้
ไม่พูดมาก ดูรูปเหอะ แล้วตามรอยเราซะ!
นี้มัน CG ชัดๆ มีที่สวยขนาดนี้ด้วยหรอ
บอกเลยว่า มาย่าติง เหอะ ไม่ผิดหวัง สวยจริง
แล้วเราก็หารถกลับมาที่เมืองเต้าเฉิง เราเจอแท็กซี่ที่คิดราคา 100 หยวน แถมซิ่งมากครึ่งชั่วโมงถึงเมืองเต้าเฉิงแล้ว แล้วอย่าลืมแวะสถานีรถบัสเพื่อจองตั๋วกลับแชงกรีล่ารอบเช้าด้วย ห้ามลืม! มีรอบเดียวและมีสิทธิเต็ม
เราพักที่โรงแรม Douchengdao Home Inn โรงแรมนี้ตอนแรกเราหาไม่เจอสรุปอยู่สุดซอยเลย ถ้าดูตามกูเกิ้ลแมพจะหาไม่เจอ ให้เดินไปเรื่อยจนสุดซอย ข้ามสะพานเล็กๆ จะเห็น Youth Hostel แปลถูกทางแล้ว เดินต่อจนสุดซอยก็จะเจอกับโรงแรม Douchengdao Home Inn
โรงแรมเพิ่งเปิดได้ไม่นานเลย ใหม่มาก ทุกอย่างสะอาด แถมเจ้าของพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แต่ก็ใช้ google translate กับเราจนรู้เรื่อง ดีมากๆ มาถึงเรานอนตายกันเลยทีเดียว เราสั่งอาหารมื้อเย็นไว้ด้วย แบบตื่นมากินเลย เพราะขึ้เกียจจะเดินไปไหนแล้ว เหนื่อยมาก ฮ่าๆ
เราออกจากโรงแรมตั้งแต่ตี 5.30 เพราะรถออก 6.30 โรงแรมไม่ไกลจากสถานี เจ้าของขับรถไปส่งเราที่สถานี บริการดีมากเลย
เราถึงแชงกรีล่าประมาณ 4 โมงเย็น เราก็มาจองตั๋วกลับคุนหมิงกัน ด้วยที่เมื่อคืนฝนตกหนักมาก และระหว่างที่เรากลับทางเต็มไปด้วยหินถล่ม เราเลยห่วงว่าขากลับพรุ่งนี้อาจล่าช้ากว่ากำหนดได้ แล้วเราต้องนั่งเครื่องกลับตอนเที่ยงในอีกวันด้วย เราเลยจองกลับตอนบ่าย 2 เลยเผื่อเวลาไว้ ทำให้ถึงคุนหมิงประมาณเที่ยงคืน
เราพักที่ Kevin’s Trekker Inn เหมือนเดิม แล้วก็เดินเข้ามาตัวเมืองเก่าหาไรกิน
ร้านกาแฟเยอะจริง เพราะยูนนานเป็นแหล่งปลูกกาแฟนั้นเอง
ในเมืองเราจะหมาเยอะ ตัวใหญ่ๆ ขนหนา น่ารักมากกกก เต็มเมืองไปหมด รัก
เรากลับมาที่ร้าน Compass มากินกาแฟ อร่อยใช้ได้เลย กับทิรามุสุ อร่อยมากกกกกกกก ห้ามพลาด
เราต่อมาเราก็ไม่กินที่ร้านอาหารเนปาล Bhaskar Resto เป็นร้านอาหารพื้นเมือง ทั้งเนปาล ทิเบต ยูนนาน เราสั่งเมนูจามรีหมดเลย แกงจามรีกับแป้งนาน ซี่โครงจามรีต้ม และเบียร์จามรี อร่อยทุกอย่างงงงงง ดีถึงดีที่สุด ร้านนี้เราแนะนำว่าต้องมาทาน
เช้าอีกวันเราเดินทางไป ทะเลสาบนาปา เสียค่ารถเหมา 120 หยวน แล้วให้เขาส่งที่สถานีรถบัสด้วยตอนบ่าย ค่าเข้าทะเลสาบคนละ 60 หยวน (โดยความจริงเราอาจไม่จำเป็นตัวเสียด้วยซ้ำ เพราะไม่มีคนตรวจแล้วก็ไม่เห็นว่ามีอะไรพิเศษที่เราต้องเสียเงินด้วย มีฝรั่ง 3 คนมากับเราด้วย ซึ่งมีคนพูดจีนได้ด้วย เขาก็บ่นๆ ว่าเขาไปถามคนจีนที่ขับรถมาเที่ยวแล้วว่าเขาไม่เสียเงิน 60 หยวนเลย เราก็งงๆ เหมือนกัน เพราะ 60 หยวนดูไม่คุ้ม เลย เราเลยถามโฮสเทล เขาก็บอกว่าเขาเอาเงินไปซ่อมถนนรอบทะเลสาบ กับ คนขับได้เงินนิดหน่อย.. ก็นั้นล่ะนะ..)
ช่วงที่เรามาน้ำจะแห้ง และจะใกล้เป็นทุ่งหญ้า ฤดูนี้จะมีลูกสัตว์เยอะมาก เราเห็นความน่ารักของสัตว์แบบต่างๆ ตอนแรกเราคิดว่าจะเจอม้าเยอะๆ ไปๆมาๆเจอลูกหมูตัวจิ๋วน่ารักเต็มไปหมด แล้วลูกวัวจามรีที่ตัวเล็กและขนไม่ยาวมาก น่ารักมาก
วัวเด็ก น่ารักมาก
หลังจากนั้นก็วนรอบทะเลสาบ ถ่ายรูปทะเลสาบ แต่บอกเลยถ่ายรูปสัตว์ฟินกว่า น่ารักกว่า บอกคนขับรถไปเลยว่าจะถ่ายตรงนี้นานๆ เพราะคนขับรถพยายามให้เราไปเร็วๆ แบบเขาบอกว่าทะเลสาบสวยกว่า เหมือนเห็นสัตว์ทุกวันแล้วไง ฮ่าๆๆ เลยคิดว่าพวกเราไม่สนใจ จริงช่างภาพแบบเราสนใจจะถ่ายรูปสัตว์มากกว่า
เรานั่งรถกลับจากแชงกรีล่าถึงคุนหมิงประมาณเที่ยงคืน สรุปว่ารถไม่ติดเลย ไม่มีถนนพัง ฝนไม่ตก ถึงตรงเวลา เราเลยจองที่พักใกล้สนามบิน Jinjiang Inn ราคาแค่ 700 บาทเท่านั้น ถูกมากแถมมีบริการรถรับส่งสนามบินด้วย เราเลยจองที่นี้
จากสถานีรถบัส รถบัสหมดแล้ว เราเลยนั่งรถแท็กซี่ไปโรงแรม 150 หยวน โรงแรมสะอาดมาก ดีมาก เรารีบอาบน้ำแล้วนอนเลย ไม่ได้เจอเตียงแบบนี้นานหลายวัน ฮ่าๆ รอบๆโรงแรมมีร้านอาหาร ร้านขายของฝากด้วย เที่ยงคืนแล้วยังไม่ปิดเลย นอนไม่หลับก็เดินดูนะ ฮ่าๆ แต่เรานอนดีกว่า ไม่ไหวแล้ว
เช้า เราออกจากโรงแรม 9 โมงเช้าไปถึงสนามบินเลย เช็คอินแล้วก็กลับด้วยสายการบิน Airasia เวลา 12.30 ประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็ถึงดอนเมืองแล้ว ใกล้มากมาย ขับรถจากกรุงเทพไปพัทยานังนานกว่า ฮ่าๆ
แล้วก็จบแล้วกับทริปตามความฝัน คุนหมิง แชงกรีล่า ย่าติง หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยหลายๆท่านในการเดินทางไปย่าติง เพราะเราทั้งสรุป ทั้งบอกทุกสิ่งอย่างจนน่าจะครบหมดแล้วในรีวิวนี้
เราขอย้ำอีกครั้งไปที่นี้ ย่าติง รับรองไม่ผิดหวัง และไม่มีวันลืมกับวิวที่นี้
ขอขอบคุณ Airasiago และ ThaiAirasia สำหรับทริปนี้ด้วย
สนใจจองเที่ยวบินและที่พัก ได้ที่ https://thailand.airasiago.com มีโปรโมชั่นใหม่ๆทุก
วัน